นฤเบศวร์หันไปมองไปกนกอร เพื่อรอคำตอบจากกนกอร
“คุณปู่ คือหนูต้องนอนเตียงตัวเองเท่านั้นค่ะ ถ้าเปลี่ยนเตียงแล้วจะนอนไม่หลับ หนูว่าหนูกลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวจะนอนไม่หลับทั้งคืน ทำให้ตอนกลางวันไม่มีแรงในการทำงาน”
กนกอรไม่อยากอยู่ค้างคืนที่บ้านของตระกูลเดชอุป
ไม่ต้องบอกว่านฤเบศวร์ไม่อยากให้เธออยู่ต่อ ถึงแม้นฤเบศวร์อยากให้เธออยู่ต่อ เธอก็ไม่อยากอยู่หรอก
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องทำงานละ ตระกูลเดชอุปของพวกเราบ้านใหญ่และธุรกิจก็ใหญ่โต ผู้หญิงที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลเราไม่ต้องทำงานและไม่ต้องทำงานบ้านอีกด้วย แต่ละเดือนในตระกูลเราจะมีเงินให้ทุกคนใช้ และสามีตัวเองก็จะให้เงินใช้เช่นเดียวกัน”
“กนกอร หนูอยู่บ้านเป็นคุณผู้หญิงก็พอแล้ว ถ้ารู้สึกน่าเบื่อ ก็ชวนเพื่อนหนูไปเดินเล่น ช็อปปิ้ง แช่น้ำร้อน หรือไปเที่ยวก็ได้”
กนกอร: “……”
“นฤเบศวร์ แกไม่ได้ให้เงินกนกอรใช้จ่ายใช่ไหม?เอากระเป๋าตังค์แกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
คุณปู่เร็นขอกระเป๋าตังกับหลานชาย
นฤเบศวร์ไม่กล้าบอกว่าเขากับกนกอรเซ็นสัญญาข้อตกลงกันไว้ ทุกเดือนเขาจะจ่ายค่าตอบแทนให้กนกอรสามแสนบาท จึงเอากระเป๋าตังออกมาอย่างอิดออด แล้วยื่นไปให้คุณปู่ และในปากก็พูดขึ้นว่า: “คุณปู่ เธอไม่ได้ขาดเงินใช้ ไม่ได้ขาดเงินใช้จริงๆ”
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ร้านของเธอกำไรแล้วในตอนนี้ และในแต่ละเดือนจะได้ส่วนแบ่งก้อนหนึ่งอีกด้วย แค่เงินสามแสนที่เขาให้เธอใช้ก็มากพอแล้ว
คนทั่วไปส่วนใหญ่ปีหนึ่งหาเงินได้ไม่ถึงสามแสนบาทเลย
คุณปู่เร็นไม่สนใจเขา เปิดกระเป๋าตังเขาออกมาดู
กนกอรนึกว่าคุณท่านอย่างมากก็แค่หยิบเงินในกระเป๋าตังของนฤเบศวร์ให้เธอหมด เธอยังเป็นกังวลอยู่ ถ้าหากคุณท่านหยิบเงินของนฤเบศวร์ให้เธอ เธอจะรับดีหรือไม่รับดี?
จนกระทั่งมีแบล็กการ์ดยื่นมาอยู่ตรงหน้าเธอ
เธอรับแบล็กการ์ดนี้มาด้วยความสงสัย เธอรู้จัก แบล็กการ์ด นิยายที่เทวิกาเขียน พระเอกก็คือคนที่มีแบล็กการ์ด
แต่ในชีวิตจริง กนกอรยังไม่เคยเห็นแบล็กการ์ดมาก่อน
เธอรับแบล็กการ์ดใบนั้นมาพลิกดูอยู่หลายรอบ เมื่อดูจนพึงพอใจแล้วถึงได้ยื่นแบล็กการ์ดคืนกลับไปให้คุณท่าน ยิ้มเล้วพูดขึ้นว่า: “ที่แท้หน้าตาของแบล็กการ์ดเป็นแบบนี้นี่เอง”
“กนกอร หนูถือไว้ คราวหลังถ้ามีอะไรที่อยากได้ก็ใช้บัตรใบนี้ซื้อแหละ หนูเป็นภรรยาของนฤเบศวร์
เงินที่เขาหาได้ก็ต้องให้หนู
ใช้อยู่แล้ว ปู่บอกให้หนูเลย หนูใช้มันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจ เงินที่สามีตัวเองหาได้ ถ้าเราไม่ใช้
เอง ก็จะมีผู้หญิงอื่นมาช่วยหนู
ใช้”
นฤเบศวร์ร้องเสียงต่ำออกมา: “คุณปู่!”
“บอกรหัสให้กนกอร”
คุณปู่เร็นพูดออกคำสั่งออกมา
“คุณปู่ ไม่ต้องหรอก แบต……ปรกตินฤเบศวร์ให้เงินหนูอยู่ค่ะ และเงินก็พอใช้อยู่ แต่ไม่ว่ายังไงหนูก็ชอบหาเงินใช้เองค่ะ คุณปู่ ดึกมากแล้ว หนูกลับก่อนนะคะ”
กนกอรตัดสินใจอย่างเด็ดขาดออกมา เพราะกลัวคุณท่านจะให้เธอค้างคืนที่บ้านตระกูลเดชอุป และยัดแบล็กการ์ดให้เธอเพิ่,อีกหนึ่งใบ
“นฤเบศวร์ แกยังนั่งอยู่ทำไม?รั้งหลานสะใภ้ฉันไว้ไม่ได้ แล้วไม่รู้จักไปส่งเธอกลับบ้านเหรอ ตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้ว เธอเป็นผู้หญิงและกลับบ้านตัวคนเดียว มันอันตรายแค่ไหน”
คุณปู่เร็นถลึงตาใส่หลานชาย
“คุณปู่ นฤเบศวร์เองก็เหนื่อยแล้ว ให้เขาพักผ่อนเถอะ ให้คนขับรถส่งหนูก็พอ”
“ไม่ได้ ให้เขาไปส่งหนูแหละ”
คุณท่านถลึงตาใส่หลานชายอีกครั้ง
“รหัส เดี๋ยวผมส่งเข้าไปในมือถือของคุณ”
กนกอร: “……คุณให้ฉันจริงๆ เหรอ?ไม่กลัวฉันรูดบัตรคุณจนหมดเหรอ”
“ถึงแม้คุณจะรักเงิน แต่นิสัยส่วนตัวของคุณเป็นคนที่เที่ยงตรง ไม่ใช้เงินของผมไปเรื่อยหรอก ให้คุณไปแล้ว ก็แค่ช่วยผมดูแลเท่านั้นเอง”
กนกอรหัวเราะเคอๆ ออกมา “ฉันควรขอบคุณที่คุณเชื่อใจฉันหรือเปล่าเนี่ยะ?”
เธอรับแบล็กการ์ดมาอย่างไม่เกรงใจ “ในเมื่อคุณจะเอาให้ฉันดูแล ฉันก็จะดูแลให้ แต่ขอเก็บค่าดูแลวันนะสองพันนะ คุณโอนเงินผ่านวีแชทให้ฉันก็แล้วกัน ส่วนเงินในบัตร ฉันไม่ใช้ของคุณหรอก”
ผ่านไปสักพัก เธอพูดเสริมขึ้นอีกว่า: “ถึงแม้วิญญูชนจะอยากได้เงินทองทรัพย์สิน แต่ก็ต้องได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้อง”
เธอต้องการหาเงินด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง ไม่ใช่ได้มาฟรีๆ จากเขา
นฤเบศวร์ยิ้มทั้งน้ำตา “คุณเอาเงินสองพันออกมาจากบัตรเองก็ได้แล้วหนิ่”
“ฉันไม่แตะต้องบัตรคุณหรอก คุณโอนเงินให้ฉันก็พอ”
“ได้ๆๆ ผมโอนให้คุณ คุณคนรักเงิน ให้คุณทำอะไรให้ผมหน่อยก็พูดเงินกับผมทุกครั้งเลย หรือว่าในขณะที่คุณฝันคุณก็ยังคิดหาวิธีว่าจะเอาเงินของผมเข้ากระเป๋าคุณยังไง”
หลังจากที่นฤเบศวร์ยัดแบล็กการ์ดใส่มือเธอแล้ว ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นโอนเงินสองพันบาทให้กนกอรทันที และหมายเหตุไว้ว่าเป็นเงินค่าตอบแทนในการดูแลแบล็กการ์ด
เมื่อกนกอรได้รับเงินสองพันที่เขาโอนมาแล้ว บ่นพึมพำออกมาว่า: “บอกว่าวันละสองพัน คุณก็โอนแค่สองพันจริงๆ เหรอ ไม่รู้จักโอนเกินสองวันเหรอ?”
“ให้ทุกวัน คุณได้รับเงินทุกวัน ความรู้สึกจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”
กนกอร: “……”
ถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็ต้องติดต่อกับเขาทุกวันสิ
ตอนที่เขาโอนเงินให้เธอ เธอต้องตอบกลับเป็นสติ๊กเกอร์ “ขอบคุณเถ้าแก่” นี่น่าจะถือว่าเป็นการติดต่อแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน