ยังไงซะคนคนหนึ่งที่มีสติ ยังเป็นผู้หญิงที่เรียนศิลปะการป้องกันตัวมาก่อน จะผลักคนขี้เมาออกไปไม่ได้เหรอ?
ไม่สิ ผลักออกได้แน่นอน ไม่เพียงแต่สามารถผลักออกไปได้ ยังสามารถตีคนขี้เมาให้สลบแบกไว้บนบ่าแล้วเดินไป
ประธานลาเต้ก็เป็นเพราะว่ารู้ความสามารถของเธอ ดังนั้นสำหรับเรื่องที่เธอถูกลากไปที่ถึงบนเตียง ถึงได้ตระหนักถึง ความตั้งใจของเธอในทันที ดังนั้นถึงได้ทำตัวแย่กับเธอ
ใช่สิ เลขาคนหนึ่งที่ตามเขามาหลายปี เลขาที่เขาไว้ใจ เพื่อนที่ไว้ใจ แต่กลับวางแผนต่อเขาในเรื่องนี้ เขาจะไม่โกรธไม่รังเกียจได้ยังไง?
ดังนั้นเขาไม่รับผิดชอบเธอ ก็พูดไม่ได้ว่าเขาเป็นฝ่ายผิด
มายมิ้นท์ถอนหายใจอีกครั้ง“ไม่ว่าวันนั้นพวกเธอใครถูกหรือใครผิดก็ไม่สำคัญ แต่เด็กบริสุทธิ์ เธอตัดสินใจจะเอาเด็กออกจริงเหรอ?”
“ค่ะ”เลขาซินดี้พยักหน้า“ตัดสินใจแล้ว เด็กคนนี้มาอย่างกะทันหันเกินไป พ่อของเขาไม่มีทางชอบเขา ก็ยิ่งไม่มีทางยอมรับการมาเกิดของเขา ถ้าหากฉันคลอดเขาออกมา ต่อไปเขาก็จะเป็นลูกนอกสมรส ยังเป็นลูกนอกสมรสที่ไม่มีพ่อด้วย ถึงเวลานั้นเขาถามฉันขึ้นมา ว่าพ่อของเขาเป็นใคร ฉันควรตอบเขายังไง? ดังนั้นฉันคิดๆดู ในเมื่อฉันให้ครอบครัวที่สมบูรณ์กับเขาไม่ได้ ไม่สามารถทำให้เขามีความรักของพ่อที่เด็กธรรมดามีได้ งั้นฉันก็จะไม่ปล่อยให้เขามาเกิดมาในโลกนี้ ฉันไม่สามารถทำร้ายลูกได้ เพราะความเห็นแก่ตัวของฉัน”
เมื่อฟังคำพูดของเธอ มายมิ้นท์กลับไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมากนัก
เพราะว่าตอนนั้นเธอก็คิดแบบนี้
ตอนนั้นที่ตั้งท้อง ไม่รู้ว่าท้องลูกของเปปเปอร์ คิดว่าท้องกับคนแปลกหน้า ดังนั้นเธอก็ตั้งใจที่จะไม่คลอดลูกออกมา ก็เป็นเพราะเป็นห่วงว่าคลอดลูกออกมาไม่ยุติธรรมต่อลูก
“ในเมื่อเธอคิดดีแล้ว งั้นฉันก็พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ฉันต้องการรู้ว่า เต้รู้เรื่องที่เธอท้องหรือเปล่า?”มายมิ้นท์ถามไถ่“ถ้าหากเต้รู้เรื่อง เธอจะเอาเด็กคนนี้ออก ทางที่ดีบอกกับเต้ด้วย แต่ถ้าเต้ไม่รู้ งั้นก็ถือซะว่าฉันไม่ได้พูด”
เลขาซินดี้ส่ายหน้า“ประธานลาเต้ไม่รู้เรื่อง ที่ฉันตั้งท้อง ไม่ได้บอกใคร ฉันตั้งใจที่จะไม่บอกประธานลาเต้ ถ้าประธานลาเต้รู้ว่าฉันตั้งท้อง จะยิ่งเกลียดฉันมากยิ่งขึ้น เขาถึงขนาดคิดว่า ฉันตั้งใจไม่กินยาเพื่อให้ตั้งท้อง”
“นี่……”มุมปากของมายมิ้นท์กระตุก หมดคำจะพูด
เพราะว่า มันเป็นไปได้จริงๆ
จากความรู้สึกแย่ๆที่เต้มีต่อเลขาซินดี้ในตอนนี้ ไม่ว่าเลขาซินดี้ทำอะไร เต้ก็จะคาดเดาต่อเลขาซินดี้ด้วยความคิดร้ายมากที่สุด
ดังนั้นถ้าเกิดเต้รู้ว่าเลขาซินดี้ตั้งท้อง จะคิดว่าเลขาซินดี้ตั้งใจท้องจริงๆ เพื่อที่จะบีบบังคับให้รับผิดชอบ
“แต่ว่า ต่อให้ประธานลาเต้รู้ว่าฉันท้อง ก็จะให้ฉันไปเอาเด็กออก ฉันบอกแล้วว่า ประธานลาเต้เกลียดฉัน แล้วจะยอมรับเด็กคนนี้ได้ยังไง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับเด็กคนนี้ในตอนนี้ก็คือ เอามันออก ด้วยแบบนี้ ชะตากรรมและเยื่อใยที่ฉันวางแผนต่อประธานลาเต้ก่อนหน้านี้ ก็จะตัดขาดกันได้”เลขาซินดี้พูดขณะถือแก้วนม
นมร้อนมาก แต่ความร้อนแค่นี้ กลับไม่สามารถสามารถทะลุผ่านฝ่ามืออันเย็นเยียบของเธอได้ และทำให้หัวใจของเธออบอุ่นได้
หัวใจของเธอ รวมทั่วทั้งร่างกาย ยังคงเย็น
“แบบนี้ก็ดี”มายมิ้นท์พยักหน้า
ตอนนี้เธอถึงได้เข้าใจสักทีว่า ระหว่างเต้และเลขาซินดี้เป็นไปไม่ได้
หลังจากที่ทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นของเต้และเลขาซินดี้แล้ว เธอก็รู้ว่า ตัวเองไม่สามารถที่จะจับคู่ทั้งสองคนได้
ในใจของเต้ เลขาซินดี้ก็เป็นแค่ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยแผนการ
ดังนั้นเต้ จะหวั่นไหวกับเลขาซินดี้ และคบหากับเลขาซินดี้ได้ยังไง
ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเด็กคนนี้ เก็บไว้ก็น่าสงสารเกินไปจริงๆ
แม้ว่าจะเก็บไว้ เต้ก็ไม่มีทางอยู่ร่วมกับเลขาซินดี้ได้เพราะลูก มีความเป็นไปได้ที่เต้จะแย่งลูกไป เลขาซินดี้ไม่สามารถที่จะขัดขวางได้ด้วยซ้ำ
ถึงเวลานั้น สิ่งที่เหลือทิ้งไว้ให้เลขาซินดี้ ก็มีเพียงความสิ้นหวังอย่าหนึ่ง
จำเป็นด้วยเหรอ?
บางทีเอาเด็กออก ถึงเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด
เปปเปอร์ก็หิ้วกล่องไม้ใส่อาหารประณีตเข้ามาจากข้างนอก
เมื่อเห็นแววตาที่ไร้ชีวิตชีวาคู่นั้นนั่งอยู่ตรงนั้น มองแวบเดียวก็รู้ว่าหญิงสาวกำลังเหม่อลอย เขาเลิกคิ้ว ต่อจากนั้นก็ตั้งใจก้าวเดินเบาๆ
จนกระทั่งเปปเปอร์วางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะทำงานของเธอ มายมิ้นท์ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ดวงตาถึงได้หลุดจากภวังค์ รู้สึกตัว มองไปทางกล่องอาหาร
เธอแปลกใจก่อนว่าทำไมจู่ๆโต๊ะทำงานของตัวเองมีของแบบนี้เพิ่มมา ต่อจากนั้นมองขึ้นไปตามของสิ่งนี้ เห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงข้ามโต๊ะทำงาน เลิกคิ้วมองดูเธอ เธอเบิกตากว้างเล็กน้อย ใบหน้าก็เผยให้เห็นสีหน้าประหลาดใจ“นาย……นายมาอยู่ที่ได้ยังไง?”
เธอรีบลุกขึ้น เดินอ้อมโต๊ะทำงานไปถึงที่ข้างกายของชายหนุ่ม “นายควรที่จะยุ่งอยู่ไม่ใช่เหรอ? มาที่นี่ทำไม?”
เปปเปอร์เปิดที่หิ้วของกล่องใส่อาหาร มองดูเธอแล้วยิ้มให้กับเธอ“เมื่อกี้นี้พาผู้บริหารต่างประเทศหลายคนไปตรวจตราโรงงานที่เมืองเดอะซี ก็มาที่นี่ซะเลย พอดีว่าตอนนี้ก็เป็นเวลาอาหารกลางวันอีก ดังนั้นก็มาทานข้าวกับเธอเป็นพิเศษ หลังจากที่ทานเสร็จ ฉันก็จะไปสนามบิน ส่งพวกเขากลับไป”
ผู้บริหารเหล่านั้น ก็ล้วนเป็นประธานบริษัทสาขาในต่างประเทศ ทุ่มเทการทำงานให้กับเขา หลายปีกว่าจะกลับมาในประเทศครั้งหนึ่ง เขาในฐานะเจ้านาย ก็ย่อมต้องไปส่งพวกเขาด้วยตัวเองสักหน่อย แสดงให้เห็นว่าเจ้านายอย่างเขาก็ให้ความสำคัญกับพวกเขาเสมอมา
แบบนี้พวกเขาถึงจะยิ่งทำงานเพื่อเขาด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่มากขึ้น จัดการดูแลบริษัทสาขาในต่างประเทศให้ดี
เมื่อฟังชายหนุ่มบอกว่าทานอาหารเสร็จก็จะไปทำงานต่อ มายมิ้นท์ก็ถอนหายใจในใจ“ฟังดูก็เหนื่อย เหนื่อยจริงๆน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เหนื่อยยิ่งกว่านี้ยังมาไม่ถึงน่ะ คาดว่าก็น่าจะเร็วๆนี้ ก็เดือนหน้านี้แล้ว ท้ายปีถึงจะยุ่งที่สุด ตรวจนับสินค้าคงคลังในบริษัทตระกูลนวบดินทร์ เจ้านายอย่างฉันคนนี้ ในเวลาช่วงนั้น อาจจะต้องนอนที่ห้องทำงาน”เปปเปอร์จับมือของเธอ อีกมือหนึ่ง ก็ยกกล่องอาหารบนโต๊ะขึ้น แล้วพาเธอเดินไปนั่งที่โซฟา
มายมิ้นท์หันข้างมองเขา“นอนที่ห้องทำงานเหรอ?”
“อือ”เปปเปอร์พยักหน้า“มันเป็นแบบนี้ทุกสิ้นปี ตอนนี้ฉันบอกกับเธอล่วงหน้าก่อน ถึงเวลาช่วงนั้น ฉันอาจจะอยู่กับเธอไม่ได้”
จากนั้น เขาหยุดนิ่งลงมา มองดูเธอ ในดวงตาเต็มไปด้วยคำขอโทษเล็กน้อย
มายมิ้นท์ยิ้มเล็กน้อย“ทำไมนายต้องทำแบบนี้ด้วย ก็แค่ยุ่งจนไม่มีเวลาอยู่กับฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องทำท่าทางรู้สึกผิดกับฉันด้วย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...