รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 253

ในใจของถังจือซย่ารู้สึกสับสน เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของพ่อ เธอก็รู้สึกสงสาร และอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องนี้

เธอจะยอมให้พ่อที่อายุมากของเธอไปขอร้องคนอายุน้อยเช่นสีจิ่วเฉินได้อย่างไร

ต่อให้แค่ขอเรื่องเล็กๆ ก็ควรเป็นเธอที่จะไป แม้ว่าเธอจะเสียศักดิ์ศรี แต่ก็ย่อมดีกว่าให้พ่อเธอเสียศักดิ์ศรี

แต่ในใจของถังจือซย่าเองก็เจ็บปวด ทั้งที่ด้านหนึ่งเธอปฏิเสธการชดเชยของสีจิ่วเฉินไปแล้ว แต่อีกด้านก็ถูกบีบบังคับให้ไปขอร้องเขา เธอตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

โดยเฉพาะเมื่อครู่ที่ได้เจอกับศัตรูเก่าของพ่อ หากบริษัทของพ่อต้องให้เขาจริงๆ เกรงว่าแม้แต่สูดลมหายใจเข้าเพียงเฮือกเดียวพ่อเธอก็คงทำไม่ได้อีกแล้วชั่วชีวิตนี้

“พ่อ หนูตกลง หนูจะลองไปออกปากกับสีจิ่วเฉินดู พ่ออย่าเพิ่งรีบร้อน” ถังจือซย่ากล่าวปลอบพ่อเธอ ให้อารมณ์ของเขาไม่มุทะลุจนเกินไป ไม่อย่างนั้นอาการอาจจะกำเริบอีกได้

“จริงเหรอ งั้นก็ดีสิ ได้ยินคำนี้พ่อก็วางใจแล้ว” ถังจวิ้นพยักหน้าอย่างเบาใจ

ขอเพียงแค่สีจิ่วเฉินลงมือ ก็จะต้องรักษาบริษัทของเขาไว้ได้แน่

ผ่านไปสักพัก ถังจือซย่าเหลือบมองเวลาก็ต้องตกใจ “พ่อ หนูต้องไปรับเฉินเฉินแล้ว เกินเวลามาแล้ว”

“อะไรนะ งั้นก็รีบไปรับเขาเลย! หนูให้เฮ่าเซวียนมาอยู่เป็นเพื่อนพ่อที่โรงพยาบาล” ถังจวิ้นรีบเร่งให้เธอไปรับลูกชาย

ถังจือซย่าจึงได้แต่ต้องล่วงหน้าไปก่อน เธอเรียกรถไปที่บริษัทของพ่อ ก่อนจะโทรศัพท์หาคุณครูที่โรงเรียน ให้พวกเขาดูลูกแทนเธอก่อน แล้วเธอจะรีบไป

ขณะที่ถังจือซย่ากำลังมุ่งหน้าไปที่โรงเรียน ระหว่างทางในใจของเธอก็รู้สึกหนักอึ้งราวกับมีหินมากดทับไว้ เธอจะไปเอ่ยปากกับสีจิ่วเฉินว่าอะไรล่ะ

นี่มันเป็นเรื่องยากมากจริงๆ

ณ ห้องประธานสีซื่อกรุ๊ป แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องกระทบที่หน้าต่างบานใหญ่ ชายหนุ่มร่างสูงถือแก้วกาแฟไว้ในมือ ก่อนจะค่อยๆ จิบช้าๆ สายตามองออกไปไกล แต่ดุดันราวกับนักล่า

เด็กน้อยพยักหน้า แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่ก็ยังรู้จักสงสารหม่ามี๊

เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็ทำอาหารง่ายๆ เห็นลูกชายหิวจนกินบะหมี่เข้าไปคำใหญ่ แต่ถังจือซย่ากลับไม่รู้สึกอยากอาหาร ตอนนี้ในหัวเธอมีแต่คำขอของพ่อ ว่าให้เธอไปขอร้องสีจิ่วเฉิน แต่ว่าเธอจะเอ่ยปากอย่างไรล่ะ

เธอไม่มีวิธีที่จะเอ่ยปากด้วยซ้ำ!

แต่เรื่องนี้จะปล่อยให้ยืดออกไปอีกไม่ได้แล้ว อีกฝ่ามีกำลังบีบบังคับขนาดนั้น พ่อก็ยังโมโหจนอาการกำเริบอีก หมอเองก็แนะนำให้ผู้ป่วยอยู่ในช่วงที่ผ่อนคลายให้เร็วที่สุด และไม่ควรได้รับแรงกดดันอีก

ดังนั้น ถ้าเธอยืดเวลาไปอีกวินาที แรงกดทับที่หัวใจของพ่อเธอก็เพิ่มไปอีกวินาที จนอาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้

ขณะที่ถังจือซย่ากำลังเหม่อลอย เด็กน้อยก็เหลือบมองเธออยู่หลายครั้ง “หม่ามี๊ กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ กำลังคิดถึงอาสีอยู่ใช่ไหม”

ถังจือซย่าสติหลุดทันที ถูกสายตากลมโตของลูกชายมองมาเธอก็รู้สึกเห่อร้อนที่หน้าเล็กน้อย เธอเอ่ยตอบอย่างร้อนรน “เปล่าจ๊ะ หม่ามี๊คิดเรื่องงาน อีกอย่าง วันนี้คุณตาของลูกไม่สบายต้องนอนโรงพยาบาล”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว