“คุณอาสียุ่งมากเลย พวกเราห้ามทำให้เขาเสียเวลาเข้าใจไหมครับ” ถังจือซย่าโน้มน้าวลูกชาย
ใครจะรู้ว่ามีผู้ชายบางคนกอดเด็กน้อยไว้ “คุณอาสีไม่ยุ่ง พวกเราไปเล่นอีกรอบกัน”
“อื้อ ได้ครับ!” เด็กน้อยกอดคอเขาด้วยความดีใจและหันไปพูดกับถังจือซย่าว่า “หม่ามี๊ พวกเราไปเล่นด้วยกันเถอะ”
ถังจือซย่าพูดไม่ออก เธอทำได้เพียงตอบรับไป “งั้นแม่ไปเดินเล่นสัพักแล้วเดี๋ยวจะมารับลูกนะ”
ถังจือซย่าไปเดินเล่นในชุมชน เธออยากย่อยอาหารสักหน่อย
ไม่ทันไรก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว ถังจือซย่ากลับมาที่ฝั่งออกกำลังกาย เธอเห็นลูกชายนั่งอยู่บนชิงช้าและมีสีจิ่วเฉินคอยผลักให้ เธอเดินเข้าไปพูดกับลูกชายว่า “เฉินเฉิน พวกเรากลับบ้านไปอาบน้ำกันได้แล้ว พรุ่งนี้ลูกต้องไปโรงเรียนอีกนะ!”
เด็กน้อยได้ยินถึงความเข้มงวดในน้ำเสียงของหม่ามี๊ก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ครับ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ!”
ถังจือซย่ามองไปที่ชายคนนั้น “ไม่อย่างนั้นคุณกลับไปก่อนเถอะ!”
“กุญแจรถยังอยู่ที่บ้านของเธออยู่เลย และฉันก็อยากดื่มน้ำสักหน่อย” เขาแสดงออกว่าอยากกลับไปบ้านของเธออีกครั้งหนึ่ง
ถังจือซย่ารู้สึกจนปัญญา นึกว่าเขาจะกลับไปตอนนี้ได้เลยเสียอีก!
พอกลับถึงบ้าน ถังจือซย่าเห็นว่าตัวลูกเต็มไปด้วยเหงื่อ ต้องรีบไปพาอาบน้ำ เธอหันไปพูดกับชายที่นั่งดื่มน้ำบนโซฟาว่า “ฉันจะอาบน้ำให้เฉินเฉิน ตอนที่คุณออกไปแค่ปิดประตูให้ฉันก็พอ”
“อืม!” ชายคนนั้นพยักหน้า
ถังจือซย่าพาลูกเข้าไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จก็พาลูกออกมา เธอเห็นชายคนนั้นยังนั่งอยู่ที่โซฟา ก็ชะงักด้วยความงงงวย “ทำไมคุณยังไม่ไปอีก”
“ขอพักอีกสักหน่อย” สีจิ่วเฉินนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางเกียจคร้านและไม่มีเรี่ยวแรง เขาไม่ได้คิดที่จะไปในตอนนี้
“เฉินเฉินจะเข้านอนแล้ว คุณพักอีกสักครู่ก็ไปได้แล้ว!” ถังจือซย่าหันไปพูดกับเขา
ถังจือซย่าบังคับให้ลูกเข้าไปในห้องนอนและขึ้นไปบนเตียง จากนั้นเธอก็หยิบหนังสือนิทานให้เขาหนึ่งเล่ม “ลูกอ่านหนังสืออยู่ในนี้สักพักนะ ห้ามออกไปหาคุณอาสีแล้ว เขาต้องกลับบ้านรู้ใช่ไหม”
“อื้อ ก็ได้!” เด็กน้อยแสดงออกว่าไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็กลัวจะโดนดุ
ถังจือซย่าลูบหัวเล็กๆ ของเขา และจูบไปที่หัวเล็กๆ ของเขาด้วย จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
ถังจือซย่าคิดว่าเขาจะจูบลงมา ดวงตาสวยของเธอจ้องไปที่เขาเป็นการเตือน ทันใดนั้นเอง แขนยาวของชายคนนั้นก็ยื่นมาหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เธอ และเขาก็ลุกขึ้นยืนตามเดิม
“คิดว่าฉันจะจูบเธอหรือ” ชายคนนั้นยกยิ้มขึ้น
ถังจือซย่าเมื่อเห็นว่าเขาเอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์ ใบหน้าของเธอก็เริ่มร้อนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง “ฉันไม่ไปส่งนะ คุณไปสักทีเถอะ!”
จู่ๆ สีจิ่วเฉินก็โน้มตัวลง และคลึงไปที่กรามของเธอ ริมฝีปากบางของเขาแนบไปที่ริมปีฝากแดงของเธอ ถังจือซย่ายังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นและเดินไปทางประตู
“คุณ...”
“ถือเป็นการทำโทษที่เธอแอบดูฉันเมื่อกี้แล้วกัน!” ชายคนนั้นตอบโดยที่ไม่ได้หันกลับมา
“ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” ถังจือซย่าพูดออกไปด้วยความหงุดหงิด
ชายที่เพิ่มจะเดินไปถึงประตูก็หันกลับมามองเธอด้วยสายตาหยอกล้อ “ทำไม ไม่เห็นแล้วเสียดายหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...