ทามทอยขึ้นไปชั้นบนสุดอย่างฉลุยตลอดทาง มาที่ชั้นของห้องทำงานเปปเปอร์
ตอนจะไปเคาะประตูของห้องทำงานเปปเปอร์ ประตูห้องทำงานผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างก็เปิดออกมาก่อน
ผู้ช่วยเหมันตร์อุ้มเอกสารออกมาจากด้านใน เห็นทามทอยที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของเปปเปอร์ ก็ตะลึงงันไปหมด“คุณทามทอย?”
ทามทอยยักคิ้วไปทางเขา ไม่พูดจา
ผู้ช่วยเหมันตร์ได้สติคืนมา จึงดันแว่นแล้วถามไปว่า:“คุณทามทอย ทำไมคุณมาอยู่นี่ล่ะ?มาหาประธานเปปเปอร์เหรอครับ?”
“นี่คุณถามอะไรไร้สาระเนี่ย?”ทามทอยมองบนใส่เขา จากนั้นถามย้อนไปว่า“เปปเปอร์อยู่ไหม?”
ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ตระหนักได้ว่าคำถามของตัวเองเมื่อกี๊ดูมากเกินไปหน่อย จึงไอออกไปอย่างรู้สึกอึดอัด แล้วจึงตอบกลับนิ่งๆ:“ประธานเปปเปอร์อยู่ข้างในครับ ถ้าคุณทามทอยจะพบประธานเปปเปอร์ต้องรอสักครู่ เดี๋ยวผมไปบอกให้ครับ”
ทามทอยหรี่ตาลง“ทำไม?ผมเข้าไปหาเขาตอนนี้ ต้องบอกด้วยเหรอ?”
ผู้ช่วยเหมันตร์มองออกว่าเขาไม่ค่อยพอใจ ก็ไม่ตื่นตระหนกใดๆ ตอบกลับไปอย่างนิ่งๆว่า:“คือแบบนี้ครับคุณทามทอย ความคิดที่คุณมีต่อคุณมายมิ้นท์ ทำให้ประธานเปปเปอร์ไม่พอใจอย่างมาก ดังนั้นก่อนหน้านี้ประธานเปปเปอร์จึงออกคำสั่งกับผมว่า ถ้าต่อไปคุณจะมาเขา จะเข้าไปโดยตรงแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว แต่ต้องได้รับความเห็นด้วยจากประธานเปปเปอร์ก่อน”
พูดจบ ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ผายมือสองข้างออก สื่อเป็นนัยว่าตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้
ทามทอยเบะปาก“เหอะ เพราะเรื่องนี้เหรอ เลยไม่ให้ไปหาเขาโดยตรง ทำตัวเป็นเด็กหรือไงกันเนี่ย?โอเคๆ งั้นคุณช่วยไปบอกให้ผมหน่อยละกัน”
เขาโบกมืออย่างทนไม่ไหว
“ครับ”ผู้ช่วยเหมันตร์ยิ้มไปตามมารยาท จากนั้นเคาะประตูห้องทำงานของเปปเปอร์
ที่จริงเขา ก็จะไปหาเปปเปอร์อยู่แล้ว
“เข้ามา”หลังจากผู้ช่วยเหมันตร์เคาะประตูสามครั้งเสร็จ ในห้องทำงานก็มีเสียงที่แสนเยือกเย็นของเปปเปอร์ออกมา
ผู้ช่วยเหมันตร์วางมือลง ผลักประตูเข้าไป“ประธานเปปเปอร์ เอกสารที่คุณต้องการ”
เปปเปอร์ตอบอือ ตอบกลับโดยไม่เงยหน้าขึ้น“วางนี่สิ”
“ครับ”มือสองข้างของผู้ช่วยเหมันตร์วางเอกสารไปตรงตำแหน่งที่เขาหยิบวางอย่างสะดวกที่สุด จากนั้นถอยหลังไปหนึ่งก้าว เว้นระยะห่างกับโต๊ะทำงานเล็กน้อย แล้วจึงพูดว่า:“ประธานเปปเปอร์คุณทามทอยมาแล้วครับ”
ได้ยินคำนี้ ปากกาในมือเปปเปอร์ชะงักไปเล็กน้อย ทำเอากระดาษนั้นเป็นรูเล็กๆ กระดาษที่เดิมทีกำลังเขียนตัวอักษรอยู่ ก็ถูกทำลายลง ไม่สวยอีกต่อไป
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว วางปากกาลง เอากระดาษแผ่นนี้มาขยำโดยตรง แล้วทิ้งเข้าไปในถังขยะด้านข้าง บีบคิ้วแล้วพูด“เขามาทำอะไร?”
ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้า“ไม่ทราบครับ ผมไม่ได้ถาม แต่ดูท่าทางของคุณทามทอยแล้วชิลมาก น่าจะมาหาคุณเพื่อคุยเรื่องที่ผ่านมา”
เปปเปอร์หัวเราะอย่างเยาะเย้ยออกไป“ผมกับเขามีเรื่องอะไรที่ต้องคุยด้วยเหรอ ไม่มีธุระไม่มาหรอก ให้เขาเข้ามาสิ”
“ครับประธานเปปเปอร์”ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าตกลง หันกลับออกไป
เปปเปอร์เอนไปด้านหลัง พิงไปที่พนักเก้าอี้ หลับตาลงเล็กน้อย ยกมือขึ้นนวดรอบๆเบ้าตาเบาๆ ออกกำลังกายให้ดวงตาแบบง่ายๆ
ตอนนี้เอง เสียงฝีเท้าดังขึ้น และเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ทามทอยตระหนักได้ว่าตัวเองเปิดเผยไปแล้ว จึงหัวเราะไปอย่างอึดอัด“เอ่อ นี่ไม่สำคัญหรอก นี่แค่บังเอิญ นายโทรคุยกับมายมิ้นท์แล้ว นายน่าจะรู้ว่าฉันกับมายมิ้นท์เจอกันแล้ว ก็แค่เวลาที่พวกเราเจอกันเช้าไปหน่อย ไม่ได้อยู่หลังสิ้นสุดพิจารณาคดี แต่เกิดขึ้นก่อนการพิจารณาคดี ฉันเลยไปร่วมการพิจารณาคดีครั้งนี้เป็นเพื่อนเธอ ดังนั้น......แค่ก ฉันก็เลยรู้น่ะ”
ริมฝีปากบางๆของเปปเปอร์เม้มเป็นเส้นตรง
เยี่ยมไปเลย ตานี่ไปร่วมการพิจารณาคดีเป็นเพื่อนสะระแหน่ซะงั้น!
เขาที่เป็นสามียังไม่ได้ไปเป็นเพื่อนเธอเลย ตานี่ดันไปเป็นเพื่อนเธอแทนเขาซะนี่
น่าโมโหเสียจริง!
ที่สำคัญก็คือ สะระแหน่ดันไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้ในสาย
เพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรเลยไม่พูด หรือรู้สึกว่าให้เขารู้ไม่ได้ เลยจงใจไม่พูดกันแน่?
เปปเปอร์ขมวดคิ้วจนเป็นเส้นตรงสามเส้น ลมหายใจรอบๆนั้นต่ำลง ทำให้คนหดหู่
ทามทอยรู้สึกอึดอัด เกาหัวด้านหลัง แล้วหัวเราะอย่างอึดอัด:“เอ่อเปปเปอร์ นี่ไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือ นายบอกฉันมาก่อนว่า พ่อแม่ที่แท้จริงของมายมิ้นท์นั้นยังไงกันแน่?นายรู้เรื่องพ่อแม่ที่แท้จริงของมายมิ้นท์เมื่อไหร่?”
ถ้าเปปเปอร์ไม่รู้ คงไม่ห้ามแบบนี้วันนี้
ดังนั้น เขาแน่ใจมากว่า เปปเปอร์รู้แน่นอน
“นายจะถามเรื่องนี้ทำไม?”เปปเปอร์หรี่ตา มองทามทอยอย่างนิ่งเฉย“นี่เป็นเรื่องของฉันกับมายมิ้นท์ ไม่เกี่ยวข้องกับนาย ไม่ต้องให้นายมาถามหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...