รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 919

“ฉันไม่โกหกคุณหรอก” เปปเปอร์มองเธอขณะยิ้ม “เพื่อไม่ให้คุณรอนาน ไม่ให้พวกคุณนายราศีรอนาน เฮลิคอปเตอร์เป็นเครื่องมือเดินทางที่เร็วสุดแล้ว”

นัดเธอไว้แล้ว จะไปถึงตระกูลรัตติพีระหนึ่งทุ่ม

ตอนเขาออกมาจากประตูใหญ่คฤหาสน์ ก็หกโมงครึ่งแล้ว เขาจึงรู้ดีว่า ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางไปถึงตระกูลรัตติพีระพร้อมกับเธอตอนหนึ่งทุ่มได้

ถึงจะสายแล้ว แต่เขาก็ไม่เลือกปล่อยมันไปตามยถากรรม แต่แจ้งคนให้ขับเฮลิคอปเตอร์ไปส่งเขาที่เทนเดอร์กรุ๊ปทันที

อย่างน้อย พวกเขาจะได้ไปถึงก่อนเล็กน้อย จะไม่ช้าเกินไป

“ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะมาวิธีนี้ ตอนคุณบอกว่าคุณจะมาถึงภายในสิบนาทีกว่า ฉันไม่เชื่อคุณเลยนะ” พูดถึงตรงนี้ มายมิ้นท์ก็ยักไหล่ “ดูเหมือนต่อจากนี้ไป ทุกอย่างที่คุณทำ ฉันต้องคิดให้สูงขึ้นอีกมิติแล้ว แบบนี้จะได้เข้าใกล้ความจริงมากขึ้น”

เธอยกมือขึ้นมาเหนือศีรษะตัวเอง ทำท่าทางสูงมาก น่ารักสุดๆ

เปปเปอร์เห็นดังนั้น ก็ลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ กอดเธอในอ้อมแขน “กล้านั่งเฮลิคอปเตอร์ไหม?”

มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมแขนเขา “คุณคงไม่คิดจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปหรอกใช่ไหม?”

เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย แสดงออกว่าตนหมายความเช่นนี้แหละ “แบบนี้จะเร็วหน่อย อาจจะไปไม่ถึงตอนทุ่มหนึ่ง อย่างน้อยทุ่มสิบนาทีกว่าๆ ก็ได้ จะได้ไม่สายเกินไป”

ยังไงตอนนี้ก็ทุ่มเป๊ะแล้ว

แต่มายมิ้นท์ส่ายหน้า “ไม่ได้ๆ ถึงเฮลิคอปเตอร์จะเร็วก็จริง แต่ที่คฤหาสน์พวกคุณป้าไม่มีลานจอดนะ ฉันไม่กล้าลงบันไดเชือกด้วย ขาสั่น เราขับรถไปดีกว่านะ ไม่ต้องห่วง ฉันบอกคุณป้าไว้แล้วว่าจะไปสายหน่อย เธอก็เห็นด้วย ไม่เอาเรื่องที่เราไปสาย คุณป้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล เธอรู้ว่าเราสาย เพราะคุณอยู่กับท่านย่าที่คฤหาสน์ ชมด้วยว่าคุณกตัญญู”

“จริงเหรอ?” เปปเปอร์ผลุบตาลงมองเธอ

มายมิ้นท์พยักหน้าตอบอืม “แน่นอนสิ ฉันจะโกหกคุณทำไม เอาล่ะ คุณรีบปล่อยฉัน ไม่ต้องกอดแล้ว มีคนมองอยู่นะ”

เธอแก้มแดงมองไปที่คนขับและบอดี้การ์ดสองคนในเฮลิคอปเตอร์

เมื่อครู่นี้ตอนเปปเปอร์กอดเธอ คนพวกนี้ก็มองมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

ตอนแรกเธอคิดว่าจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นพวกเขา

แต่แววตาซุบซิบนินทาของพวกเขามันชัดเจนเกินไป เธออยากจะแกล้งก็ทำไม่ได้

สุดท้ายก็ไม่ต้องแกล้งแล้ว ผลักเปปเปอร์ออกเบาๆ ไปเลย เตือนให้เขารีบปล่อย

ยังไงเธอก็ไม่ได้มีงานอดิเรกชอบให้คนอื่นเห็นเธอรักใคร่กับคนรัก

แน่นอนว่าเปปเปอร์รู้ว่ามายมิ้นท์หมายถึงคนพวกไหน หลังจากปล่อยเธอ ก็หันศีรษะกวาดตามองเฮลิคอปเตอร์ด้วยความเย็นชา

คนในเฮลิคอปเตอร์สัมผัสแววตาเย็นชาของเขา ทันใดนั้นก็ตกตะลึงไปทั้งร่าง ขนลุกชันขึ้นมา จากนั้นก็รีบก้มศีรษะพร้อมกัน ไม่อยากรู้อยากเห็นแล้ว

เห็นดังนั้น มายมิ้นท์ก็อดขำไม่ได้ “พอแล้ว คุณอย่าดุพวกเขาเลย เราไปกันก่อนเถอะ บนดาดฟ้าลมแรงมาก หนาวไปหน่อย”

เธอหดคอ พ่นลมหายใจเย็นๆ แล้วพูดขึ้น

ได้ยินว่าเธอหนาว เปปเปอร์ก็ไม่สนใจคนพวกนี้อีกต่อไป จับมือเธอเอาไว้แล้วเดินไปที่ประตูเหล็ก

ส่วนคนพวกนั้นในเฮลิคอปเตอร์ เดี๋ยวตนจะกลับไปจัดการ

ยังไงต่อไป ก็ไม่ได้ใช้พวกเขาอีกแล้ว

หลังจากเข้าประตูเหล็กมา ก็ไม่มีลมหนาวพัดมาแล้ว

สุดท้ายมายมิ้นท์ก็โล่งอก ร่างที่แข็งตึง ก็คลายลงเล็กน้อย ไม่หนาวขนาดนั้นอีกแล้ว

แต่เปปเปอร์จับสองมือเธอไว้ในฝ่ามือ วางบนข้างริมฝีปาก แล้วเป่าลมร้อนใส่ฝ่ามือเย็นเฉียบของเธอ

หลังจากเป่าไปไม่กี่ที แถมลูบมือ ถูสองมือให้เธอ อยากให้สองมือเธออุ่นขึ้นมาเร็วๆ

มายมิ้นท์เห็นชายหนุ่มเป็นห่วงตนแบบนี้ ในใจก็อบอุ่น รอยยิ้มบนใบหน้าก็สวยงามจนเทียบไม่ได้ “พอแล้วๆ ไม่ต้องถูแล้ว มือฉันอุ่นแล้วล่ะ ถูต่อไปหนังถลอกแน่”

จู่ๆ ร่างก็ลอยขึ้น มายมิ้นท์กรีดร้องโดยไม่รู้ตัว “กรี๊ด เปปเปอร์คุณจะทำอะไร?”

เปปเปอร์ไม่ตอบเธอ แค่เหลือบมองเธอ จากนั้นก็แบกเธอบนบ่า หิ้วเดินออกไปเหมือนหิ้วปูน

ขณะที่เดิน ก็ตีก้นเธอสองที “ตอนนี้ยังกล้าพูดอยู่ไหมว่าฉันทำอะไรคุณไม่ได้? หืม?”

ไหล่เปปเปอร์จิ้มท้องมายมิ้นท์ อึดอัดมาก แต่เธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย ใบหน้าเล็กแดงก่ำ ราวกับเลือดจะไหลออกมา

เกิดจากการเลือดคั่งศีรษะลงบนหน้า และโดนตีก้นจนเขินอายหน้าแดง

เธอไม่คิดเลยว่า ตัวเองโตขนาดนี้แล้ว ยังโดนคนตีก้นอีก

คิดแล้วก็ยิ่งอัปยศ มายมิ้นท์แทบอับอายจนอยากตาย เธอทุบหลังชายหนุ่มอย่างสะเทือนใจ พลางหันศีรษะตะโกนใส่ชายหนุ่มอย่างมุ่งมั่น “เปปเปอร์คุณรีบปล่อยฉันลง ที่นี่บริษัทนะ ถูกคนเห็นแล้วจะมีผลกระทบไม่ดี”

“แล้วยังไง?” เปปเปอร์ไม่เห็นด้วย ฝ่ามือใหญ่โอบต้นขาเธอไว้ แค่ใช้ไหล่ข้างเดียว แขนข้างเดียวแบกเธอไว้ขณะที่ถาม

เห็นได้ชัดว่าพละกำลังและแรงตึงเครียดทางเพศของแฟนเธอแข็งแกร่งมากแค่ไหน

“เราเป็นคนรักกัน ทำอะไรก็ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีผลกระทบแย่หรอก คนที่คิดว่าเราทำให้เกิดผลกระทบแย่ ก็แค่อิจฉาเท่านั้นแหละ” เปปเปอร์ก็หันศีรษะไป เหมือนจะอยากเห็นเธอ

แต่ร่างกายส่วนบนของมายมิ้นท์อยู่บนหลังเขาอย่างสมบูรณ์ ถึงเขาจะหันศีรษะมา ก็ไม่เห็นหน้าเธอ

แต่เขาจินตนาการได้ว่า ใบหน้าเธอในขณะนี้เป็นยังไง

ต้องเขินอายจนแดงแน่ๆ ล่ะ

ได้ยินชายหนุ่มไม่เห็นด้วยกับคำพูดนี้ มายมิ้นท์ก็ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด “เปปเปอร์นี่คุณตั้งใจแกล้งโง่ใช่ไหม ที่ฉันบอกว่ามีผลกระทบไม่ดี จริงๆ แล้วฉันไม่อยากให้พวกเขาเห็นพฤติกรรมเราในตอนนี้ต่างหาก มันน่ากระอักกระอ่วนมากเลยอ่า”

“ไม่เห็นน่ากระอักกระอ่วนเลย ดีเสียอีก เราเป็นคนรักกัน ทำอะไรก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าคุณเขินอายเกินไป ฉันคิดว่าบางครั้งให้คนเห็นก็ดีเหมือนกัน จะได้เสริมสร้างความกล้าหาญคุณ ต่อไปคุณจะได้ไม่ต้องเขินอายแบบนี้” เปปเปอร์พูดอย่างจริงจัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว