รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 695

เปปเปอร์ทำสีหน้าตกตะลึง

ถูกเธอจับได้เข้าให้เสียแล้ว?

แต่ต่อให้ถูกมองออกเขาก็จะยอมรับไม่ได้เด็ดขาด

เปปเปอร์ก้มหน้าลงแล้วตอบด้วยน้ำเสียงบางเบาว่า “เปล่านี่ครับ”

“เปล่าจริงๆ เหรอคะ?” มายมิ้นท์จ้องไปที่เขา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อประโยคนั้นของเขาเลย “เมื่อครู่ฉันเห็นนะคะว่าคุณแลดูมีความสุขมาก เพราะว่าถ้าเป็นแบบนี้ฉันก็สามารถไปค้างบ้านคุณได้แล้วใช่ไหมคะ ไม่อย่างนั้นทำไมอยู่ๆ คุณถึงบอกว่าการไปที่บ้านคุณเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดล่ะ?”

“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” เปปเปอร์ยังพยายามจะโต้แย้ง

มายมิ้นท์ยกมือขึ้นกอดอก “งั้นเหรอคะ ในเมื่อคุณไม่อยากให้ฉันไป คืนนี้ฉันนอนที่โรงแรมก็ได้ คุณดูสิใครบอกว่าการไปนอนบ้านคุณเป็นวิธีที่ดีที่สุด”

“ไม่ได้!” เมื่อได้ยินหญิงสาวบอกว่าจะไปพักที่โรงแรม เปปเปอร์ก็ดูเดือดร้อนขึ้นทันที

มายมิ้นท์เห็นดังนั้นความรู้สึกสนุกสนานปรากฏขึ้นในใข เธอตั้งใจถามต่อไปว่า “ทำไมไม่ได้ล่ะคะ?”

“เพราะว่าที่โรงแรมมันไม่ปลอดภัย” เปปเปอร์ขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วพูดขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง

มายมิ้นท์ขำแทบแย่ แต่เธอก็พยายามเก็บกลั้นความรู้สึกนั้นเอาไว้ไม่ให้ขำออกมา

มีแต่สวรรค์ที่รู้ว่าเธอทำแบบนี้รู้สึกลำบากเพียงใด

“ใครบอกว่าที่โรงแรมไม่ปลอดภัยกันคะ?” มายมิ้นท์ส่งเสียงหึๆ ออกมา “คุณคิดว่าฉันจะไปพักโรงแรมเล็กหรือไง?”

“ก็ไม่ได้อยู่ดี” เปปเปอร์เม้มริมฝีปากของเขาเล็กน้อย

มายมิ้นท์มองไปที่เขา “งั้นคุณก็บอกมาสิคะว่าทำไมถึงไม่ได้”

ริมฝีปากของเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย แต่ผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ดวงตาของมายมิ้นท์เป็นประกายแวววาวด้วยความสนุกสนาน

มองดูแล้วคงจะต้องจี้จุดเขาสักหน่อยจึงจะยอมรับได้ว่าเขาอยากจะให้เธอไปค้างที่บ้าน

ไม่อย่างนั้น ต่อให้ต้องเฆี่ยนตีก็คงไม่ยอมรับหรอก

เมื่อคิดได้ดังนี้มายมิ้นท์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาปลดล็อก “คุณไม่บอกก็เรื่องของคุณ ฉันขอจองห้องก่อน ถ้าจองห้องไม่ได้ก็ไปนอนที่บ้านลาเต้สักคืน”

เมื่อได้ยินว่ามายมิ้นท์จะไปนอนค้างที่บ้านลาเต้ เปปเปอร์ก็กระสับกระส่ายทันที

จะไปนอนค้างที่บ้านศัตรูหัวใจ ไม่ได้เด็ดขาด!

เปปเปอร์รีบเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือเธอมาแล้วปิดหน้าจอ “ไม่ให้ไปที่โรงแรม แล้วก็ไม่ให้ไปที่บ้านลาเต้ด้วย!”

“อะไรกันคะ นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นคุณก็บอกฉันมาสิคะว่าจะให้ฉันไปอยู่ที่ไหน จะให้ฉันไปนอนข้างถนนหรือไง?”มายมิ้นท์ยกมือขึ้นเท้าสะเอว

เปปเปอร์คืนโทรศัพท์มือถือให้เธอ ดูเหมือนว่าเขาจะตัดสินใจแล้วจึงยกมือขึ้นนวดไปที่ขมับ “ไปที่บ้านผม ไปได้แต่ที่บ้านผมเท่านั้น” เขาเน้นย้ำถึงสองที

มายมิ้นท์เผยอริมฝีปากแดงเรื่อขึ้น “ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าคุณดีใจที่เครื่องฮีตเตอร์ของคอนโดฉันเสียจริงๆ ใช่ไหมคะ เพราะว่าเป็นแบบนี้ ฉันก็ทำได้เพียงไปอยู่กับคุณ”

ครั้งนี้เปปเปอร์ไม่ได้ปฏิเสธอีก เขาตอบรับว่า “อืม” เบาๆ เป็นการยอมรับ

มายมิ้นท์ยิ้มขึ้น “ยอมรับตั้งแต่แรกก็เรียบร้อยไปแล้วค่ะ ทำไมต้องให้ฉันกระตุ้นความรู้สึกคุณด้วย ที่จริงคุณหน้าหนาจะตายไป ทำไมจู่ๆ ถึงได้เขินอายแบบนี้ล่ะคะ?”

เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของเปปเปอร์ก็เบิกกว้าง “เมื่อสักครู่ที่คุณบอกว่าจะไปนอนที่โรงแรมและบ้านลาเต้ คุณตั้งใจเหรอ?”

“อ่าฮะ” มายมิ้นท์หัวเราะออกมา “ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ คุณจะยอมรับเหรอคะว่าคุณรู้สึกดีใจที่เครื่องฮีตเตอร์ของฉันเสีย เพื่อที่จะได้ไปนอนบ้านคุณ”

เปปเปอร์กระแอมออกมาโดยไม่ได้พูดอะไร

มายมิ้นท์ส่ายหน้า “เอาเถอะค่ะ ฉันไม่พูดกับคุณเรื่องนี้แล้ว ขอโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางก่อนนะคะ”

“ครับ” เปปเปอร์พยักหน้า

มายมิ้นท์หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาส่วนกลางเพื่อชี้แจงถึงปัญหา

เปปเปอร์ยืนฟังอยู่ข้างเธอและมองดูเธอตลอดเวลา ความรู้สึกอันลึกซึ้งจากดวงตาแทบจะไหลทะลักออกมาอยู่แล้ว

ญาติของผู้ป่วยห้องข้างๆ เห็นพวกเขาเข้าก็รู้สึกว่าทั้งคู่ช่างเป็นคู่ที่ฟ้าลิขิตให้มาอยู่ด้วยกันเหลือเกิน

หลังจากโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว มายมิ้นท์ก็วางโทรศัพท์มือถือลงแล้วมองไปทางดวงตาของเปปเปอร์คู่ที่ลึกล้ำจับจ้องเธอไม่ลดละ

เธอถูกเขาจ้องมองจนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง จึงได้หันไปมองขวาง “มองอะไรคะ?”

เปปเปอร์ยิ้มเบาๆ “มองคุณไง”

“ฉันมีอะไรให้น่ามองกัน?” มายมิ้นท์เก็บโทรศัพท์มือถือลง

เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย “น่ามองสิครับ สำหรับผมแล้วคุณสวยที่สุดเลย”

เปปเปอร์เดินตรงออกไปซื้ออาหารค่ำ

หลังจากที่เขาเดินทางออกไปได้ไม่นาน ทีมแพทย์ที่ทำการตรวจอาการท่านย่าก็เดินทางมาถึง

หลังจากตรวจดูร่างกายเรียบร้อยแล้ว ทีมแพทย์จึงได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ตามคำร้องขอ

แต่เพื่อการฟื้นฟูสภาพร่างกายของท่านย่า หลังจากเดินทางออกไปจากโรงพยาบาลแล้ว แพทย์จึงได้จ่ายยาให้จำนวนไม่น้อย

มายมิ้นท์นำใบสั่งยาเหล่านี้ตรงไปที่ห้องจ่ายยาเพื่อรับยาให้ท่านย่า

หลังจากที่เธอรับยาเรียบร้อยแล้วก็เดินตรงเข้าไปในลิฟต์ แต่จู่ๆ ก็เห็นกับร่างของใครบางคนอันคุ้นตา

คุณนายพิศมัย

พิศมัยเองก็คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอมายมิ้นท์ที่นี่ สีหน้าของเธอเปล่งประกายถึงความประหลาดใจออกมาแล้วเชิดหน้าขึ้น ทำท่าทางเย่อหยิ่งใส่มายมิ้นท์ “โอ้ ยาเยอะขนาดนี้เป็นโรคซึมเศร้าหรือไง?”

ใบหน้าของมายมิ้นท์เยือกเย็น “นี่คือยาของท่านย่าค่ะ เมื่อสักครู่คุณกำลังแช่งท่านย่าอยู่เหรอคะ?”

พิศมัยชะงักลง จากนั้นไขมันบนใบหน้าก็กระเพื่อมตามแรงโกรธ “เป็นยาของท่านย่าแล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ ตั้งใจทำให้ฉันต้องขายหน้าใช่ไหม?”

มายมิ้นท์โมโหจนหัวเราะออกมา “คุณไม่ได้ถามฉันสักหน่อยว่านี่คือยาของใคร เอาแต่ว่าฉันอยู่ได้ หลังจากที่พูดผิดเองก็มาหาว่าฉันไม่บอก นี่ฉันก็กลัวว่าคุณจะถูกหัวเราะเยาะจึงได้บอกไงล่ะคะ คุณนี่ทำผิดแล้วไม่เคยยอมรับเลยจริงๆ”

“นี่......” พิศมัยรู้ดีว่าเมื่อสักครู่ตนหาเรื่องโดยไร้เหตุไร้ผล แต่เธอก็รู้สึกว่าถึงอย่างไรตนก็เป็นผู้อาวุโสกว่า ต่อให้ผิดจริงเธอก็ไม่ควรจะต้องยอมรับ

ไม่อย่างนั้นจะขายหน้าขนาดไหน

เมื่อคิดได้ดังนั้นพิศมัยก็ยกมือขึ้นกอดอกตั้งใจจะทำสีหน้าเย่อหยิ่งใส่เธอ แต่จู่ๆ ก็เหลือบไปเห็นกำไลที่ใส่อยู่ในข้อมือของมายมิ้นท์ สีหน้านั้นก็เปลี่ยนไปทันที

จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกไปดึงแขนข้างขวาของมายมิ้นท์อย่างแรงแล้วนำขึ้นมาไว้ตรงหน้า มองดูด้วยสีหน้าอันน่าเกลียด

เป็นกำไลนั่นจริงด้วย!

“คุณทำอะไรน่ะ?” มายมิ้นท์คิดไม่ถึงว่าอยู่ดีๆ พิศมัยจะลงมือลงไม้แบบนี้ เมื่อถูกพิสมัยดึงเข้ามา ร่างกายเธอเสียสมดุลจนแทบล้มลง

โชคดีที่เธอได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว มืออีกข้างจึงได้พิงไปที่กำแพงลิฟต์ทำให้ไม่ได้ล้มลง

“กำไลนี้ได้มาจากไหน? ทำไมถึงมาอยู่ที่มือแกได้?” พิศมัยมองไปยังมือข้างที่ยกขึ้นของมายมิ้นท์แล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว “แกไปขโมยมาใช่ไหม?”

“คุณเป็นบ้าหรือไง?” มายมิ้นท์สะบัดข้อมืออย่างแรงแล้วดึงมือที่ถูกพิศมัยกำเอาไว้กลับมา ก่อนจะใช้มืออีกข้างหนึ่งนวดไปบริเวณที่ถูกพิศมัยกำไว้อย่างแรงเมื่อครู่ สีหน้าของเธอดูไม่ดีนัก “ขโมยมางั้นเหรอคะ คุณนี่ก็ช่างคิดได้ ลองบอกฉันมาหน่อยสิคะว่าจะขโมยได้ยังไง ลองขโมยฉันดูสักอันได้ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว