มายมิ้นทฺถอดแว่นออกมาพร้อมหันมามอง ถึงได้พบว่าหัวของเปปเปอร์กำลังกดทับอยู่ที่ไหล่
เธอขยับไหล่ เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “เปปเปอร์?”
ชายหนุ่มไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับ
มายมิ้นท์ชะโงกหน้าเข้าไปดู โดยอาศัยแสงสว่างจากหน้าจอ จึงเห็นว่าดวงตาทั้งสองข้างของชายหนุ่มปิดสนิท รวมไปถึงใบหน้าที่นิ่งสงบ
นี่เขาหลับเหรอ?
มายมิ้นท์แปลกใจ รู้สึกหมดคำจะพูด
หนังเรื่องนี้มันไม่สนุกขนาดนั้นเลยเหรอ เขาถึงหลับได้
แต่จะว่าไปแล้ว ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะพาดหัวว่าเป็นหนังสงครามในประเทศ แต่จริงๆแล้วเนื้อเรื่องมันเกี่ยวกับความรักต่างหาก
จึงไม่แปลกที่ผู้ชายทั่วไปทนดูหนังอะไรแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งเป็นเขายิ่งแล้วใหญ่
“ในเมื่อไม่ชอบดูหนังรัก แล้วซื้อตั๋วมาทำไมนะ?” มายมิ้นท์มองใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังหลับสนิท เอ่ยพูดงึมงำอย่างไม่รู้ว่าควรขำหรือร้องไห้ดี
เธอไม่ปลุกชายหนุ่ม หนังเพิ่งเริ่มได้ครึ่งชั่วโมงเอง อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะจบ ถ้าปลุกเขา เขาก็คงไม่ดูอยู่ดี ปล่อยให้เขานอนๆไปยังจะดีกว่า
มายมิ้นท์เอื้อมมือไปจัดเสื้อคลุมให้เปปเปอร์ดีๆ
แม้ว่าอุณหภูมิในโรงหนังจะอบอุ่น ถ้าไม่หลับก็ไม่รู้สึกหนาว แต่ตอนนอนต้องมีหนาวแน่ๆ
เธอไม่มีเสื้อคลุมให้เขา ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้ก็คือ จัดเสื้อของเขาให้เข้าที่ แบบนี้ค่อยอุ่นขึ้นมาหน่อย
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ มายมิ้นท์ถึงได้ใส่แว่นกลับคืนแล้วหันไปดูหนังต่อ
วินาทีที่เธอหันไปมองหน้าจอ ชายหนุ่มที่หลับอยู่บนไหล่ของเธอ พลันลืมตาพรึบขึ้นมา
เขาไม่ด้ขยับศีราะ เพียงแค่ขยับเปลือกตา หลุบลงมองข้างล่าง
เมื่อเห็นว่ากระดุมเสื้อของตัวเองถูกติดครบ มุมปากของเขาก็ยกโค้งเป็นรอยยิ้ม
เมื่อกี้เขาเผลอหลับไปจริงๆ แต่เขาตื่นตั้งแต่ที่เธอเอ่ยเรียกเขาเสียงเบาแล้ว
เขาแค่ไม่ได้ลืมตาแค่นั้น เขายังคิดอยู่เลย ว่าเธอจะตะโกนปลุกเขาหรือเปล่า
แต่สิ่งที่ทำให้คิดไม่ถึงก็คือ เธอไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่กลับปล่อยให้เขานอนต่อ แถมยังช่วยติดกระดุมให้เขาเพราะว่าเขาจะหนาว ไหนจะจัดตำแหน่งศีรษะของเขาให้นอนสบายๆ
การกระทำที่อบอุ่นแบบนี้ ทำเอาเขาแทบอยากลืมตาคว้าเธอมากอดเอาไว้
แต่ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเธอคิดว่า เขากำลังหลับอยู่ ถ้าขืนเขาลืมตาล่ะก็ เธอก็จะรู้ว่าเขาแกล้งหลับ และจงใจรอดูปฏิกิริยาของเธอ ไม่แน่เธออาจจะโกรธก็ได้
ดังนั้นไม่ลืมตาจะตาดีกว่า
แต่ว่า มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกอดเธอไม่ได้สักหน่อยนี่
คิดอยู่สักพัก เปปเปอร์ก็ยกมือขวาขึ้นมาโอบรอบเอวนุ่มนิ่มของมายมิ้นท์เอาไว้
มายมิ้นท์ชะงัก ตัวแข็งทื่อ
จู่ๆก็มีคนมากอดแบบนี้ ไม่ตกใจสิแปลก
แต่ว่าตรงมุมนี้ มีแค่เธอกับเปปเปอร์ เพราะฉะนั้นคนที่กำลังกอดเธอคือใคร ก็คงไม่จำเป็นต้องพูด
มุุมปากของเธอกระตุก พร้อมกับก้มลงมอง จึงพบว่ามือของชายหนุ่มกำลังกอดรวบเอวของเธออยู่จริงๆ แถมนิ้วมือยังจับล็อกเอวของเธอเอาไว้อย่างมั่นคง
นี่แปลว่าเขาไม่ได้หลับใช่ไหม?
ถ้าไม่อย่างนั้นมือของเขาจะทำมาถึงขั้นนี้ได้ยังไง?
คนที่กำลังหลับอยู่จริงๆ ถึงจะวางมือลงบนเอวของคนอื่น ยังไงมือก็ต้องหล่นลงข้างตัวแน่นอน ไม่มีทางเป็นเหมือนอย่างที่เขาทำอยู่ตอนนี้แน่ๆ!
เยี่ยม นี่เธอโดนหลอกเข้าให้แล้วสินะ!
“ตื่นเลย” มายมิ้นท์ยกมือผลักชายหนุ่ม “ตื่นได้แล้ว อย่ามาทำเป็นแกล้งหลับ”
ทว่าเปปเปอร์กลับไม่ไหวติง และไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิด
มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “เปปเปอร์ แน่ใจนะว่าคุณจะยังแกล้งหลับต่อ? ถ้าคุณยังตื่นอีกล่ะก็ฉันผลักคุณทิ้งจริงๆด้วย”
เปปเปอร์ยังคงนิ่ง
มายมิ้นท์เห็นแบบนั้น ก็สังเกตเขาอยู่สักพัก จึงพบว่าหน้าของเขายังคงนิ่งสงบ ขนตาไม่ไหวติงเลยสักนิด แถมจังหวะลมหายใจจก็ยังสม่ำเสมอ ท่าทางเหมือนคนกำลังหลับจริงๆ
ดังนั้นตอนนี้มายมิ้นท์จึงเริ่มไม่แน่ใจ ว่าตกลงแล้วเขาหลับจริงๆหรือแค่แกล้งกันแน่
มายมิ้นท์วางมือลงบนมือของเขา เขาจึงบีบเบาๆ แล้วจูงมือเธอเดินออกไป
เมื่อมาถึงห้องโถง เปปเปอร์มองไปทางจุดขายของ จู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า “คุณไปรอผมที่โซนพักผ่อนก่อนแล้วกัน ผมขอไปซื้อของก่อน”
“คุณจะซื้ออะไรอีก?” มายมิ้นท์ดูดสมูทตี้มะม่วงที่ยังกินไม่หมด “อย่าบอกนะว่าจะซื้อขนม?”
“ไม่ใช่ เดี๋ยวคุณก็รู้เองแหละน่า”เปปเปอร์ส่ายหน้า
โถ่ว มายั่วให้อยากแล้วจากไปนี่นา
ช่างเถอะ เขาจะซื้ออะไรก็ปล่อยให้ซื้อไปเถอะ เดี๋ยวเธอก็คงได้เห็นเองว่าเขาซื้ออะไรมา
มายมิ้นท์ชักมือกลับ แล้วเดินไปที่นั่งรอเปปเปอร์ที่โซนพักผ่อน
เปปเปอร์ก้าวเท้าเดินไปยังจุดขายของ
เมื่อพนักงานเก็บเงินเห็นเขา ใบหน้าก็พลันแดงขึ้นมาอีกครั้ง “คุณผู้ชาย คราวนี้จะซื้ออะไรคะ?”
ริมฝีปากบางของเปปเปอร์ขยับพูดว่า “ขอน้ำแข็งห่อผ้าขนหนู ขอบคุณครับ”
“ห๊ะ? น้ำแข็ง?” พนักงานเก็บเงินนิ่งอึ้ง แสดงสีหน้าคาดคิดไม่ถึง ว่าเขาจะอยากได้ของสิ่งนี้
เธอทำงานอยู่ที่นี่มานาน ยังไม่เคยเจอลูกค้าคนไหนมาขอซื้อน้ำแข็งแบบนี้เลย แถมยังให้ห่อด้วยผ้าขนหนูด้วย
เขาจะเอาไปทำอะไรนะ?
เมื่อเห็นพนักงานเก็บเงินมัวแต่นิ่งอึ้ง เปปเปอร์ก็เอ่ยเร่งขึ้นมาว่า “ไปหามาก็พอ ของแค่นี้ คงไม่ยากเกินไปหรอกมั้ง?”
“ค่ะๆ”พนักงานเก็บเงินเรียกสติกลับมา แล้วรีบตอบกลับ จากนั้นจึงไปเตรียมของ
ในเมื่อขายของกินกับเครื่องดื่ม แน่นอนว่าต้องขาดน้ำแข็งไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนผ้าก็ต้องมีพร้อมเผื่อลูกค้าทำน้ำหกใส่ตัวเอง เพราะแบบนั้นเรื่องที่ลูกค้าต้องการผ้าจึงมีอยู่ไม่ใช่น้อยๆ พวกเขาเลยมีผ้าขายในร้าย
ไม่นาน พนักงานเก็บเงินก็นำแข็งที่ห่อด้วยผ้าส่งให้เปปเปอร์ “นี่ค่ะคุณผู้ชาย ของที่คุณสั่ง”
เปปเปอร์เหลือบมองมาอย่างพึงพอใจ ยื่นมือไปรับมาถือไว้ “เท่าไหร่”
“ไม่เป็นไรค่ะ” พนักงานเก็บเงินโบกมือ “คุณอุตส่าห์เหมาซื้อของเราทั้งร้าน ทำให้เราขายของของสัปดาห์นี้หมดภายในวันเดียว เพราะงั้นพวกเราจะไม่เก็บเงิน อีกอย่างของสิ่งนี้ก็ไม่ได้มีราคาเท่าไหร่ ถือซะว่าเป็นน้ำใจของพวกฉันให้คุณแทนก็แล้วกันค่ะ”
“ขอบคุณ”เปปเปอร์จึงไม่เกรงใจอีกต่อไป หลังจากเอ่ยขอบคุณ ก็หันหลังเดินไปหามายมิ้นท์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...