“เธอมีแผลเต็มหน้า ไม่ใช่ณิศาเด็ดขาด”
เทวิกาถามอย่างคับข้องใจ “รูปร่างท่าทางเธอเหมือนณิศาขนาดนั้น ฉันเองก็รู้สึกคุ้นมาก ทำไมจะไม่ใช่ณิศา”
“ตอนที่ฉันไปขวางทางเธอเอาไว้ เธอสามารถลงมือกับฉันตามสัญชาตญาณได้ แต่เธอกลับไม่ทำ
แสดงว่าไม่อยากทำร้ายฉัน ฉันคิดว่าเธอรู้จักฉัน มิฉะนั้นก็คงโยนฉันลงไปข้างๆนานแล้ว”
เทวิกาพูดเองเออเอง “ทำไมเธอจะไม่ใช่ณิศา รายละเอียดหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าเธอคือณิศา
ตอนกระชากหน้ากากเธอออก สิ่งที่ฉันเห็นกลับไม่ใช่ใบหน้าของณิศา”
หลังจากที่ประยสย์มั่นใจแล้วว่าไม่ใช่ณิศา กลับไม่ได้มีปฏิกิริยามากมายเหมือนกับน้องสาว
เขารู้แต่ว่าหน้าตาของหญิงสาวที่สวมหน้ากากเป็นอย่างไร:“วิกา น้องวาดรูปได้มั้ย
เอาใบหน้านั้นวาดออกมาได้มั้ย วาดรูปร่างท่าทางเธอออกมาได้มั้ย”
“ได้ค่ะได้ แต่อาจจะไม่ได้วาดได้มีชีวิตชีวาเหมือนกับที่พี่วาดอย่างนั้น”
เทวิกาเองก็เคยได้รับการฝึกอบรมทางด้านศิลปะต่างๆ ไม่กล้าพูดว่ายอดเยี่ยมมาก
แต่วาดภาพคนที่เคยเห็นออกมาได้พอใช้ได้
“ไม่เป็นไร น้องวาดเลย วาดพอประมาณ ให้พี่รู้ว่าเธอหน้าตาแบบไหนก็พอแล้ว”
“ค่ะ พรุ่งนี้จะวาดภาพเธอให้พี่ดูนะคะ”
เทวิกาเห็นว่าพี่ชายของตนไม่ได้รู้สึกรังเกียจหญิงสาวที่ใส่หน้ากากหน้าลายมีบาดแผลเต็มหน้า
ยังคงให้ความสนใจกับสาวสวมหน้ากากคนนี้ คิดว่าพี่ชายไม่ใช่ผู้ชายที่มองคนแค่รูปลักษณ์ภายนอก
จึงตอบรับคำขอร้องของพี่ชาย
“ยสย์ วิกา พวกลูกไม่เป็นไรนะ”
ญาณินได้ยินว่ามีโจรบุกเข้ามาในบ้าน ก็รีบมาดูลูกทั้งสองคน
ประตูห้องลูกสาวเปิดพอดี เธอเป็นห่วงว่าความจริงแล้วโจรก็คือนักฆ่า จะมาเล่นงานลูกสาว
จึงไม่ได้เคาะประตู รีบเข้ามาเลย ถามลูกทั้งสองอย่างร้อนใจ
“แม่คะ พวกเราไม่เป็นอะไรค่ะ”
เทวิการีบจับมือของแม่ไว้ คอยปลอบโยนแม่
ญาณินมองลูกสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า มองสำรวจหนึ่งรอบ จนแน่ใจว่าลูกสาวไม่ได้รับความเดือดร้อนอะไร
พอเห็นลูกสาวพร้อมกับลูกเขยต่างก็ไม่เป็นไร เธอวางใจ
“เมื่อครู่คนที่วิ่งหนีคนนั้นเป็นโจรหรือนักฆ่า บอกว่าหนีออกไปจากสองห้องของพวกลูกๆ
มาโจมตีพวกลูกสองคนพี่น้องเหรอ”
เดิมทีญาณินเป็นคนที่นอนเร็ว พอได้ยินความเคลื่อนไหว รู้ว่ามีโจรหนีออกไปจากห้องของลูกชายลูกสาว
ยังจะมีโจรกล้าบุกมาที่คฤหาสน์ตระกูลสาระทาอีกเหรอ ไม่ใช่นักฆ่าหรอกนะ!
เธอตกใจจนหายง่วงแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปเลย รีบร้อนวิ่งมาดูลูกชายลูกสาว
เวลานี้ เมื่อเห็นว่าลูกชายและลูกสาวไม่เป็นไร เธอจึงถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“แม่คะ เป็นโจรหญิงค่ะ”
เทวิกาตอบ “ไม่ใช่นักฆ่า งั้นโจรสาวคนนนั้นก็เพิ่งเข้าวงการ
อยากจะท้าทายทักษะการขโมยที่บ้านของพวกเรา ไม่ได้ต้องการจะเล่นงานพวกเราสองคน เธอก็แค่เข้าใจผิด บุกเข้ามาในห้องหนู ยศพัฒน์ไปเจอเข้า ก็เลยต่อสู้กันค่ะ”
“โจรสาวเหรอ”
ญาณินไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีโจรคนไหนกล้าเข้ามาท้าทายฝีมือตัวเองในคฤหาสน์ตระกูลสาระทา
เธอมองลูกชาย จู่ๆก็นึกถึงคืนวันนั้น
ลูกชายของเธอรอผู้หญิงคนหนึ่งมาหาเขาไม่ไกลจากบ้านตระกูลวาชัยยุง ผู้หญิงคนนั้นใส่หน้ากาก
มาอย่างรวดเร็ว ไปก็รวดเร็ว เธอยังเคยถามลูกชาย ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“ประยสย์ คือเด็กผู้หญิงใส่หน้ากากที่แม่เคยเห็นคนนั้นใช่มั้ย”
ประยสย์:“……คือเธอครับ”
สายตาที่ญาณินมองลูกชายเปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน ทำให้ประยสย์แทบจะรีบเดินหนีไปให้ไว
“แม่เคยเจอเธอเหรอคะ” เทวิกาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“แม่ง่วงแล้ว แม่จะกลับห้องไปพักผ่อน พวกลูกสองคนก็รีบไปพักผ่อนเถอะ”
ญาณินไม่ได้ตอบคำถามของลูกสาว ทำท่าหาว หมุนตัวเดินจากไป
เทวิกามองแม่ที่เดินออกไป แล้วก็มองพี่ชาย
เธอไม่กล้าเงยหน้ามองยศพัฒน์
เพราะว่า เธอทำผิดจริงๆ
ถ้าว่ากันตามคำพูดของยศพัฒน์ โชคดีที่หญิงสาวใส่หน้ากากคนนั้นไม่ใช่คนชั่วร้าย
มิฉะนั้นเธอคงบาดเจ็บหรือไม่ก็ตาย
“ผมรู้ว่าคุณอยากจะพิสูจน์ว่าอีกฝ่ายใช่กัญณิศาหรือเปล่า ถ้าใช่กัญณิศา คุณคิดว่าเธอจะปลอมตัวมาที่นี่
โดยไม่ได้มีการวางแผนอะไรเหรอ ต่อให้เธอเก่งกาจแค่ไหน ก็รู้ว่าเหนือฟ้าก็ยังมีฟ้า มีคนที่เก่งกว่าเธอ”
“ภายใต้หน้ากากแต่งหน้าหน่อย หรือไม่ก็สวมหน้ากากหนังคนเทียม ต่อให้คุณถอดหน้ากากเธอออก
ก็ยังไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ ยังจำทักษะการแต่งหน้าขั้นสูงของลินท์ได้มั้ย
เป็นเรื่องยากที่จะยืนยันได้ว่าไม่มีใครเก่งแบบมิลินท์แล้ว”
เทวิกาเงยหน้าขึ้นมาทันที
“ยศพัฒน์ คุณบอกว่า คนคนนั้นอาจจะเป็นณิศาก็ได้
แต่เธอสวมหน้ากากหนังเทียมแล้วก็แต่งหน้าให้อัปลักษณ์เหรอ”
“ผมก็แค่พูดถึงความเป็นไปได้ แต่ไม่กล้ายืนยันว่าเธอคือกัญณิศาแน่นอน ตามรายละเอียดที่คุณวิเคราะห์
ก็เป็นไปได้มากว่าเธอคือกัญณิศา”
เพราะกัญณิศา ยอมถูกเปิดเผยตัวตน แต่จะไม่ยอมทำร้ายเทวิกาแน่
เพราะเป็นกัญณิศาหรือ ตอนที่ต่อสู้กับเขา จึงไม่ได้ออกแรงเต็มที่ คิดแต่อยากจะหลบหนีเขา
จากรายละเอียดที่วิเคราะห์ออกมาเหล่านี้ ยศพัฒน์คิดว่าหญิงสาวที่ใส่หน้ากากคนนั้นคือกัญณิศา90%
“พรุ่งนี้ฉันจะวาดรูปเธอให้พี่ฉันดู ไม่ว่าเธอจะใช่ณิศาหรือไม่ พี่ชายฉันก็ปฏิบัติกับเธอแตกต่างออกไป
พิเศษหว่าคนอื่น ส่วนเธอจะใส่หน้ากากหลายชั้นหรือไม่นั้น ให้เวลาพี่ชายฉันหน่อย
เชื่อว่าเขาต้องถอดหน้ากากของเธอที่ละชั้นได้แน่”
หลังจากพูดจบ เทวิกาก็พูดอย่างรู้สึกเสียใจภายหลังอีกว่า “ถ้ารูแต่แรกตอนเด็กๆฉันก็ไปเรียนการต่อสู้แล้ว เหมือนกับ
กนกอรที่สามารถปกป้องตัวเองได้ก็ดีนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน