“ผมไม่ได้จะถอด แค่นึกถึงวิธีที่จะทำให้คุณอุ่นโดยที่ผมไม่ต้องถอดเสื้อให้ออกได้ก็เท่านั้นเอง” เปปเปอร์กระตุกยิ้มมุมปาก
มายมิ้นท์เต็มไปด้วยความสงสัย “วิธีอะไร?”
เปปเปอร์ไม่ตอบ ก้มหน้าแกะกระดุมส่วนที่เหลือต่อ
ไม่นาน กระดุมก็ถูกเขาแกะออกจนหมด เขาจับชายเสื้อทั้งสองข้างแยกออกจากกัน แล้วเอ่ยพูดกับมายมิ้นท์ว่า “มานี่สิ ผมจะกอดคุณเอง”
คราวนี้ มายมิ้นท์เข้าใจในทันทีวิธีที่เขาว่าหมายถึงอะไร
นั่นก็คือเธอต้องมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเขา เพื่อให้เขาใช้เสื้อห่อเธอเอาไว้
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วิธีนี้มันดีจริงๆ อบอุ่นกันทั้งสองฝ่าย
ต้องขอบคุณเขาสินะที่คิดวิธีนี้ออก
มายมิ้นท์ส่ายหน้ายิ้มๆ ยอมอยู่ในอ้อมกอดแต่โดยดีไม่อิดออด ถอนหายใจออกมา แล้วโถมตัวเข้าอ้อมกอดของเขาโดยไร้ซึ่งเขินอาย
ถึงยังไงก็หนาวขนาดนี้แล้ว ยังจะมาเขินอายอะไรอีก?
เมื่อชายหนุ่มเห็นหญิงสาวกอดเอวตัวเอง จึงใช้เสื้อคลุมตัวทั้งสองคนเอาไว้
เสื้อของเขาตัวใหญ่มาก ขนาดตัวติดกันแบบนี้ ยังติดกระดุมได้เลย
ด้วยเหตุนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของมายมิ้นท์จึงถูกเสื้อตัวใหญ่ปกคลุมเอาไว้อย่างแนบชิด แม้แต่หัวก็แทบจะไม่โผล่ บวกกับอุณหภูมิร่างกายอุ่นๆของเปปเปอร์ที่โอบล้อมตัวเธอเอาไว้ เธอพลันหายหนาวในชั่ววินาที ร่างกายที่ตอนแรกหนาวสั่น ค่อยๆฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ
เปปเปอร์รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของคนในอ้อมกอด จึงก้มลงใช้คางถูหัวของหญิงสาวเบาๆ “อุ่นขึ้นหรือยัง?”
“อืม อุ่นขึ้นแล้ว” เสียงของมายมิ้นท์ดังออกมาจากเสื้ออย่างอู้อี้
เปปเปอร์ถอนหายใจออกมา “ดีแล้ว”
“ผู้ช่วยเหมันต์ยังไม่มาอีกเหรอ?” มายมิ้นท์เอ่ยถามขณะที่เขาหน้าผากแนบแผ่นอกของชายหนุ่ม
เปปเปอร์มองไปทางถนน พร้อมหัวคิ้วที่ขมวดมุ่น “ยังเลย ตอนที่เพิ่งออกมาจากโรงหนังเมื่อกี้ ก็บอกว่ากำลังมา แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา”
“ก็คงมีเรื่องทำให้มาช้าล่ะมั้ง รอไปอีกสักหน่อยแล้วกัน” มายมิ้นท์ถอนหายใจออกมา
เปปเปอร์ตอบอืม แล้วกระชับกอดเธอให้แน่นขึ้น
ทั้งสองยืนรออยู่หน้าโรงหนังพักใหญ่ จนในที่สุดรถคันคุ้นเคยก็ปรากฏสู่สายตา
ตามมาด้วยประตูรถที่ถูกเปิดออก ผู้ช่วยเหมันต์กางร่มออก มืออีกข้างถือร่มอีกคัน จากนั้นก็วิ่งมาทางเปปเปอร์
เมื่อวิ่งมาถึงตรงหน้าเปปเปอร์ เขาก็รีบโค้งขอโทษทันที “ขอโทษที่มาช้าครับประธานเปปเปอร์”
“เกิดอะไรขึ้น” เปปเปอร์มองมาที่เขาพร้อมเอ่ยถามเสียงเข้ม
ผู้ช่วยเหมันต์ขยับแว่นตาแล้วตอบกลับว่า “ผมเอารถไปจอดที่ลานจอดรถสาธารณะ ระหว่างทางเจออุบัติเหตุเข้าพอดี รถเลยติดน่ะครับ”
เขาไม่ได้ตั้งใจมาช้า
เมื่อเปปเปอร์ได้ฟังเหตุผล ก็ไม่ได้กล่าวโทษเหมันต์แต่อย่างใด เอ่ยพูดว่า “เอาร่มมา”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันต์ขานรับ แล้วส่งร่มให้เขา
ในตอนนี้เอง จู่ๆเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจว่า “ประธานเปปเปอร์ ทำไมคุณอยู่คนเดียว? คุณมายมิ้นท์ล่ะ? เธอกลับไปก่อนแล้วเหรอครับ?”
เปปเปอร์ไม่ได้ตอบเขา ยื่นมือออกไปรับร่มมาถือไว้
ด้วยเหตุนี้ ชายเสื้อข้างหนึ่งของเขาจึงไร้พันธนาการ เกิดการแยกออกจากกันโดยอัตโนมัติ จนเผยให้เห็นหญิงสาวในอ้อมกอด
เมื่อผู้ช่วยเหมันต์ดเห็นมายมิ้นท์ในอ้อมกอดของเปปเปอร์ ตาก็เบิกโพลงจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า “คุณมายมิ้นท์? อยู่นี่เองเหรอครับ?!”
เขาก็นึกว่าเธอกลับไปแล้ว และทิ้งประธานเปปเปอร์ไว้คนเดียวเสียอีก
กลับกลายเป็นว่า เธอไม่ได้ไปไหน แต่อยู่ในเสื้อของประธานเปปเปอร์เองหรอกเหรอ
เพราะว่าประธานเปปเปอร์ร่างกายสูงใหญ่ เสื้อผ้าที่ใส่จึงใหญ่ไปด้วย บวกกับที่นี่ค่อนข้างมืด แวบแรกเขาจึงไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีคนซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของประธานเปปเปอร์ด้วย
ตอนแรกเขารู้สึกแค่ว่าประธานเปปเปอร์ดูจะจับเสื้อเอาไว้แน่นเป็นพิเศษ ซึ่งมันดูพิลึก และค่อนข้างเสียภาพลักษณ์
แต่เขาก็ยังไม่คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าประธานเปปเปอร์อาจจะหนาว ก็เลยเป็นแบบนี้
คิดไม่ถึงเลยว่าความจริงมันจะเป็นอีกแบบ
และความจริงที่ว่ามันก็เหนือความคาดหมายอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด
แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า พวกเขาช่างหาทำจริงๆ!
ผู้ช่วยเหมันต์แอบยกนิ้วโป้งให้เปปเปอร์กับมายมิ้นท์ในใจ
แต่ถึงจะอย่างนั้น ก็มีหลายครั้งอยู่เหมือนกันที่มองไม่เห็นทาง จนเกือบจะชนรถคันอื่น
ดังนั้นเธอจึงไม่วางใจถ้าให้เขากลับไปทั้งอย่างนี้ ถ้าเกิดระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง?
เมื่อได้ยินคำพูดห่วงใยของมายมิ้นท์ เปปเปอร์ก็กระตุกยิ้ม ตอบกลับอย่างไม่ลังเลว่า “ได้ ผมอยู่ก็ได้”
เขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว จนมายมิ้นท์เริ่มสงสัย นี่เขากำลังรอให้เธอชวนเขาอยู่ต่อหรือเปล่านะ
มายมิ้นท์ไม่คิดอะไรมาก หันไปมองผู้ช่วยเหมันต์ที่นั่งเบาะคนขับ “ผู้ช่วยเหมันต์ก็ไม่ต้องกลับ มันอันตราย ฉันกับคุณยายใต้ตึกสนิทกัน คุณไปยืมห้องค้างที่นั่นก็ได้”
“เอ่อ….ได้เหรอครับ?” ผู้ช่วยเหมันต์มองเปปเปอร์อย่างลังเล
พูดตามตรง เขาเองก็ไม่อยากกลับเหมือนกัน
เพราะว่าทางมันอันตรายจริงๆ
ตอนที่ขับกลับมา เขาระวังจนไม่รู้จะระวังยังไงแล้ว เพ่งสมาธิจนเครียดเกร็งไปหมด ขนาดนั้นก็ยังเกือบจะเกิดอุบัติเหตุเพราะมองไม่เห็นทาง
ถ้าขับกลับตอนนี้ล่ะก็ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุต้องมีเยอะมากแน่ๆ
แต่ว่าจะได้อยู่ค้างหรือเปล่านั้น ก็ต้องดูที่ความต้องการของเจ้านายอยู่ดี
ยังดีที่เปปเปอร์ไม่ใช่เจ้านายประเภทใจแคบ เขาเองก็พอจะรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันอันตรายเกินไป ดังนั้นจึงอนุญาตให้ผู้ช่วยเหมันต์อยู่ค้างได้
ขอแค่ผู้ช่วยเหมันต์ไม่ได้นอนในคอนโดของมายมิ้นท์ก็พอ เรื่องอื่นเขาไม่สนหรอก
“ขอบคุณครับประธานเปปเปอร์” เมื่อเห็นว่าเปปเปอร์อนุญาตให้ตัวเองอยู่ค้างได้ ผู้ช่วยเหมันต์ก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก
จากนั้น เขาก็หันไปมองมายมิ้นท์ “คุณมายมิ้นท์ รบกวนด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไร ความปลอดภัยต้องมาก่อนอยู่แล้ว” มายมิ้นท์โบกมือ แล้วลงจากรถ
คุณยายที่อยู่ใต้ตึกของมายมิ้นท์อาศัยอยู่คนเดียว ห้องจึงว่าง ปกติในบ้านก็ค่อนข้างเงียบเหงาอยู่แล้ว วันนี้มาผู้ร่วมอาศัยชั่วคราวเพิ่มมาอีกหนึ่งคน คุณยายจึงตอบตกลงอย่างดีใจ
ด้วยเหตุนี้ ผู้ช่วยเหมันต์จึงมีที่นอน มายมิ้นท์พาเปปเปอร์ขึ้นมาที่คอนโดของตัวเองอย่างสบายใจ
เปปเปอร์หยิบรองเท้าจากชั้นมาเปลี่ยนอย่างคล่องแคล่ว ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่เอาแต่รอให้มายมิ้นท์เป็นคนจัดการให้
ทำให้เห็นว่า ตอนนี้เขาไม่ได้ทำตัวเหมือนเป็นคนนอกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...