เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงหวั่นไหวกับเปปเปอร์อีกครั้ง ตัวเองเคยสาบานไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะไม่รักผู้ชายคนนี้อีก แต่ตอนนี้เธอกลับรักเขาอย่างไม่รู้ตัว
อย่าบอกนะว่า เขาเป็นความโชคร้ายในชีวิตนี้ของเธอ หนีไม่ได้ เลี่ยงไม่พ้น
มายมิ้นท์กัดปากล่างแน่น จิตใจสับสนวุ่นวายจนอธิบายไม่ได้
เธอเพิ่งเข้าใจว่าทำไมช่วงนี้ถึงแคร์เปปเปอร์ขนาดนี้ เห็นเขาใส่ใจตัวเองก็รู้สึกมีความสุข เห็นเขาเจ็บ ก็เป็นกังวล เห็นเขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น ก็รู้สึกหงุดหงิดใจ
ต้นตอทั้งหมดนี้ เพราะเธอรักเขา
มายมิ้นท์ตัวสั่นเล็กน้อย เอามือสองข้างกุมหัว
เธอกำลังคิดว่าตัวเองหวั่นไหวกับเปปเปอร์ตั้งแต่ตอนไหน
ไม่นาน ความทรงจำมากมายฉายขึ้นในหัวของเธอ หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็เคลียร์เหตุผลบางส่วนได้
เธอรู้แล้วว่าตัวเองหวั่นไหวกับเปปเปอร์ตอนไหน
ตอนที่โดนองอาจลักพาตัว แล้วเปปเปอร์ตกหน้าผาตามเธอไป โดยไม่สนใจชีวิตตัวเอง
บางทีในตอนนั้น เปปเปอร์อาจเริ่มเข้ามาอยู่ในใจเธออีกครั้งแล้ว
เพราะการที่โดดหน้าผาแบบไม่คิดชีวิต เพียงเพราะช่วยเธอ เปปเปอร์ทำแบบนี้ ทำให้สะกิดใจเธอ
อีกทั้งต่อมา ท่าทีของเขาที่มีต่อเธอ ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี ไม่เฉยชาเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งยังมีโอกาสใกล้ชิดเขามากขึ้นด้วย ต่อมาหลังจากนั้น เปปเปอร์ยังเคยช่วยเธออีก
ดังนั้น เธอจะไม่หวั่นไหวกับเขาได้ยังไง!
ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีเขาเคยเป็นคนที่เธอรัก งั้นจะรักเขาอีกครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าสักหน่อย
หรือบางที เธอก็ไม่เคยปล่อยเขาไปเลย.....
ยิ่งคิด มายมิ้นท์ยิ่งจิตใจสับสน บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้งไปหมด
กิมจิที่อยู่ข้างๆ เห็นดังนั้น จึงกังวลเล็กน้อย “มายมิ้นท์เธอ.....”
“เธอเป็นอะไรไป” กิมจิยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนเปปเปอร์ที่เดินออกมาจากห้องครัว ขัดจังหวะเข้าเสียก่อน
เปปเปอร์เห็นมายมิ้นท์ก้มหน้า ดูผิดปกติ จึงรีบเดินข้ามขาเตียง เข้าไปข้างเธอ วางมือลงบนไหล่เธอ
มายมิ้นท์ตัวชะงักไป หันไปมองมือบนไหล่ตัวเอง ตระหนกตกใจ จากนั้นจึงเอามือเขาออก ละสายตามามองกิมจิ เปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า “ใช่สิจิ จู่ๆ เธอมาที่นี่ มีธุระอะไรหรือเปล่า”
จู่ๆ เธอไม่รู้จะมองหน้าเปปเปอร์อย่างไร
เพราะเธอรับความจริงที่ตัวเองชอบเขาอีกครั้งไม่ค่อยได้
บางทีหลังจากตัวเองใจเย็น ยอมรับว่าชอบเขาจริงๆ เธออาจจะใจเย็นคบกับเขาอย่างไม่ลำบากใจ
หรือบางทีเมื่อถึงตอนนั้น เธออาจตัดสินใจได้ว่าตัวเองจะอยู่กับเขาหรือไม่
ส่วนตอนนี้ เธอไม่สามารถทำได้จริงๆ
เมื่อเห็นว่ามายมิ้นท์มีท่าทีเปลี่ยนไปกับตัวเอง หลบเขา เหมือนกำลังหลบความน่ากลัวอะไรบางอย่าง แววตาเปปเปอร์หม่นหลง แล้วพูดว่า “มายมิ้นท์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า ฉันสบายดี” มายมิ้นท์หลุบตาลง ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างชัดเจน
เปปเปอร์ยื่นมือไปเชยคางเธอขึ้น ก้มลงจ้องเธอ “มองผมแล้วตอบ คุณเป็นอะไรกันแน่”
แค่เขาเอาถ้วยไปวาง จัดการกับซุปแก้เมาในหม้อแล้วกลับมา ทำไมเธอถึงมีท่าทีเปลี่ยนไปกับเขา
กิมจิหลับตาลง หลังเรียบเรียงคำพูดครู่หนึ่ง จึงพูดออกมาช้าๆ ว่า “ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่า ฉันรู้นานแล้วว่าคชาแอบนอกใจฉัน ไปมีคนรัก ฉันรู้ว่าคนรักคนนั้นชื่อดารามาย แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ได้คิดว่าหล่อนมีความสัมพันธ์กับเธอ เลยไม่ได้ไปสืบ เพราะคนรักที่คบกันแบบลับๆ ไม่มีค่าให้ฉันใส่ใจ อีกทั้งยังเป็นเรื่องขายหน้าด้วย จนกระทั่งคุณเปปเปอร์คุยกับพ่อคชาเรื่องดารามายเมื่อคืน พ่อคชามาที่บ้านฉัน หลังจากคุยกับพ่อฉัน ฉันเพิ่งรู้ว่าดารามายเป็นน้องสาวเธอ จู่ๆ ฉันก็นึกถึงเรื่องที่ฉันบังเอิญได้ยินเมื่อไม่กี่เดือนก่อนขึ้นมาได้”
มายมิ้นท์หันไปมองผู้ชายข้างๆ อย่างแปลกใจ
เขาไปคุยเรื่องดารามายกับพ่อสามีในอนาคตของจิงั้นเหรอ!
แต่เขาพูดถึงดารามายทำไมกัน
เหมือนเดาความคิดของมายมิ้นท์ได้ เปปเปอร์ยกแก้วน้ำขึ้นจิบ แล้วตอบว่า “คุณไม่อยากให้ดารามายเป็นมือที่สามต่อไปไม่ใช่เหรอ งั้นให้ตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์เขี่ยเธอทิ้ง เธอก็เป็นมือที่สามไม่ได้แล้ว ดังนั้นเมื่อคืนผมเลยคุยเรื่องนี้กับพ่อคชา”
เมื่อมายมิ้นท์ฟังเขาพูดจบ เธอทั้งโกรธและตลกมาก “ลำบากนายแล้ว”
ที่เธอโกรธคือ เขาคิดเองทำเอง โดยไม่ผ่านความเห็นของเธอ
แต่ที่ตลกก็คือ ถึงวิธีของเขาจะตรงและหยาบคาย แต่มันได้ผลมาก
“ไม่ลำบากหรอก” เปปเปอร์ยกยิ้ม จากนั้นปรายตามองกิมจิ “พูดต่อสิ คุณได้ยินอะไร”
กิมจิมองมายมิ้นท์ “ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ตอนฉันไปชอปปิงที่ห้างกับพวกน้องๆ เจอดารามาย ตอนนั้นเธอกำลังโทรศัพท์ เลยไม่เห็นฉัน ดังนั้นฉันเลยแอบได้ยินเรื่องที่น่าตกใจมาก ดารามายพูดว่า ขนาดพ่อตัวเองเธอยังฆ่าตายได้ จะกลัวอะไรกะอีแค่พี่สาวที่มีสายเลือดเพียงครึ่งเดียว”
“เธอว่าอะไรนะ เธอว่า......” มายมิ้นท์ลุกขึ้นยืน ตัวสั่นอย่างรุนแรง ใบหน้าซีดเผือด เสียงสั่นเครืออย่างชัดเจน “เธอบอกว่า.....เธอได้ยินดารามายพูดว่า พ่อฉันโดนดารามายฆ่าตายเหรอ”
เปปเปอร์ก็สีหน้าเปลี่ยนไป หรี่ตาลงเบาๆ
ไตรภูมิไม่ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายเหรอ
ตอนไตรภูมิฆ่าตัวตาย ดารามายหอบเงินหนีไปแล้ว ทำไมเกี่ยวกับดารามายได้ล่ะ
“ใช่” กิมจิพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ตอนนั้นฉันได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน ถึงขนาดที่ตกใจจนเกือบโดนเธอจับได้ ดารามายพูดว่าพ่อเธอโดนเธอกับแม่วางยา วางยาที่ทำให้สติและร่างกายของเขาแย่ลงเรื่อยๆ ทำให้ร่างกายและสติของพ่อเธอทรุดลงเรื่อยๆ หลังใกล้จะไร้สติแล้ว แค่พูดใส่นิดหน่อย พ่อเธอก็จะจบชีวิตด้วยตัวเอง และไม่มีทางสงสัยว่าเป็นแผนร้าย อีกทั้งเธอยังขอบคุณคนที่คุยด้วยในโทรศัพท์ ที่ให้ยากับเธอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...