“ที่รัก ผมหิวแล้ว”
“หิวก็ไปหาอะไรกินสิ อย่าปล่อยให้หิวจนผอมล่ะ รอนายกลับมา ฉันจะให้นายชั่งน้ำหนัก ถ้าผอมลง นายก็ไปนอนที่ห้องหนังสือ ถ้าอ้วนเหมือนหมู ก็ต้องไปนอนที่ห้องหนังสือ”
หน้าหล่อๆของนฤเบศวร์บึ้งตึง “เป็นผมนี่มันลำบากจริงๆ”
อ้วนขึ้นต้องนอนห้องหนังสือ ผอมลง ยังต้องนอนห้องหนังสืออีก
กนกอรหัวเราะอย่างเบิกบาน “คุณกิติยามา นายไปกินข้าวเช้าเถอะ ฉันจะวางแล้ว”
พูดจบ ก็ไม่รอให้เขาตอบ กนกอรวางสายไปเลย
นฤเบศวร์บ่นๆ: “ไม่บอกว่าคิดถึงเราสักคำ ก็วางไปเฉยเลย”
รอเขากลับไป ต้อง......คงทำได้แค่จูบแหละ อยากจะจัดการอย่างหนักหลายๆรอบ แต่ต้องรอลูกออกมาก่อนถึงจะชดเชยได้
ที่บอกว่า กนกอรฝันถึงเด็กในท้อง ฝันเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเรียกเธอว่าแม่ แล้วเธอก็ขานรับด้วย
เด็กในท้องจะเป็นผู้ชายจริงๆงั้นเหรอ?
นฤเบศวร์ผิดหวังมาก เขาซื้อชุดกระโปรงเจ้าหญิงมาตั้งมากมาย ชุดกระโปรงเจ้าหญิงพวกนั้นแต่ละชุดสวยมากๆ เขาอยากจับลูกสาวสุดที่รักแต่งตัวสวยๆ เหมือนเจ้าหญิงน้อย
แต่ช่างเถอะ อย่าเพิ่งไปคิด รอให้ลูกออกมาก่อนค่อยว่ากัน
ก่อนลูกสามขวบ ถ้าไม่ถอดกางเกง ก็แยกยากว่าชายหรือหญิง ถ้าเป็นผู้ชายจริงๆ ให้ใส่ชุดกระโปรงเจ้าหญิงสักสองสามปีก็คงไม่เป็นไร
นายน้อยที่ยังไม่ได้ออกมา: ......
ทำไมเขาถึงเป็นพ่อที่เลือกจะหลอกลูกชายล่ะ!
หลังจากเขาคลอดออกมา ถ้าพ่อกล้าหลอกให้เขาใส่กระโปรงจริงๆ เขาก็จะร้องไห้ จะร้องให้มืดฟ้ามัวดินไปเลย เพียงแค่แม่คนสวยของเขาสงสาร พ่อที่หลอกลูกชายก็จะซวยแล้ว ฮ่าๆ
กนกอรไม่รู้ว่านฤเบศวร์กำลังคิดเรื่องมีอะไรกันอยู่ที่ฝั่งนั้น เธอหยิบมือถือขึ้นมา ใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกง แล้วลุกขึ้นเดินอ้อมออกมาจากเคาน์เตอร์คิดเงิน ผลักประตูเข้ามาต้อนรับกิติยา
“คุณกิติยา วันนี้ลมอะไรพัดคุณมาคะเนี่ย”
ทุกครั้งที่เห็นกิติยา ดวงตาของกนกอรจะเป็นประกายเสมอ
หล่อเกินไปจริงๆ!
น่าเสียดายที่กิติยาไม่ใช่ผู้ชาย ไม่งั้นเธอคงทิ้งนฤเบศวร์มาตามจีบกิติยาแล้ว
นฤเบศวร์: โชคดี ที่กิติยาเป็นผู้หญิง แล้วยังเป็นผู้หญิงปกติด้วย!
เขาจึงปกป้องสถานะสามีของกนกอรเอาไว้ได้
เขาง่ายดายนักเหรอ ต้องแย่งชิงกับเทวิกา ทั้งยังต้องคอยระวังประธานหน้าตายอย่างกิติยาล่อลวงหัวใจของกนกอรไปอีก
“คุณกนกอร”
กิติยาพยักหน้าให้กนกอร แล้วมองไปรอบๆภายในร้าน ไม่เห็นน้องสาว เธอจึงพูดขึ้น: “ฉันผ่านมาน่ะค่ะ ก็เลยเข้ามาดู ณิศาไม่ได้มาเหรอคะ?”
เธอรู้ว่าน้องสาวจะมา One Day In Coffee ทุกวัน แค่เข้ามาก็อยู่ไปทั้งวันแล้ว
น้องสาวกับกนกอรเข้ากันได้ดี เธอจึงสบายใจที่จะให้น้องสาวคบกนกอรเป็นเพื่อน
“วันนี้ณิศายังไม่มานะคะ”
กนกอรตอบ “คุณกิติยา ดื่มกาแฟสักแก้วไหมคะ ฉันจะไปชงกาแฟให้”
กิติยาแค่ผ่านมาจริงๆ จึงอยากเข้ามาดูว่าน้องสาวมาหรือยัง เธอจึงปฏิเสธความหวังดีของกนกอรอย่างนุ่มนวล: “ในบริษัทฉันยุ่งมากน่ะค่ะ ขอตัวกลับบริษัทก่อน วันหน้าถ้ามีเวลาค่อยมาชิมกาแฟที่คุณกนกอรชงเองกับมือนะคะ”
“ค่ะ คุณกิติยาไปทำงานเถอะค่ะ”
กนกอรพูดแล้วก็เอาขนมที่เพิ่งอบออกมาจากเตาใส่กล่องให้กิติยาสองกล่อง ส่งให้กิติยา พูดขึ้น: “เพิ่งทำเสร็จค่ะ ยังร้อนๆอยู่เลย คุณเอาไปทานที่บริษัทนะคะ”
กิติยาไม่ได้เกรงใจเธอ รับขนมสองกล่องนั้นมา “ขอบคุณค่ะ ถ้าณิศามา บอกเธอหน่อยนะคะ ให้รอฉันอยู่ที่นี่ ตอนเย็นเลิกงานแล้วจะมารับเธอกลับไปด้วยกัน”
“ได้ค่ะ”
ทั้งสองคนต่างไม่รู้ว่ากัญณิศาไปเมืองซูเพร่าตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ส่งกิติยากลับไป กนกอรจึงกล่าวถึงกัญณิศาในแชทกลุ่ม บอกต่อข้อความของกิติยาให้ณิศารู้
ณิศาที่ยังดูแลประยสย์อยู่ในโรงพยาบาลเมืองซูเพร่า ได้รับข้อความที่กนกอรส่งต่อมาให้ เธอจึงเป็นกังวลขึ้นมาทันที เธอต้องคิดหาเหตุผลมาหลอกพี่สาวที่แสนฉลาดของเธอ
“ฉันไม่ง่วง จะอยู่เป็นเพื่อนคุณต่ออีกหน่อย”
กัญณิศายื่นมือไปลูบๆใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยช้ำของประยสย์ พูดขึ้น: “ฉันกับชุติภาอุตส่าห์รีบมา แต่ก็ยังทำให้คุณเจ็บตัวจนได้ หน้าหล่อๆ ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยช้ำ เห็นแล้วสงสารจะแย่”
ประยสย์พูดอยู่ในใจ: ในเมื่อสงสาร ก็จุ๊บหน่อยสิ คุณจุ๊บผมแล้ว รับรองเลยว่าผมจะไม่รู้สึกเจ็บหน้าอีกเลย
ก็นะ คำพูดในใจของเขา เขาไม่กล้าพูดออกมาหรอก
เขากับกัญณิศา เหมือนเป็นคนรักกันแต่ก็ไม่เหมือนคนรักกัน
พวกเขาสองคน ยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เป็นคนรักกันอย่างเป็นทางการ
แต่ทว่า เขานึกถึงคุณย่าแท้ๆของเขาซึ่งคิดจะควบคุมการแต่งงานของเขา กลับอยากให้เขาแต่งงานกับกัญณิศา
รอให้บาดแผลหายออกจากโรงพยาบาลกลับบ้าน หลังจากที่สะสางเรื่องในตระกูลแล้ว เขาก็จะทำตามความต้องการของคุณย่า แต่งงานกับกัญณิศา
ที่สำคัญคือคุณย่าเขาสามารถโน้มน้าวกิติยา ยอมให้ณิศาแต่งงานอยู่ไกลบ้านได้ก็พอ
“ฉันไม่ได้มีทักษะอย่างชุติภา ไม่งั้นฉันคงอัดตาเฒ่าพสธรจนเละแน่ๆ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าต่อยหน้าคุณจนกลายเป็นอย่างนี้ ดูไม่ได้เลย”
ประยสย์: “......”
“คุณชุติภาเป็นใครเหรอ?”
ประยสย์เปลี่ยนเรื่องคุย
แต่ก็อยากรู้ตัวตนของชุติภาจริงๆ
บนตัวของเธอมีกลิ่นสมุนไพรหอมๆอยู่ด้วย เดินเข้าไปใกล้ๆเธอ ก็ได้กลิ่นแล้ว
ทักษะกังฟูของเธอ ทำให้ทุกคนได้เปิดหูเปิดตา ไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีคนที่มีทักษะการต่อสู้อย่างยอดเยี่ยมอยู่จริงๆ ทั้งยังเป็นแค่หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งด้วย อายุยี่สิบกว่าๆ ก็มีฝีมืออย่างนี้ ไม่รู้ว่าเธอเริ่มเรียนกังฟูตั้งแต่กี่ขวบ
“เป็นลูกศิษย์ของเจ้าพ่อลึกลับท่านหนึ่งน่ะ ทักษะการต่อสู้ของเธอยังเป็นรองนะ ทักษะทางการแพทย์สิถึงจะเรียกว่ายอดเยี่ยม คุณปู่ที่เธอพูดถึง ก็คือหมอเทวดาเมื่อสิบกว่าปีก่อน คุณอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่ลองถามพ่อคุณดู ยังไงเขาน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง”
“หมอเทวดากับอาจารย์ของฉันทั้งรักทั้งเกลียดกันมาตลอดชีวิต”
ก็เป็นศัตรูนี่แหละ รู้ๆกันดีอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน