พระเจ้าช่วย!
ชายหนุ่มที่อยู่กับถังจือซย่าคนนี้เป็นถึงเจ้าชายของสีซื่อกรุ๊ป ตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศคนนั้นน่ะหรือ
เซี่ยวชินรู้สึกขาอ่อนทันที นึกไม่ถึงว่าเขาจะโชคดีได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตในสถานการณ์แบบนี้ เขาลองหาข้อมูลของรายชื่อเศรษฐีของปีนี้ดูอีกครั้งก็พบว่าชื่อของเขาได้หายไปแล้ว
แต่เขาได้เลื่อนไปดูการอธิบายว่าทำไมเศรษฐีที่เคยอยู่ในรายชื่อถึงได้หายไป ชื่อที่อยู่อันดับหนึ่งก็คือสีจิ่วเฉิน สุดท้ายได้อธิบายไว้ว่าชายคนนี้ไม่เหมาะที่จะอยู่บนรายชื่อ เนื่องจากทรัพย์สินของตระกูลเขาถูกเก็บไว้เป็นความลับ ไม่มีการประกาศออกมา ทำให้ดูลึกลับ และคนนอกไม่สามารถคาดเดาเกี่ยวกับทรัพย์สินของตระกูลเขาได้เลย ที่ทุกคนเห็นเป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น แต่ก็พอคาดเดาได้ว่าส่วนที่ทุกคนไม่เห็นนั้นคงจะน่าตกใจอยู่ไม่น้อย
หลังจากเซี่ยวชินอ่านความคิดเห็นนี้จบ ก็รู้สึกโชคดีที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรไม่ดีไป ถ้าไม่อย่างนั้น เกิดชายคนนี้โมโหขึ้นมาละก็ ทำบุญมาแค่ไหนก็คงช่วยไม่ได้แล้ว
ถังจือซย่าต้มบะหมี่เสร็จก็ยกออกมา เด็กน้อยบอกหม่ามี๊ด้วยความดีใจ “หม่ามี๊ คอมพิวเตอร์ของหม่ามี๊มาส่งแล้ว”
ถังจือซย่างุนงงอยู่ครู่หนึ่ง เซี่ยวชินมาแล้วหรือ เธอรีบเดินเข้าไปในห้องนอนหลักและเห็นแผ่นหลังที่กำลังวุ่นติดตั้งคอมพิวเตอร์อยู่ใต้โต๊ะ
ไม่ใช่เซี่ยวชิน
แต่เป็นสีจิ่วเฉิน
ชายคนนี้ถอดเสื้อนอกของชุดสูทออก พับแขนเสื้อขึ้นและกำลังติดตั้งคอมพิวเตอร์ให้เธออยู่
“คุณติดตั้งเป็นหรือคะ” ถังจือซย่าหลุดปากถามออกไป
ไม่ใช่ว่าเธอสงสัยในความสามารถของเขา แต่ชายคนนี้อยู่เหนือผู้อื่นมาตั้งแต่เด็กและชินกับการออกคำสั่ง เรื่องเหล่านี้ไม่เหมาะที่จะให้เขาทำ
“อย่าดูถูกฉันนะ” ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาติดตั้งแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะตอบเธอ
น้ำเสียงของเขาดูไม่พอใจมาก
“คุณมีเรื่องด่วนอะไร ต้องโทรมายี่สิบแปดสายเลยหรือ ฉันนึกว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นเสียอีก!”
ในขณะนั้นเอง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นและใช้ดวงตาที่คาดเดาไม่ได้นั้นมองมาที่เธออย่างหงุดหงิด
“ถังจือซย่า เธอทำกับฉันแบบนี้ ไม่รู้สึกผิดเลยหรือ”
ถังจือซย่า “...”
“เขาเป็นนักเขียนโปรแกรม...” ถังจือซย่าตอบคำถามจนมึน ชายคนนี้จะตรวจสอบทะเบียนราษฎร์หรืออย่างไร!
สีจิ่วเฉินเดินเข้ามาใกล้เธอ สายตาของเขาเย็นชาขึ้นมา “อือ ฉันจำเขาไว้แล้ว”
ในที่สุดถังจือซย่าก็รู้ว่าชายคนนี้ถามคำถามมากมายไปทำไม เขาอยากไปรบกวนเซี่ยวชินมากกว่าเดิมใช่ไหม
ถังจือซย่าชะงักไปครู่หนึ่งและรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของเซี่ยวชินขึ้นมา เธอเอื้อมมือไปจับแขนของชายหนุ่มไว้ “คุณหมายความว่าอย่างไร คุณคงจะไม่ไปยุ่งกับเขาหรอกใช่ไหม!”
“ถ้าเขายังอยู่ใกล้ๆ ผู้หญิงของผมอยู่ละก็ เป็นเขาที่มายุ่งหรือเปล่า บอกให้เขาสนใจความปลอดภัยในชีวิตไว้” สายตาของเขาน่ากลัวมาก ราวกับจะไปฆ่าใคร
ถังจือซย่าเห็นเงาของปีศาจออกมาจากใบหน้าหล่อเหลาของเขา
“นี่ สีจิ่วเฉิน คุณ...คุณห้ามทำร้ายเขานะ” ถังจือซย่าเห็นว่าเขากำลังจะเดินออกไป จึงรู้สึกว่าควรจะพูดไว้ให้ชัดเจน เธอรีบเดินไปปิดประตูไม่ให้ลูกชายที่อยู่ด้านนอกได้ยิน
“เป็นห่วงเขาขนาดนั้นเลย? เธอชอบเขาแล้วหรือ” ดวงตาของสีจิ่วเฉินแข็งทื่อและเต็มไปด้วยความเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...