“คุณย่า นี่เป็นความคิดของหนูเอง คุณย่าอย่าไปโทษคุณแม่ ในอนาคตหนูกับยศพัฒน์จะมีลูกด้วยกันอยู่แล้ว พอดีเลยตอนนี้เลี้ยงเด็กน้อยสะสมประสบการณ์การเลี้ยงเด็กไว้ก่อน รอให้ตำรวจสอบฐานะของเขาให้ชัดเจนก่อน เมื่อตามหาคนในครอบครัวของเขาเจอ ก็จะคืนเด็กน้อยให้กับครอบครัวเขาเอง”
เทวิกาเก็บความโกรธไว้ไม่ได้เถียงคุณย่ากลับ เธออุ้มเด็กน้อยไว้แล้วเดินเข้าไปใกล้คุณย่า “คุณย่า คุณย่าดูเขาสิอ้วนท้วนปุยมุ้ยน่ารักจะตาย”
“คุณย่า ที่หนูเลี้ยงดูเขาชั่วคราว เพราะรู้สึกว่าเขามีโชคชะตาเดียวกับหนู ตอนนั้นหนูก็ถูกคนร้ายอุ้มตัวไปแล้วเอาไปทิ้งไว้ข้างถนน โชคดีที่พ่อหนูเก็บหนูไปเลี้ยง มิฉะนั้นคุณย่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าหนูอีก?หนูกำลังสร้างความสัมพันธ์ที่ดี”
คุณหญิงย่าหันไปมองพิรัตน์ เด็กคนนี้หน้าตาอิ่มเอิบ รูปร่างหน้าตาดีมาก เพียงแต่อ้วนไปหน่อย ถ้าผอมลงอีกเล็กน้อย ก็จะยิ่งดูดีเลย
ทันใดนั้นเด็กน้อยยิ้มให้เธอทันที
คุณหญิงย่า: “……”
เทวิกาพูดแล้วว่าพิรัตน์ก็เหมือนเธอในตอนนั้น ตอนนี้ที่เธอเลี้ยงพิรัตน์เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดี สั่งสมคุณงามความดี ไม่ว่าผู้ใหญ่จะเกลี้ยกล่อมยังไง เธอก็ยืนยันจะเลี้ยงดูพิรัตน์ ทุกคนจึงทำอะไรไม่ได้
เพราะเหตุนี้ พิรัตน์จึงพักอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลสาระทาเป็นการชั่วคราว โดยมีเทวิกาและสามีเป็นคนเลี้ยงดู
คืนนั้น ในขณะที่เทวิกาฝึกอาบน้ำให้เด็กน้อยอยู่นั้น ปรากฏว่าเห็นแผ่นหลังของพิรัตน์มีรอยสักรูปมังกรอยู่
คือใครกันที่สักรอยสักรูปมังกรไว้แผ่นหลังของเด็ก?
เทวิกาลูบรอยสักมังกรนั้นเบาๆ ทำให้พิรัตน์รีบพลิกตัวทันที แล้วนั่งลง เพื่อไม่ให้เทวิกาจับ คงเป็นเพราะความเจ็บปวดที่ฝังลึกเข้าไปในกระดูกตอนถูกบังคับให้สักสินะ เด็กน้อยจึงไม่ชอบให้คนอื่นลูบแผ่นหลังของเขา
“ยศพัฒน์ คุณคิดว่าฐานะของพิรัตน์คืออะไรเหรอ?เด็กขนาดนี้ก็ถูกคนอื่นสักรูปมังกรไว้แผ่นหลัง หรืออาจเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของตระกูลเขา?”
“ที่มาของเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน รอผลสรุปของตำรวจดีกว่า”
ยศพัฒน์หยิกแก้มตุ้ยนุ้ยของเด็กน้อยเบาๆ, “น้ำเตรียมเรียบร้อยแล้ว คุณช่วยเขาอาบน้ำได้ไหม?หรือว่า ให้ผมอาบให้”
“พูดเหมือนคุณมีประสบการณ์ยังนั่นแหละ”
ยศพัฒน์อุ้มเด็กน้อยขึ้นมา แล้วพูดขึ้นว่า: “ผมไม่มีประสบการณ์ แต่ผมฝึกได้ เมื่อสะสมประสบการณ์ของการเลี้ยงเด็กได้แล้ว พวกเราค่อยมีลูกกัน ผมเลี้ยงเอง จะไม่ให้คุณเหนื่อยเลย”
นี่เขากำลังเตรียมสะสมประสบการณ์การเป็นพ่อเลี้ยงเด็กจากพิรัตน์
“ไปกัน พวกเราไปอาบน้ำกัน”
ยศพัฒน์อุ้มเด็กน้อยเข้าไปในห้องอาบน้ำ
เมื่อได้สัมผัสกันหลายครั้ง เด็กน้อยก็ไม่ต่อต้านการเข้าใกล้ของยศพัฒน์อีกต่อไป
ตอนพิรัตน์อาบน้ำทำตัวเป็นเด็กดีมาก แต่ไม่ยอมสระผม เมื่อช่วยเขาสระผม ร้องได้เหมือนฆ่าหมู
แต่น่าเสียดายที่เขาตัวเล็กแรงน้อย จึงถูกยศพัฒน์บีบบังคับสระผมให้เขาอย่างแข็งกร้าว
“ผมของเด็กคนนี้เริ่มยาวแล้ว พรุ่งนี้พาเขาไปตัดผม โกนหัวเลยดีกว่า เพราะเขาไม่ยอมสระผม ถ้าโกนผมแล้ว ใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดสองสามคร้งก็พอ”
เทวิกาหยิบเสื้อผ้าเด็กมา ไม่ใช่เสื้อผ้าที่ซื้อใหม่ แต่เป็นเสื้อผ้าที่แม่ของเธอพลิกกล่องและตู้เสื้อผ้าหา หาเจอเสื้อผ้าตอนเด็กของประยสย์ แล้วเอาให้พิรัตน์ใส่
สองสามีภรรยายังเป็นมือใหม่อยู่ เวลาช่วยเด็กถอดเสื้อผ้าเป็นเรื่องง่าย แต่เวลาใส่เสื้อผ้า แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสองสามีภรรยามือไม้โง่มาก บวกกับพิรัตน์นอนอยู่บนเตียงไม่ให้ความร่วมมือ พลิกตัวไปมา หรือไม่ก็คลานขึ้นลงบนเตียงไปมา
ทุกครั้งที่ถูกยศพัฒน์จับขาแล้วลากตัวออกมา ก็จะรีบพลิกตัวแล้วคลานหนีไปทันที
ผ่านการสู้รบกันไปสักพัก สองสามีภรรยาถึงใส่เสื้อผ้าให้เด็กน้อยได้จนสำเร็จ
“ฉันไปชงนมก่อนดีกว่า”
เทวิการู้สึกว่าเด็กน้อยเวลามองดูน่ารัก แต่เวลาเลี้ยงดูช่างน่ากลัวเหลือเกิน
เธอจึงรีบไปชงนม แล้วปล่อยพิรัตน์ให้ยศพัฒน์ดูแล
เมื่อเดินออกมาจากห้อง ก็เห็นพี่ชายภรรยายืนสูบบุหรี่อยู่ ซึ่งห่างไกลจากห้องไม่ไกลมากนัก
เมื่อเห็นเขาเดินออกมา สายตาของพี่ชายภรรยาที่มองเขาช่างคุ้นเคยเหลือเกิน เดิมทีหลังจากที่เขากับเทวิกากลายเป็นสามีภรรยากันแล้ว ชเนนทร์ก็ใช้สายตาแบบนี้มองเขาเหมือนกั
เขากับเทวิกาเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว มีอะไรกันก็เป็นเรื่องปรกติ
เมื่อคิดได้แบบนี้ ยศพัฒน์จึงยืดตัวตรง เดินไปให้ประยสย์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วพูดเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า: “ต่อไปสูบบุหรี่ให้ลดลงหน่อย ที่บ้านมีเด็กน้อยอยู่”
“เด็กน้อยไม่ใช่ลูกของเทวิกาสักหน่อย”
ประยสย์บ่นพึมพำออกมา “ถ้าพิรัตน์เป็นลูกของคุณกับวิกา อย่าว่าแต่สูบบุหรี่ที่บ้านไม่ได้เลย แม้แต่ห้ามเล่นมือถือในบ้านผมก็สามารถทำได้”
ยุคสมัยที่คนมีมือถือกันละเครื่อง น้อยมากที่จะทำได้เวลาที่มือถืออยู่ในมือแล้วไม่เล่น
“คุณกับวิกาจะมีลูกกันตอนไหน?ผมอยากเป็นน้าชายคนตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนผมอยากให้พวกคุณมีหลานสาวให้ผม แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนความคิดแล้ว มีหลานชายให้ผมดีกว่า ตอนนี้พวกคุณเลี้ยงลูกหมูไว้แล้ว ใครจะไปรู้ในอนาคตจะรังแกหลานสาวผมหรือเปล่า มีหลานชายดีกว่า ”
ยศพัฒน์: “……พี่ พี่คิดไกลเกินไปแล้ว หลังจากตามหาคนในครอบครัวของพิรัตน์เจอแล้ว ก็จะกลับไปอยู่กับคนในครอบครัวของเขาเอง”
“ผมกับวิกายังอยากใช้ชีวิตสองต่อสองกันอีกสักสองปี ยังไม่อยากมีลูกหรอก ถ้าพี่ชอบเด็ก ก็รีบแต่งงานเลย อยากมีกี่คนก็มีเองได้เลย”
“เลี้ยงลูกของคนอื่นถึงจะสนุก เวลาอารมณ์ดีก็เล่นด้วยหน่อย สนุกด้วยหน่อย แต่ถ้าทำเด็กร้องไห้ ผมสามารถเดินดีได้โดยไม่ต้องสนใจอะไร แต่ถ้าเป็นลูกของตัวเอง เวลาทำเขาร้องไห้ก็ต้องเกลี้ยกล่อมเขาอีก”
ในขณะที่ประยสย์พูดอยู่นั้นก็ได้ดับบุหรี่ไปด้วย แล้วพูดเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาว่า: “ไปกันเถอะ พ่อรอพวกเราอยู่ในห้องหนังสือ”
ยศพัฒน์หันไปมองห้องนอนของคุณปู่กับคุณหญิงย่าอย่างระมัดระวัง
ประยสย์เองก็หันไปมองเช่นเดียวกัน แล้วพูดออกมาอย่างใจเย็นว่า: “ผมได้ใส่ยานอนหลับเล็กน้อยลงในนมที่พวกเขาดื่มก่อนเข้านอน รับรองว่าพวกเขานอนหลับถึงสว่างแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน