รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 706

เธอกัดเล็บนิ้วโป้งด้วยความสั่นเทา ดวงตาที่แดงก่ำนั้นจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์ด้วยความโกรธ

มองดูพวกที่ค่อยๆได้สติกัน แล้วยังแสดงความคิดเห็นมาช่วยมายมิ้นท์กับเปปเปอร์นั้น โกรธจนแทบจะสำลักเลือดออกมา

เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับชาวเน็ตเหล่านี้?

เพียงแค่โพสต์เดียวของเปปเปอร์ ก็ทำให้สมองของพวกเขาตั้งสติขึ้นมาได้ว่ามันแปลกๆ โพสต์นั่นของเปปเปอร์ มีอิทธิพลมากขนาดนั้นเลยหรือ?

ดารามายกัดฟันแล้วกระทืบเท้าด้วยความแค้น

ไม่ได้แล้ว มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะสร้างการวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ออกมาได้ แล้วอยู่ระหว่างทางที่จะทำสำเร็จกับการนำพาชาวเน็ตเหล่านี้ ไปด่ามายมิ้นท์ให้ยับด้วย เห็นได้ว่าใช้เวลาเพียงไม่นานนัก มายมิ้นท์ก็อาจจะทนไม่ได้ต่อการวิพากษ์วิจารณ์นี้ ก็จะยอมแพ้เอง แล้วเอาหุ้นส่วนออกมา

ดังนั้นในตอนนี้ เธอไม่มีทางรับได้เพราะโพสต์เดียวของเปปเปอร์ ก็ทำให้มายมิ้นท์อาจจะกลับมาพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ความจริงนี้ได้หรอก

เธอจำเป็นจะต้องโค่นมายมิ้นท์ล้มอีกครั้งหนึ่ง!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ดารามายก็ได้วางนิ้วโป้งนั้นลง จากนั้นนิ้วมือก็ได้กดที่โทรศัพท์อยู่ครั้งสองครั้ง แล้วได้โทรออกไป

แต่พอได้โทรไปแล้ว กลับแสดงให้เห็นว่าได้ปิดเครื่อง ไม่มีคนรับโทรศัพท์

นี่ทำให้ดารามายแทบจะขว้างโทรศัพท์ออกไป ด่าพึมพำอยู่ในปาก“ให้ตายเถอะไอ้พวกสวะ ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ กลับติดต่อไม่ได้เลย ช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะทำได้เพียงติดต่อกับสื่ออื่นแล้ว”

ดารามายได้สูบหายใจเข้าลึกๆ ระงับความโกรธของเธอเอาไว้ จากนั้นก็ได้โทรออกไปอีกครั้ง

ในครั้งนี้ กลับมีคนรับโทรศัพท์แล้ว “ใครหรือ?”

ปลายอีกด้านของโทรศัพท์ มีเสียงผู้ชายที่หยาบคายนั้นดังออกมา

ดารามายขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ“ฉันเอง”

เมื่อฟังออกว่าเป็นเสียงของเธอ ผู้ชายในปลายอีกด้านของโทรศัพท์ได้หัวเราะขึ้นมา“ผมก็นึกว่าเป็นใคร ที่แท้ก็เป็นคุณดารามายหรอกหรือ คุณดารามายมีคำสั่งอะไรหรือครับ?บอกมาได้เลย ผมจะบุกป่าฝ่าดงโดยไม่ปฏิเสธเลยแน่นอนครับ”

“พอได้แล้วมั้ง”ดารามายได้กลอกตาไปหนึ่งที“ครั้งก่อนตอนที่ฉันเข้าโรงพยาบาลนั้น ให้พวกคุณรายงานการกระทำที่ชั่วร้ายของมายมิ้นท์ที่มีต่อฉัน พวกคุณก็ไม่ได้รายงาน แล้วยังจะไม่ปฏิเสธอะไรอีก ไม่กลัวขายขี้หน้าคนอื่นหรือไง”

ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ดูหมิ่น และก็ไม่ได้โกรธอะไร ได้หัวเราะฮิๆ เล็กน้อย“คุณดารามายโปรดเห็นใจด้วยครับ ในครั้งก่อนพวกเราทำไม่ดีเองจริงๆ แต่พวกเราก็ลำบากเหมือนกันนะครับ เพราะไม่ว่ายังไงในตอนนั้น ประธานใหญ่ของบริษัทตระกูลนวบดินทร์ อยู่ข้างมายมิ้นท์ตลอดเวลา พวกเราไม่กล้าติดตามเธอแล้วรายงานเลยครับ นั่นมันก็เท่ากับว่าไปหาที่ตายเลยนะครับ”

“พอได้แล้ว”มายมิ้นท์ได้โบกมือ พูดด้วยความไม่สบอารมณ์เล็กน้อยว่า:“เรื่องของครั้งก่อนก็ช่างมันแล้วกัน แต่ว่าครั้งหน้า คุณต้องทำให้สำเร็จให้ได้ล่ะ”

“คุณพูดเลยครับ”

“ที่ฉันมีข้อมูลเกี่ยวกับมายมิ้นท์อยู่หลายอย่างเลย ฉันต้องการให้คุณรายงานมันออกไป และจะต้องรายงานในพาดหัวข่าวของเว็บไซต์ทางการของสื่อพวกคุณ ฉันต้องการจะ……”

“เกรงว่านี่คงจะไม่ได้ครับ”ดารามายยังไม่ทันได้พูดจบ ผู้ชายในปลายอีกด้านของโทรศัพท์นั้นได้เกาหนวดเคราที่รุงรังบนใบหน้าเขา แล้วได้ขัดคำพูดของเธอทันที

ดารามายถลึงตาด้วยความไม่พอใจ“ทำไมถึงไม่ได้?”

“คุณดารามายครับ บอกคุณตามตรงเลยนะครับ ผมก็นึกไม่ถึงเลย ว่าคุณหาผมก็เพื่อจะรายงานมายมิ้นท์อีกเหมือนเดิม หากเป็นเรื่องอื่นล่ะก็ ผมคงจะตอบตกลงโดยไม่พูดไม่จาแม้แต่คำเดียวเลย แต่รายงานมายมิ้นท์นั้น ในตอนนี้ทำไม่ได้จริงๆครับ คุณคงจะยังไม่รู้สินะครับ ว่าฮิมเกิดเรื่องแล้ว”ผู้ชายในปลายอีกด้านของโทรศัพท์ ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

สีหน้าของดารามายเปลี่ยนในทันที“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขาหรือ?”

ฮิมที่ผู้ชายคนนี้ได้พูดถึง ก็คือคนที่เธอได้ติดต่อในช่วงกลางวัน และเป็นนักข่าวของสื่อที่ช่วยเธอรายงานมายมิ้นท์ในโซเชียล

ดังนั้นในตอนที่ได้ยินว่าเขาเกิดเรื่องแล้ว ภายในใจของเธอตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา

ผู้ชายคนนั้นได้ถอนหายใจเล็กน้อย“แม้ว่าผมกับฮิมไม่ได้มาจากบริษัทสื่อเดียวกัน แต่ไม่ว่ายังไงก็อยู่ในแวดวงเดียวกัน คุณให้ฮิมไปรายงานมายมิ้นท์ ฮิม เพิ่งจะก้าวเข้าสู่สังคมใหม่ๆ ไม่สามารถทนต่อการล่อตาล่อใจจากเงินได้ และไม่รู้ว่าประธานเปปเปอร์ที่อยู่เบื้องหลังของมายมิ้นท์นั้นหมายถึงอะไร ตอบตกลงช่วยคุณรายงานทันทีโดยที่ไม่คิดอะไรเลย ดังนั้นตอนนี้จึงถูกประธานเปปเปอร์เอาคืน ได้ชดใช้อย่างสาสม ไม่เพียงแต่แค่ตัวเขาเอง แม้แต่บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเขา ก็จะถูกกดขี่ บริษัทนั่นของเขาจะไปสู้บริษัทตระกูลนวบดินทร์ไหวได้ยังไงล่ะ เกรงว่าคงจะอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้เช้า ก็คงจะสาบสูญไปอย่างสมบูรณ์”

และเปปเปอร์ ก็เป็นคนที่พวกเขาไม่สามารถที่จะรุกรานได้เลยจริงๆ

ดังนั้นแล้วหรือว่าครั้งนี้ ตัวเองจะล้มเหลวอีกแล้วจริงๆหรือ?

ไม่ มันไม่น่าจะเป็นไปได้

แม้ว่าตอนนี้ชาวเน็ตบางส่วน จะสงสัยในสิ่งที่เธอพูดบนโซเชียลนั้นว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องปลอมแล้ว แต่ก็ยังมีชาวเน็ตบางส่วน ที่อยู่ในสภาพที่ยังคงรอดูและเชื่อในตัวเธออยู่

ตราบใดที่คนเหล่านี้ ยังยืนอยู่ข้างเธอ เธอก็ยังไม่ล้มเหลว

เพราะไม่ว่าอย่างไรต่อให้เปปเปอร์มีอิทธิพลมากแค่ไหน ก็ทำได้เพียงกดขี่คนเหล่านี้ไม่กล้าพูดมั่วก็เท่านั้น แต่ไม่สามารถควบคุมความคิดของคนเหล่านี้ได้เลย ดังนั้นเพียงแค่มายมิ้นท์กับเปปเปอร์พวกเขาไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ว่าสิ่งที่เธอพูดเหล่านี้เป็นเรื่องเท็จ งั้นการคาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของมายมิ้นท์ และได้รังแกเธอไหมนั้น ก็จะอยู่ในใจของผู้คนอยู่เสมอ

ดังนั้นหากเป็นเช่นนี้แล้ว ชื่อเสียงของมายมิ้นท์ ก็ยังคงไม่ได้รับการกอบกู้

แม้ว่าเธอจะไม่ได้หุ้นส่วนในมือของมายมิ้นท์มา แต่ได้ทำให้ชื่อเสียงของมายมิ้นท์เสียหาย ก็ถือว่าเธอได้ผลประโยชน์แล้ว

เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ดารามายได้ยิ้มด้วยความสบายใจขึ้นมา ภายในใจมั่นใจอย่างมาก ว่ามายมิ้นท์พวกเขาไม่มีทางมีหลักฐานแน่นอน

เพราะว่าไม่อย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องในอดีตแล้ว ใครยังจะไปมีหลักฐานอีก?

ในอีกด้านหนึ่ง ที่โรงพยาบาลนั้น

เยี่ยมบุญได้ปวดจนสลบอีกครั้ง แล้วได้ส่งเข้าโรงพยาบาล ซึ่งทรมารอยู่ที่โรงยาบาลเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่จะตื่นขึ้นอย่างช้าๆ

หลังจากที่ตื่นมาแล้ว ก็เห็นคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์นั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยโดยก้มศีรษะและร้องไห้อยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว