“แม่คะ คงไม่หรอก พี่ชายของหนูจะต้องแต่งงานมีลูกแน่ ๆ”
หลังจากได้ยินคำพูดของแม่ แม้ว่าเทวิกาจะกังวลเหมือนกันว่าพี่ชายคนโตของเธอจะไม่อยากแต่งงานเพราะเรื่องของพ่อแม่ เธอทำได้เพียงปลอบใจแม่ของเธอ
ยศพัฒน์ก็ช่วยเกลี้ยกล่อม
ในเวลานั้นเอง โทรศัพท์มือถือของญาณินก็ดังขึ้น
ทันทีที่เธอเห็นหมายเลขผู้โทร เธอยิ้มและพูดกับเทวิกาและลูกเขยของเธอว่า "พี่ชายลูกโทรมา"
ญาณินรับสายของลูกชาย
"แม่ครับ"
ทันทีที่ประยสย์เปิดปาก เขาก็กล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกผิดว่า "ผมขอโทษที่ให้รอนานนะครับ พอดีผมเพิ่งว่าง"
เนื่องจากพ่อของเขาไม่เคยกลับมาที่บริษัทหลังจากที่เจสันเรียกกลับบ้าน เขาจึงต้องดูแลเรื่องสำคัญในบริษัททั้งหมด
โอเอ กรุ๊ปมีขนาดใหญ่มาก แค่จัดการเอกสารสำคัญก็ทำให้เขายุ่งจนไม่มีเวลาแม้แต่จะดื่มน้ำแล้ว
“ไม่เป็นไร แม่ไม่ได้รอ แม่หลับไปแล้วหนึ่งตื่น เพิ่งตื่นมา ก็ได้รับสายจากลูกแล้ว ยสย์ ลูกอย่าหักโหมนะ พักผ่อนเยอะ ๆ มีร่างกายที่แข็งแรง ถึงจะเรียกว่าดีจริง ๆ อย่างอื่นนั้นล้วนเป็นของภายนอกทั้งหมด"
ญาณินรู้สึกเป็นห่วงลูกชายของเธอ
เธอไม่อยากให้ลูกชายรู้ว่าเธอกำลังรอสายอยู่
"แม่ครับ ผมจะไม่หักโหมครับ แม่ วิกาล่ะ น้องกลับมาหรือยังครับ?"
ประยสย์ถามถึงน้องสาวของเขา
เหตุผลหลักคือเขากับแม่ไม่ค่อยมีเรื่องให้คุยกันมากนัก เขาเติบโตเคียงข้างพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก ทว่า พ่อเป็นคนเข้มงวด และแม่ก็เสียสติ ทำให้เขาไม่ได้สัมผัสกับความรักแบบปกติมาตั้งแต่เด็ก
ตอนนี้แม่ของเขาหายเป็นปกติแล้ว เขาก็โตแล้วเช่นกัน เขาเรียนรู้ที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาคุยกับแม่ทางโทรศัพท์ ก็คุยเกี่ยวกับเรื่องทั่ว ๆ ไปในชีวิตประจำวัน
"วิกากับพัฒน์เพิ่งกลับมา วันนี้พวกเขาไปงานเลี้ยงมา ลูกจะคุยกับวิกาเหรอ?"
ญาณินส่งโทรศัพท์ให้ลูกสาวก่อนโดยไม่รอให้ลูกชายตอบกลับ
"พี่ชาย"
เมื่อประยสย์ได้ยินเสียงของน้องสาว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเขา "รู้สึกอย่างไรที่ได้ไปงานเลี้ยงกับพัฒน์?"
"ดีมากเลย ได้เพื่อนใหม่มาเยอะเลยด้วย"
"เส้นทางที่เธอจะเดินไปในอนาคตนั้นไม่ง่าย เธอต้องหาเพื่อนให้เยอะ ๆ นะ"
ประยสย์ก็เข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นกัน ทว่า เขาเป็นเหมือนภูเขาน้ำแข็งในงานเลี้ยง นอกจากพวกประธานบริษัทที่ทำงานร่วมกับโอเอ กรุ๊ป จะมาทักทายเขาเนื่องจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ส่วนคนอื่น ๆ นั้นอยู่ห่างจากเขามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ผู้หญิงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย แค่พวกเธอเห็นบอดี้การ์ดตัวสูงที่เย็นชาเหมือนกันอยู่ข้าง ๆ เขา แม้ว่าประยสย์จะหล่อเหลาแค่ไหน พวกเธอก็ไม่กล้าเข้าไปทักทายหรือเปิดบทสนทนา
“อืม พี่ คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง?”
เทวิกานึกถึงพ่อของเธอ "แล้วเรื่องนั้นล่ะ เป็นยังไงบ้าง? ผู้หญิงที่คิดร้ายกับพ่อ พ่อจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ?"
ประยสย์ที่อยู่ปลายสายก็หัวเราะออกมา
“พี่ มันสนุกมากเลยใช่ไหม รีบเล่าให้ฉันกับแม่ฟังเร็ว”
เทวิกาขยับเข้าไปใกล้แม่ของเธอ เพื่อให้แม่ของเธอได้ยินอย่างชัดเจนว่าพี่ชายของเธอพูดอะไร
“ต่อมา เมื่อพ่อและเจสันกลับมาบ้าน พ่อจับอาสามกระทืบเช่นกัน พูดสั้น ๆ ว่าทั้งอาสามและพลอยไพลินก็ถูกทุบตี และทั้งคู่ก็อายมาก เมื่อพลอยไพลินรู้ว่าคนที่ใช้เวลาร่วมกับเธอทั้งคืนนั้นคืออาสาม สีหน้าของเธอก็ตกใจพอ ๆ กัน”
ประยสย์รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ
น่าเสียดายที่พ่อไม่ให้ตามไปดูความตื่นเต้นที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะทำดวงตาของเขาเปื้อน
คนที่เติบโตในตระกูลสาระทา เห็นด้านมืดด้านเทามามากมาย ยังกลัวดวงตาเปื้อนอยู่เหรอ?
ประยสย์รู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถไปดูเรื่องน่าสนุกแบบสด ๆ ได้
ถ้าเขาอยู่ในที่เกิดเหตุ เขาจะถ่ายทอดสดให้น้องสาวดูอย่างแน่นอน ให้ทุกคนมามีความสุขด้วยกัน
"หลังจากนั้น?"
เทวิกาและสามีของเธอดีใจที่ได้ยินเรื่องนี้ มันสนุกมาก
เทวิการู้สึกเสียดายมากที่เธอไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และดูละครที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
"ต่อมา พ่อก็พาอาสามและพลอยไพลินไปส่งที่ตระกูลเลิศธนโยธา โดยบอกว่าให้ไปสารภาพและพร้อมขอโทษ ทันทีที่พลอยไพลินกลับไปถึงตระกูลเลิศธนโยธา หัวหน้าครอบครัวตระกูลเลิศธนโยธาไม่อยู่บ้าน มีเพียงภรรยาของหัวหน้าครอบครัวเท่านั้นที่อยู่ เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว คุณนายตระกูลเลิศธนโยธาก็แทบเป็นลมหมดสติ"
ลูกสาวสุดที่รักนอนผิดคน แถมยังถูกประจานขายหน้า สำหรับคุณแก้วแล้วมันเหมือนเอามีดมาทิ่มแทงหัวใจเลย
นอกจากเธอจะรู้สึกสงสารและเป็นห่วงลูกสาวแล้ว เธอยังต้องเผชิญกับความโกรธของสามีอีกด้วย
เพราะธูปเสน่ห์นั้นเธอเป็นคนทำให้ลูกสาวเอง
“เมื่อหัวหน้าครอบครัวตระกูลเลิศธนโยธารู้ความจริง เขาก็โกรธมาก พี่ได้ยินว่าเขาทุบตีอาสามอย่างรุนแรง ถ้าพ่อของเราไม่ได้อยู่ที่นั่น อาสามคงตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว อาสามเอาแต่ร้องทุกข์ บอกว่าพลอยไพลินล่อลวงเขา มันทำให้ตระกูลเลิศธนโยธาเสียหน้าไปด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน