“……”มายมิ้นท์หมดคำจะพูดในทันที เงียบไปอยู่สักพักใหญ่ ถึงเปิดปากพูดอย่างไม่มั่นใจ “ไม่ใช่ว่าเพราะโชคหรือคะ?”
“เพราะโชคนั่นแหละครับ แต่ที่มากกว่าก็เพราะสภาพร่างกายของเธอ”การันต์พูดพร้อมกับปิดฝาปากกา
มายมิ้นท์ก้มหัวลงลูบท้องของตัวเอง คาดไม่ถึงเลย ว่าเธอจะเป็นสภาพร่างกายที่ตั้งท้องได้ง่ายที่เล่าลือกัน
เห็นมายมิ้นท์ก้มศีรษะลง เหมือนว่าจะไม่ค่อยสบายใจ การันต์ที่พิงอยู่เก้าอี้แล้วได้ถาม “ทำไมหรือ? มีสภาพร่างกายแบบนี้ไม่ดีใจหรือครับ? ผู้หญิงมากมายที่ฝันอยากจะมีสภาพร่างกายเช่นนี้อย่างคุณเลยนะครับ”
“เหอะๆ” มายมิ้นท์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ยิ้มแบบฝืนไปหนึ่งที “ฉันดีใจขึ้นมาไม่ได้จริงๆ และก็ค่อนข้างรับไม่ได้ด้วยค่ะ”
สภาพร่างกายที่ตั้งท้องได้ง่าย ทำให้รู้สึกเหมือนแม่หมูไม่มีผิด
เธอดีใจขึ้นมาได้สิแปลก
“มีอะไรที่รับไม่ได้ คุณมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับท่านย่าตระกูลนวบดินทร์ไม่ใช่หรือครับ เพื่อจะที่ให้ท่านผู้อาวุโสเขาได้อุ้มหลายก่อนจะจากโลกนี้ไป คุณก็ควรที่จะดีใจ หรือว่าคุณอดใจทนเห็นท่านย่าจากโลกนี้ไปพร้อมกับความผิดหวังหรือ?”การันต์พูดพร้อมกับดันแว่น
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากที่แดงก่ำ ไม่พูดอะไรเลย
ก็เหมือนอย่างที่เขาพูด เธออดใจทนดูไม่ได้จริงๆ
เป็นแบบนี้ละก็ เธอจะต้องมีลูกกับเปปเปอร์จริงๆ ภายในเวลาสามปี
ได้นวดขมับที่ตึงขึ้นมาของตัวเองเล็กน้อย “ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว นี่มันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้คุณจ่ายยาให้ฉันก่อนแล้วกัน”
“จ่ายยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว”นิ้วที่เรียวยาวของการันต์ก็ชี้ไปยังลิสยาที่เขียนไว้เมื่อกี้
มายมิ้นท์ก้มศีรษะลงดู ยันต์ผี ดูไม่เข้าใจ
เธอยื่นมือหยิบใบสั่งยาขึ้นมา ตัวก็ได้ลุกขึ้นตามไป “ถ้างั้นฉันจะไปที่ห้องยารับยาก่อนล่ะ”
“อื้อ” การันต์พยักหน้าเบาๆ “ไปเถอะ แต่ว่าผมขอเตือนคุณไว้ แม้ว่าตอนนี้คุณไม่สามารถตั้งท้องได้ แต่สิ่งที่คุณและเปปเปอร์ควรทำก็ต้องทำ เพราะยังไงก็ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าจะตั้งท้องอีกไหม”
มายมิ้นท์เขินอายอย่างมาก และใบหน้าแดงไปหมด “ฉันกับเปปเปอร์ยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น คุณพูดเร็วไปหรือเปล่า”
“ผู้ใหญ่กันแล้ว เรื่องปกติไม่ช้าก็เร็ว”การันต์ยิ้มอ่อนๆพร้อมกับความหมายนัยบางอย่าง
มายมิ้นท์สูดหายใจเข้าลึกๆ “เบื่อที่จะยุ่งกับคุณแล้ว ไปล่ะ”
เธอเปิดประตูออกไป เดินไปทางห้องจ่ายยา
เมื่อเธอรับยาเสร็จ เตรียมตัวจะออกจากโรงพยาบาล ก็ได้พบเจอกับคนที่คุ้นเคยอีกครั้ง
มายมิ้นท์มองดูผู้หญิงที่เดินมาทางตัวเอง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ภายในใจก็แอบพูดออกมาคำหนึ่งว่าเฮงซวยแล้ว
ตอนมา เจอคนแก่ ตอนจะกลับ ก็มาเจอคนที่ยังสาวอีก
เธอจะหลบหน้าจากคนตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไม่ได้จริงๆใช่ไหมเนี่ย?
“คุณมายมิ้นท์ ”ชวนชมถือกระเป๋าเล็กแบรนด์เนม เดินมาด้วยท่าทีที่เย้ายวน
มายมิ้นท์เห็นการแต่งตัวที่หรูหราจากหัวจรดเท้าของเธอ คิ้วก็ขมวดหนักขึ้น ในใจมีความโกรธ ที่ไม่รู้ที่มาเกิดขึ้น
ชวนชมอยู่ตรงนี้ได้ คงเป็นเพราะเยี่ยมบุญเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วสินะ
สภาพแบบนั้นของเยี่ยมบุญ สองสามวันเข้าโรงพยาบาลเป็นเรื่องปกติ เพราะงั้นตอนที่เธอมา เห็นคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ จึงไม่รู้สึกแปลกใจเลย
แต่ว่าเยี่ยมบุญถึงกับเข้าโรงพยาบาลแล้ว ชวนชมที่เป็นลูกสาว กลับแต่งตัวเป็นแบบนี้ อย่างกับไปคัดเลือกนางงาม เธอรู้สึกเศร้าใจแทนเยี่ยมบุญจริงๆ
“คุณชวนชม”มายมิ้นท์พยักหน้าเล็กน้อย ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปหนึ่งที
ชวนชมได้กะพริบตาเล็กน้อย พูดด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาดว่า: “คุณมายมิ้นท์คิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ตัวเอง จะเป็นชวนชมจริงๆ?”
“ห้ะ?”มายมิ้นท์มองไปที่เธอด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
เหมือนว่าชวนชมจะไม่ได้รู้สึกถึงสายตาที่มายมิ้นท์มองมาที่ตัวเองอย่างนั้น มองลงแล้วพูดต่อ: “คุณพ่อคุณแม่ของคุณมายมิ้นท์ ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ที่แท้จริงเลย แต่เป็นเป็นคุณพ่อคุณแม่บุญธรรม ตอนคุณมายมิ้นท์ยังเด็ก ถูกคุณพ่อบุญธรรมเก็บมาเลี้ยงดูที่บ้าน วันที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ตรงกับวันที่สามที่ชวนชมถูกลักพาตัวไปพอดี เพราะงั้นโอกาสที่คุณมายมิ้นท์จะเป็นชวนชมนั้นสูงมาก……”
“พอได้แล้ว!”สีหน้ามายมิ้นท์เคร่งขรึมลงทันที“คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่?”
ชวนชมกำหมัดไว้แน่น ก็ไม่อยากพูดอ้อมค้อมอีกต่อไปแล้ว มองไปที่มายมิ้นท์และเอ่ยปากพูด “ฉันอยากจะพูดว่า คุณมายมิ้นท์ไม่คิดจริงๆหรือว่าตัวเองคือชวนชมจริงๆ?”
เธอรู้ดี ว่าตัวเองพูดคำเหล่านี้แล้ว จะทำให้มายมิ้นท์สังเกตได้ง่าย
แต่ว่าเธอจำเป็นต้องพูด เพราะว่าเธอต้องหยั่งเชิงดูว่ามายมิ้นท์เกิดความสงสัยในตัวตนของตัวเองรึเปล่า
ถ้าหากว่ามี เธอก็จะสามารถควบคุมทุกอย่างได้ทัน ก่อนที่มายมิ้นท์จะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
“ทำไมฉันต้องคิดว่าตัวเองเป็นชวนชมด้วยล่ะ?” มายมิ้นท์มองดูชวนชมด้วยสีหน้าที่เย็นชา น้ำเสียงแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ารำคาญ “คุณไม่ใช่หรือที่เป็นชวนชม ตรวจสอบดีเอ็นเอกับเยี่ยมบุญแล้วด้วย รับรองแล้วว่าคุณคือชวนชมเจ้าตัว ฉันคงบ้าที่จะคิดว่าตัวเองคือชวนชม”
เมื่อได้ยินคำตอบของมายมิ้นท์แล้ว หัวใจของชวนชมที่หนักแน่นนั้น ก็ได้กลับมาเหมือนเดิม และได้ยิ้มมุมปากเล็กน้อย
ดีมากเลย มายมิ้นท์ไม่ได้สงสัยตัวตนของตัวเอง
การตรวจดีเอ็นเอครั้งก่อน ช่างเกิดประโยชน์มากจริงๆเลย
จังหวะที่ชวนชมกำลังดีใจนั้น มายมิ้นท์ก็เดินขึ้นไปข้างหน้า และได้ก้มศีรษะลงเล็กน้อย ขยับเข้าไปใกล้ๆเธอ ได้หรี่ตาแล้วพูดว่า: “คุณชวนชม คุณพูดแต่ละคำว่าฉันไม่คิดว่าตัวเองคือชวนชมหรือ แท้จริงแล้วต้องการอะไรกันแน่ คุณอยากจะสื่อถึงอะไรใช่รึเปล่า?”
นัยน์ตาของชวนชมได้หดตัวขึ้นมาทันที จากนั้นจึงรีบถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว ดึงระยะออกจากมายมิ้นท์ หันหน้าไปอีกทางหนึ่ง หลบการสบตากับมายมิ้นท์ กำหมัดไว้เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลงแล้วตอบกลับไปว่า: “คุณมายมิ้นท์คิดมากไปแล้ว ฉันไม่ได้อยากจะสื่ออะไรทั้งนั้น ที่ฉันพูดเรื่องพวกนี้ซ้ำๆ ก็เป็นเพราะอิจฉาเท่านั้นเอง”
“อิจฉา?” มายมิ้นท์นำมือกอดอก “คุณอิจฉาอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...