“คุณย่าคะ”
“ลินน์ หนูยังเด็ก รอให้หนูโตพอที่จะเข้าใจเรื่องกฎหมายหนูจะเข้าใจเอง ว่าตอนนี้คุณลุงไม่สามารถช่วยพ่อกับแม่ของหนูได้ พวกเขา...… ไม่ได้โกหกหนูจริงๆ พ่อกับแม่ของหนูทำเรื่องไม่ดีเอาไว้เยอะมาก ซึ่งมันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย”
“ถึงแม้ว่าลุงของหนูจะไม่ลงมือ พวกเขาก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการลงโทษทางกฎหมายได้”
ลินน์ร้องไห้: “คุณย่าคะ พ่อกับแม่ของหนูรู้ว่าพวกเขาทำผิด แล้วพวกเขาจะขอแก้ตัวไม่ได้เหรอคะ?”
เมื่อพวกเขาทำผิดพลาด พ่อแม่ก็ต้องอบรมสั่งสอน แล้วก็ให้พวกเขาแก้ไขในข้อผิดพลาดนั้นก็สามารถให้อภัยได้
แล้วทำไมพ่อกับแม่ที่ทำผิด ถึงต้องถูกจับด้วย?
หญิงชราถอนหายใจ พลางกอดหลานสาวตัวน้อยของเธอและร้องไห้อย่างเงียบๆ
เธอเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวต่างๆมันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ลูกชายทั้งสามคนเกิดที่เธอตั้งครรภ์มาตลอดเก้าเดือน เป็นพ่อเดียวกันและแม่เดียวกัน ตอนที่เธอยังเด็ก พวกเธอสองสามีภรรยายุ่งแต่กับงาน และลูกทั้งสามคนก็เข้ากันได้ดี พวกเขาเป็นพี่น้องกัน และเธอคิดว่าลูกชายทั้งสามคนของเธอคงจะไม่เป็นเหมือนครอบครัวของคนอื่นๆ ที่จะหักหลังกันเองเพื่อผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย
ลูกชายของเธอเริ่มมีความเห็นแก่ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่?
เป็นเพราะเธอผู้เป็นแม่เริ่มมีความลำเอียงหรือเปล่า?
หรือมันเริ่มขึ้นหลังจากที่วิกาหายตัวไป?
เมื่อคิดว่าเรื่องการหายตัวไปของวิกาเกิดจากลูกชายคนเล็กทั้งสองคนของเธอ หญิงชราก็รู้สึกเสียใจ
ว่ากันว่าการที่พี่น้องทะเลาะกัน หลายครั้งมักจะเกิดมาจากความลำเอียงของพ่อแม่
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เมื่อหญิงชราสงบลงก็เช็ดน้ำตาให้หลานสาวตัวน้อยของเธอ และบอกว่า: “ลินน์ ต่อไปนี้หนูห้ามพูดเรื่องเหล่านี้ต่อหน้าคนอื่นนะ โดยเฉพาะเมื่อครอบครัวของอาคุณอยู่ด้วย หนูห้ามพูดเด็ดขาด”
“แล้วตอนที่กลับไปในคฤหาสน์ ก็ต้องทำตัวดีๆ อย่าไปชิชะใส่พี่สะใภ้อีก ตอนนี้พวกเรายังอยู่ในบ้านของพี่ประยสย์ ถ้าหนูไม่ให้เกียรติภรรยาของเขาในที่ของเขา ถ้าพี่เขาทนหนูได้ก็แปลกแล้ว”
“หนูต้องจำไว้ว่าหนูกับพี่ชายคนรองสามารถอยู่ได้ เพราะแม่ของหนูยอมสละชีวิตของเธอและพ่อของหนูเพื่อแลกมันมา”
ลินน์ไม่เข้าใจ เธอสะอื้นและถามว่า: “คุณย่าคะ ทำไมคุณย่าถึงพูดอย่างนั้น?”
“...…หนูอย่าเพิ่งถามอะไรย่าเลย แต่ที่แน่ๆย่าไม่ทำร้ายหนูแน่นอน ไว้หนูโตกว่านี้สักนิด ย่าจะเล่าให้ฟัง”
ลินน์เช็ดน้ำตาของเธอ และภายใต้คำแนะนำของคุณยาย เธอพยักเห็นด้วย และสัญญาว่าจะไม่พูดอะไรที่ไม่พึงประสงค์ต่อหน้าครอบครัวของลุงของเธอ
หลังจากที่คุณย่าและหลานสาวหยุดร้องไห้ตาหายแดงแล้ว หญิงชราก็พาหลานสาวตัวน้อยกลับไปที่บ้าน
ประยสย์ซึ่งเฝ้าดูจากระเบียงไม่ได้ยินการสนทนาระหว่างย่ากับหลาน แต่ประยสย์สามารถเห็นการแสดงออกของย่ากับหลานได้อย่างชัดเจน
ใบหน้าของเขาดูเย็นชา และรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
หญิงชรากำลังพยายามใช้เด็กน้อยเพื่อท้าพนันงั้นหรือ?
ประยสย์รู้สึกว่าบางทีคุณย่าของเขาอาจจะแก่แล้ว และประสิทธิภาพการต่อสู้ของเธอก็แย่ลงเรื่อยๆ แม้กระทั่งเด็กก็ยังถูกหลอกใช้
เธอคิดว่าพยายามทำแบบนี้แล้วคุณอาสองและอาสามของเขาจะปล่อยออกมาอย่างนั้นหรือ
มันก็แค่ฝันลมๆแล้งๆ
ประยสย์ยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก่อนที่จะหันหลังและกลับไปที่ห้องเขา เขาเข้าไปในห้องน้ำและอาบน้ำอีกครั้งเพื่อปลุกตัวเองให้ตื่น
และเมื่อเขาเดินออกจากห้อง เขาก็บังเอิญเจอกับพ่อแม่ของเขา ประยสย์หยุดเดิน และรอให้พ่อแม่เดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะเอ่ยอรุณสวัสดิ์กับพวกเขา
“จัดการเอาเอง แต่พูดไว้ก่อนเลยนะ ว่าอย่าทำให้ลูกสะใภ้ต้องเหนื่อย การที่ให้ลูกไปขอเธอแต่งงานก็เพื่อให้ลูกดูแลเลี้ยงดูเธอ ไม่ใช่ให้เธอมาเป็นทาส”
“แม่ พูดเกินไปแล้ว ผมจะเอาเธอมาเป็นทาสได้ยังไง ผมรักเธอขนาดนั้น แต่เพราะเธอยืนกรานที่จะทำอาหารเช้าให้พ่อกับแม่ แล้วจะให้ผมทำยังไง?” เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่จ้องเขม็งมาที่เขา ประยศย์ก็รีบเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว: “พ่อครับ แม่ครับ ผมจะรีบลงไปข้างล่างช่วยเธอทันที ไม่สิ ผมจะดูแลงานบ้านทั้งหมดเอง และทำให้กัญณิศาเป็นเหมือนเจ้าหญิง”
เมื่อพูดเช่นนั้น ประยสย์ก็รีบลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
หลังจากแต่งงานได้เพียงคืนเดียวสถานะของนายน้อยตระกูลสาระทาก็ถูกลดลงทันที
หลังจากที่ลูกชายของเขาจากไป ไซม่อนก็พึมพำว่า: “ไม่รู้ว่าหลานชายของผมจะมาเมื่อไหร่น่ะ”
ญาณินเอียงศีรษะและกลอกตาไปที่เขา “เพิ่งแต่งงานใหม่ จะมีหลานชายเร็วอะไรขนาดนั้น”
“ผมหมายความว่า ไม่รู้ไอลูกชายเรามันจะได้……”
“รีบอะไร เขากับกัญณิศามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต ไซม่อน คุณอย่ากดดันคู่หนุ่มสาวให้มีลูก ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในโลกของคนสองคนก่อน และค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ ไม่จำเป็นต้องรีบมีลูก ว่าแต่คุณเตรียมแผนเที่ยวปีใหม่ของเราไว้หรือยังคะ?”
ไซม่อนรีบหอมแก้มเธอและพูดด้วยรอยยิ้มที่น่าหลงใหล: “ไม่กล้าขัดคำสั่งของภรรยาหรอก เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และหลังจากจบงานเลี้ยงอาหารค่ำ พวกเราก็ค่อยออกเดินทาง”
“ของขวัญปีใหม่สำหรับเด็กๆต้องเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าให้เรียบร้อย”
“ไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไร ให้อั่งเปาซองใหญ่ๆกับพวกเขาคนละซอง อยากได้อะไรก็ไปซื้อเอาเอง แบบนี้พวกเราก็ไม่ต้องกังวล วิสัยทัศน์ของเราแตกต่างจากพวกเขามาก ของขวัญที่เราตั้งใจเตรียมให้อย่างดี บางทีเด็กๆ อาจจะไม่ชอบก็ได้”
ไซม่อนไม่สนใจที่จะเตรียมของขวัญปีใหม่ให้กับลูกๆของเขา และรู้สึกว่าการให้เงินโดยตรงน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด
“ณิศาเป็นลูกสะใภ้คนใหม่ คุณก็ให้เครื่องประดับเธอสักชุดสิ”
ไซม่อนยังคงคิดเรื่องลูกสะใภ้ของเขาที่เพิ่งแต่งเข้ามาในบ้าน ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องให้ของขวัญปีใหม่แก่เธอจึงจะดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน