รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน นิยาย บท 129

ที่บ้านตระกูลภูสิทธ์อุดม

“ไอคนนามสกุลตระกูลเดชอุป แกรีบออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันตาบอดไปแล้ว ถึงได้ตกหลุมพรางแกได้ แกบอกฉันว่าแกไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกฉันเหรอ? งั้นทำไมแกถึงเลือกแต่ฉัน มาเล่นหมากรุกกับฉัน มาคบหากับฉันล่ะ? ที่แท้แกหวังอยากจะได้หลานสาวฉันนี่เอง”

“ตระกูลเดชอุปของพวกคุณสูงส่งเกินไปแล้ว ตระกูลภูสิทธ์อุดมเราอาจเอื้อมไม่ถึงหรอก ไม่ต้องมาคิดอยากได้หลานสาวฉันเลย”

คนที่โมโหและกำลังไล่คุณปู่เร็นออกไปอยู่ก็คือคุณปู่ชรัณ

คนที่กนกอรไปดูตัวด้วยกลับเป็นนฤเบศวร์ไปได้

คุณปู่ชรัณไม่ได้โง่ ถึงแม้ว่าคุณปู่เร็นจะปฏิเสธตลอด แต่ชายชราอย่างเขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าในใจอีกฝ่ายจะไม่มีอะไรแอบแฝง

“ชรัณ เจ้านฤเบศวร์ของเราเป็นคนที่ดีมากเลยนะ”

คุณปู่เร็นถูกไล่ออกมาแล้ว ยังช่วยพูดแทนหลานชายตัวเองอย่างไม่ตายใจ

ถ้ารู้ตั้งแต่แรก เขาก็คงจะรออีกสักพักหนึ่งค่อยจัดแจงให้ทั้งสองคนไปดูตัวแล้ว

แต่ว่า กระดาษมันห่อไฟไม่ได้หรอก

เป้าหมายของเขาก็คือให้หลานชายแต่งงานกับกนกอร แล้วจะได้ตัดขาดกับเปรมา

“ชรัณ ฉันไม่รังเกียจตระกูลภูสิทธ์อุดมของพวกแก เจ้านฤเบศวร์เขามีความสามารถมาก ไม่จำเป็นจะต้องใช้การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์มารักษาตำแหน่งของเขา ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะแต่งงานกับใคร ฉันก็ไม่มีปัญหาทั้งนั้น หลานสาวของแกเป็นคนที่ไม่เลว ฉันชอบมาก ขอแค่เด็กทั้งสองคนชอบพอกัน ฉันรับรองว่าพอกนกอรแต่งเข้ามาแล้ว จะไม่มีใครรังแกเธอแน่นอน”

“ขากถุย! ใครจะไปแต่งกับหลานชายแก? คนทั้งเมืองต่างก็รู้ว่าหลานชายสุดที่รักของแกชอบผู้หญิงที่นามสกุลไชยรัตน์คนนั้นมากแค่ไหน ประชาชนตาดำ ๆ อย่างพวกเรายังรู้เรื่องเลย แกอยากจะทำร้ายหลานสาวฉันเหรอ ถ้าหลานสาวฉันแต่งงานไปจริง ๆ ก็จะต้องไปเป็นหม้ายทั้งที่สามีไม่ได้ตายแล้ว”

“ถึงแม้ตระกูลเดชอุปของพวกแกจะให้เงินให้ทองพวกเราเป็นภูเขา หลานสาวฉันก็ไม่แต่งหรอก! ไสหัวไปซะ!”

คุณปู่ชรัณโมโหไม่น้อย

สิ่งที่สำคัญคือเขาคิดว่าคุณปู่เร็นเป็นเพื่อนจริง ๆ แล้ว สามารถพูดคุยกันได้ ความสามารถในการเล่นหมากรุกก็สูสีกัน และมีความรู้สึกเหมือนได้เจอกับเพื่อนเก่า

แต่ใครจะไปรู้ว่าคนอื่นเขากลับวางแผนมาเพราะหลานสาวของเขา

ถึงแม้คนทั้งครอบครัวเขาจะเป็นห่วงเรื่องใหญ่ในชีวิตของหลานสาว แต่ก็ไม่อาจยอมให้ตระกูลเดชอุปมาทำร้ายหลานสาวของเขาได้

พอคุณปู่ชรัณไล่คุณปู่เร็นออกจากบ้านไปแล้ว ก็ปิดประตูใหญ่ในสวนไปดังปัง แล้วล็อกเอาไว้ จากนั้นก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้คุณปู่เร็นตบประตูอยู่ข้างนอก และร้องเรียกไป ก็ไม่สนใจเขา

พอกนกอรกลับมา ก็ได้เห็นภาพแบบนี้

ปู่ของนฤเบศวร์ยืนอยู่หน้าประตูบ้านตัวเอง คอยตบประตูไปไม่หยุด และกดกริ่งไป ด้วยท่าทางเหมือนกับว่าจะกระทืบเท้าแล้ว

พอกนกอรนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้ว ก็เข้าไป แล้วถามขึ้นว่า “ท่านคุณปู่เร็น เกิดอะไรขึ้นคะ?”

พอคุณปู่เร็นเห็นกนกอร ก็เหมือนกับว่าได้เห็นฮีโร่ แล้วก็ยื่นมือไปคว้ามือกนกอรเอาไว้ แล้วตบมือกนกอรเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า “กนกอร ฉันชอบหนูมากจริง ๆ นะ อยากให้หนูมาเป็นแฟนกับเจ้านฤเบศวร์ของฉันจริง ๆ ไม่ได้อยากจะทำร้ายหนู หนูช่วยไปอธิบายกับปู่หนูซิ”

“ถึงแม้ว่าปู่หนูจะไม่เป็นเพื่อนกับฉันอีก ก็อย่าโกรธฉันจนไม่สบายไปเลยนะ”

กนกอรชักมือตัวเองกลับมา

“ท่านคุณปู่เร็น ฉันกับหลานชายคุณไม่มีทางเป็นไปได้หรอกนะคะ ขอบคุณที่ท่านรักและเอ็นดู ที่ปู่ฉันโกรธ ก็เป็นเพราะว่าท่านมาหลอกลวงพวกเรา ถึงปากท่านจะบอกว่าไม่ได้อยากจะทำร้ายฉัน แต่ที่จัดแจงให้ฉันกับนฤเบศวร์ไปดูตัวด้วยกัน ก็เป็นการทำร้ายฉันแล้วค่ะ”

เธอไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลร่ำรวยอย่างตระกูลเดชอุปมาก่อน แต่ก็เคยดูละครมาไม่น้อย ไม่น้อยจริง ๆ

ในฐานะที่เป็นประมุขของตระกูลใหญ่ แล้วยังสามารถอบรมสั่งสอนผู้สืบทอดอย่างนฤเบศวร์ออกมาได้ คุณปู่เร็นก็เลยไม่ใช่คนซื่อสัตย์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เขาจะต้องเป็นเจ้าจิ้งจอกเฒ่าแน่ ๆ

กนกอรไม่ได้โง่ แต่ก็ไม่ได้เจ้าเล่ห์มากขนาดนั้น เธอไม่ชอบคบหากับจิ้งจอกเฒ่า เพราะว่าเธอไม่มีความเฉลียวฉลาดที่จะไปต่อสู้กับจิ้งจอกเฒ่ามากขนาดนั้น ยังไงก็อยู่ห่าง ๆ ไว้ดีกว่า

คุณปู่เร็นพูดอะไรไม่ออก

เขาไม่กล้ายอมรับว่าตัวเองจะหลอกใช้กนกอร จะเอากนกอรมาเป็นหมากตัวหนึ่ง

บนใบหน้ายังท่าทีเหมือนว่าเขาไม่ได้อยากทำร้ายกนกอรจริง ๆ ปรากฏอยู่

พอคุณปู่ชรัณได้ยินเสียงหลานสาว ก็รีบออกมาทันที และเปิดประตูออก ยื่นมือมาดึงตัวกนกอรไป แล้วพูดกับกนกอรขึ้นว่า “กนกอร อย่าไปสนใจตาแก่จอมหลอกลวงคนนี้”

เขาลากหลานสาวเข้าไปในสวน แล้วก็ปิดประตูแล้วล็อกไปอีกครั้ง

คุณปู่เร็น “……”

ตาแก่จอมหลอกลวงเหรอ!

เขาอยู่มาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยถูกใครด่าแบบนี้มาก่อนเลย

สมแล้วที่เป็นโรงแรมใหญ่ระดับเจ็ดดาว

“วิกา”

น้ำเสียงของยศพัฒน์เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย และร้องเสียงต่ำเรียกเธอไปคำหนึ่ง

เทวิกาหันหน้ากลับมามองเขา แล้วถามขึ้นว่า “ทำไมเหรอ?”

มีอะไรก็พูดมาทีเดียวให้หมดเลยซิ

ยศพัฒน์ยกมือขึ้นมาลูบปากตัวเองเล็กน้อย แล้วมองไปที่เธออย่างเร่าร้อน

เทวิกาเข้าใจทันที ใบหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย แล้วก็หันไปมองสถานการณ์ด้านนอกก่อนเล็กน้อย พอเห็นว่าละแวกใกล้ ๆ นี้ไม่มีใครมาจดจ้องเธออยู่ เธอถึงได้ชิดตัวเข้าไป แล้วก็จูบลงบนหน้ายศพัฒน์อย่างรวดเร็ว แล้วพูดเสียงหวานขึ้นว่า “ที่รัก ลาก่อนค่ะ ตั้งใจทำงานดี ๆ นะ ขยันทำงานหาเงินมาเลี้ยงฉันนะคะ”

พอได้รับจูบที่หอมหวานจากภรรยา ในใจยศพัฒน์ก็รู้สึกอิ่มเอม แล้วพูดอย่างตามใจขึ้นว่า “ได้ งั้นผมจะขยันทำงานหาเงินมาเลี้ยงคุณนะ มีเรื่องอะไรก็โทรหาผมนะ”

“รู้แล้วค่ะ”

เทวิกาลงจากรถ พอปิดประตูลงไปแล้ว ก็โบกมือให้ชายหนุ่มที่อยู่ในแล้วบอกลา “ที่รัก ขับรถช้า ๆ นะคะ”

ยศพัฒน์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ ผมไม่มีความกล้าแบบคุณหรอก”

ใบหน้าเทวิกาแดงขึ้นมา

ใช่เธอชอบขับรถด้วยความเร็ว

จ้องมองยศพัฒน์ขับรถจากไปแล้ว เทวิกาถึงจะหมุนตัวเดินเข้าไปในร้านตัวเอง พอเดินไปถึงหน้าประตูร้าน ก็ล้วงกุญแจออกมา ยังไม่ทันได้เปิดประตูออก ก็ได้ยินเสียงเจ้าของบ้านดังขึ้นมาซะก่อน “คุณเทวิกา ค่าเช่าบ้านเดือนนี้ของคุณค้างมานานแล้วยังไม่ได้จ่ายเลย และค่าเช่าร้านของคุณก็ยังไม่ได้จ่ายด้วยเหมือนกัน ผู้ชายของคุณเป็นประมุขแห่งตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด อย่าบอกฉันนะว่าคุณไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าน่า”

เทวิกา “โอ้โห! ฉันลืมจ่ายไปเลย”

วันนั้นพอได้รับค่าต้นฉบับแล้ว เธอก็โอนให้ยศพัฒน์ไปห้าพัน บอกว่าเป็นเงินที่เธอเช่าเขา

แต่กลับลืมจ่ายค่าเช่าร้านและค่าเช่าบ้านไป

เจ้าของร้านและบ้านเช่าคือคนคนเดียวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน