รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 717

วันที่สาม เดือนพฤษภาคมจริงๆ!

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์รีบมองเยี่ยมบุญข้างกาย เสียงสั่นระริก “สามี คุณเห็นแล้วใช่ไหม? วันที่วันนั้นน่ะ วันที่รับเลี้ยงมายมิ้นท์ คุณเห็นแล้วใช่ไหม?”

“ฉันเห็นแล้ว!” เยี่ยมบุญพยักหน้าด้วยสีหน้ามืดมนอย่างยิ่ง มือที่วางบนราวเตียงผู้ป่วย มันสั่นเล็กน้อยเนื่องจากออกแรงมากเกินไป

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ปิดปาก ดวงตาแดงก่ำเปียกชื้นขึ้นมา “ทำไมเป็นวันที่สามเดือนพฤษภาคมล่ะ?”

เธอไม่เข้าใจ

ทำไมมายมิ้นท์ไม่ใช่ลูกสาวของไตรภูมิกับลีน่า แต่เป็นลูกที่รับเลี้ยง

ยิ่งไม่เข้าใจคือ วันที่มายมิ้นท์ถูกรับเลี้ยง ทำไมเป็นวันที่สามเดือนพฤษภาคม

เดือนพฤษภาคมน่ะ คือตัวเลขที่เธอไม่มีวันลืมตลอดกาล คือเดือนที่ไม่มีวันลืมตลอดกาล เป็นเดือนที่ทำให้เธอเจ็บปวดไม่มีสิ้นสุด

เพราะวันที่หนึ่งเดือนพฤษภาคม คือวันที่ลูกสาวเธอถูกไตรภูมิ โยนลงไปในแม่น้ำ!

และวันที่มายมิ้นท์ถูกรับเลี้ยง ก็คือวันที่สามหลังจากลูกสาวเธอถูกโยนลงในแม่น้ำ

งั้นแสดงว่า……

“สามี คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหมว่า มายมิ้นท์จะเป็นชวนชมของเรา?” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์คว้ามือเยี่ยมบุญเอาไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงใจร้อน

เยี่ยมบุญขมวดคิ้ว “คุณสับสนเหรอ? มายมิ้นท์จะเป็นชวนชมได้ยังไง?”

“แต่มายมิ้นท์ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของไตรภูมิ เป็นลูกที่รับเลี้ยงมา และวันที่รับเลี้ยงมันพอดีขนาดนั้น ก็เป็นไปได้ว่ามายมิ้นท์จะเป็นชวนชมของเราจริงๆ” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เกิดความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ

เยี่ยมบุญลูบมือเธอ “มันเป็นไปไม่ได้”

“เป็นไปไม่ได้ได้ยังไง!” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์สะบัดมือเขาออก จ้องโทรทัศน์ดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้าง “วันที่เป็นหลักฐานที่ดีมาก ตอนที่คุณเห็นวันที่ ก็ตกใจมากเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? แสดงว่าคุณก็สงสัยเหมือนกันว่ามายมิ้นท์อาจจะเป็นชวนชมก็ได้”

“……” เยี่ยมบุญสะอึก ไม่พูดอะไรชั่วขณะหนึ่ง

จริงด้วย เป็นอย่างที่คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์พูด ตอนเขาเห็นวันที่วันนั้น การตอบสนองแรกในหัวคือ มายมิ้นท์คือชวนชม

ประการแรกมายมิ้นท์เกิดปีเดียวกับชวนชม

ประการต่อมาชวนชมถูกไตรภูมิขโมยไป ไตรภูมิโยนชวนชมลงในแม่น้ำเมื่อวานซืน พอวันที่สาม ก็รับเลี้ยงทารกหญิงหนึ่งคน มองยังไงแล้วก็เหมือนไตรภูมิไม่ได้โยนเด็กทิ้ง แต่แอบรับเลี้ยงเด็กขึ้นมาต่างหาก

แต่ ความเป็นไปได้มันต่ำมาก

ยังไงแล้วชวนชมก็คือลูกสาวเขา สำหรับไตรภูมิแล้ว ก็เป็นศัตรู

ถ้าเขาเป็นไตรภูมิ จะรับเลี้ยงลูกสาวของศัตรู แถมยังเลี้ยงดีขนาดนี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

ดังนั้น มายมิ้นท์ไม่ใช่ชวนชม

ขณะที่คิด เยี่ยมบุญก็ถอนหายใจ “คุณอย่าตื่นเต้น คุณใจเย็นก่อน ถ้ามายมิ้นท์คือชวนชม แล้วชวนชมของเราตอนนี้มันคือเรื่องอะไรกันล่ะ? ชวนชมในตอนนี้ ก็ตรวจดีเอ็นเอกับเราไปแล้ว เธอคือลูกสาวแท้ๆ ของเรา ดังนั้นมายมิ้นท์ไม่ใช่ชวนชม เธอก็แค่ถูกไตรภูมิรับเลี้ยงในช่วงเวลาใกล้ๆ กับตอนชวนชมถูกโยนลงในแม่น้ำเท่านั้นเอง”

“ฉันรู้ แต่ในใจฉันสนใจมาก” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์นั่งบนเตียงเขา ปิดหน้าร้องไห้ “เยี่ยมบุญ ที่จริงแล้วฉันไม่ได้บอกคุณมาตลอด จริงๆ แล้วฉันไม่ได้รู้สึกรักชวนชมอย่างลึกซึ้งในฐานะแม่”

“หมายความว่าไง?” เยี่ยมบุญมองเธอ

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์กัดปากพูดขึ้น “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่รู้สึก ฉันสนิทกับชวนชมไม่ได้ ฉันรู้เธอคือลูกสาวฉัน ฉันก็ควรรักเธอให้เต็มที่ ปรนเปรอเธอให้เต็มที่ ให้เธอรู้สึกว่าตัวเองคือเด็กที่โชคดีที่สุดในโลก แต่ไม่รู้ทำไม ฉันกลับทำไม่ได้ สิ่งดีๆ กับความรักที่ปกติฉันปฏิบัติกับชวนชม คือฉันเสแสร้งมันออกมา จริงๆ แล้วภายในใจฉัน ต่อต้านที่จะสัมผัสชวนชม ฉัน……”

“ชวนชม!” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ยังพูดไม่จบ จู่ๆ เยี่ยมบุญก็ตะโกนออกมา

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์หัวใจเต้นตึกตัก มองไปทางเยี่ยมบุญ แต่สายตาเยี่ยมบุญจ้องประตู สีหน้าและแววตากระอักกระอ่วนสุดขีด

แต่ในใจเขา ก็เหมือนกับคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ สนใจกับวันที่มายมิ้นท์ถูกรับเลี้ยงมากๆ

เขาคิดว่า ถ้าเขาไม่แน่ใจในที่มาที่ไปโดยละเอียดของมายมิ้นท์ ในใจเขาไม่มีทางสงบสุข

ในงานแถลงข่าว ขั้นตอนการรับเลี้ยงของมายมิ้นท์ ถูกนักข่าวทุกคน และเหล่าผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดเห็นกันเสร็จแล้ว

เลขาซินดี้นำสำเนาขั้นตอนการรับเลี้ยงกลับไป วางไว้ตรงหน้ามายมิ้นท์และเปปเปอร์

มายมิ้นท์หยิบไมโครโฟนขึ้นมา ยิ้มแย้มถามคนด้านล่าง “ตอนนี้ยังมีใครสงสัยขั้นตอนการรับเลี้ยงฉันเป็นของปลอมอีกไหมคะ?”

“ไม่มีแน่นอน” ทุกคนส่ายหน้าซ้ำๆ

ล้อเล่นหน่า คนเดียวที่สงสัยว่าปลอม ถูกแจ้งตำรวจไปแล้ว อีกสักครู่ตำรวจก็จะมาเอาตัวไป

ถ้าพวกเขายังสงสัยอีก สมองก็คงมีปัญหาแล้วล่ะ

“ในเมื่อไม่มีใครสงสัยแล้ว งั้นตัวตนของฉันก็คงไม่มีปัญหาแล้วสินะ” มายมิ้นท์วางมือบนไฟล์ขั้นตอนการรับเลี้ยง “ฉันไม่ใช่ลูกที่เกิดจากแม่มีชู้ พวกเขาสองสามีภรรยารับเลี้ยงในช่องทางที่ถูกต้อง ซึ่งหมายความว่า นอกจากฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับพ่อแม่แล้ว แต่ในทางกฎหมาย ฉันคือลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขา แน่นอนว่าทุกอย่างในตระกูลกิตติภัคโสภณ ฉันมีสิทธิได้รับส่วนแบ่ง ถ้าอย่างนั้นที่ดารามายพูดว่าลูกสาวนอกสมรสอย่างฉันแย่งทุกอย่างของตระกูลกิตติภัคโสภณไป มันไม่มีน้ำหนักมากพอ”

“ประธานมายมิ้นท์พูดถูก” ทุกคนพยักหน้าอีกครั้ง

มายมิ้นท์พูดอีกครั้ง “ดารามายบอกว่า ฉันแย่งหุ้นทั้งหมดของเทนเดอร์กรุ๊ปไป สำหรับประเด็นนี้ ที่จริงแล้วฉันไม่ต้องอธิบาย ผู้ถือหุ้นทุกคนในบริษัทฉันน่ะตอบได้หมดเลย ฉันไม่ได้ขโมยหุ้นไป แต่ก่อนพ่อฉันเสียชีวิต ได้จำนองหุ้นส่วนใหญ่ออกไป จากนั้นปู่ฉันก็ซื้อคืนกลับมาให้ฉัน ถ้าอย่างนั้นนี่เป็นหุ้นที่ผ่านมือมาสองครั้ง ยังเป็นหุ้นเดิมของตระกูลกิตติภัคโสภณอยู่ไหม?”

“ไม่ใช่อยู่แล้ว” มีนักข่าวตอบเสียงสูงทันที “อดีตประธานใหญ่จำนองไปแล้ว ตระกูลกิตติภัคโสภณสูญเสียหุ้นเทนเดอร์กรุ๊ปไปนานแล้ว ตอนนี้ในมือประธานมายมิ้นท์ คือหุ้นที่ซื้อคืนมาภายหลัง ซึ่งมันไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลกิตติภัคโสภณ ในเมื่อไม่เกี่ยว แน่นอนว่าไม่ใช่มรดก เป็นของประธานมายมิ้นท์คนเดียว”

“ถูกต้องๆ” นักข่าวคนอื่นต่างเห็นด้วย

มายมิ้นท์กวาดตามองดารามายที่หน้าซีดขึ้นเรื่อยๆ “ในเมื่อตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าฉันไม่ได้แย่งหุ้นมา งั้นทุกคนไม่สงสัยเหรอว่าทำไมดารามายถึงได้ร้องไห้ฟูมฟายบนเน็ต ว่าฉันขโมยหุ้นจากพ่อไป?”

“นั่นสิ” ทุกคนอึ้งก่อนอันดับแรก จากนั้นทุกคนก็มองไปยังดารามายที่อยู่บนพื้น ชุดคำถามก็เริ่มอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว