รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 273

“มีตรงไหนที่ต้องการแก้ไขหรือเปล่า?” ถังจือซย่าเอ่ยถามขึ้นมาหนึ่งประโยค 

“ไม่ต้องแล้ว เอาตามภาพสเก็ตช์นี่เถอะ! ส่งให้หลี่เหมย รีบทำออกมา” สีจิ่วเฉินวางภาพสเก็ตช์ลงและมองดูกองภาพสเก็ตช์ที่อยู่บนโต๊ะของเธอ “นี่คิดจะวาดอะไรเหรอ?”

“ไม่...ไม่ได้วาดอะไร” ถังจือซย่าตอบตะกุกตะกักเล็กน้อย 

พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นยืนเดินไปทางหน้าต่างและเปิดหน้าต่างออกครึ่งบาน เพื่อที่จะรับลมเย็นๆ ของฤดูใบร่วง หน้าต่างเพิ่งถูกดันออกไป เธอก็สัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ ของฤดูใบไม้ร่วงที่พัดผ่านเข้ามา ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือไม่ลมพัดไปทางโต๊ะทำงานของเธอพัดกวาดกระดาษสีขาวที่ไม่มีสิ่งใดมากดทับไว้ให้ปลิวว่อนล่องลอยขึ้นมา

“อ๊ะ...” ถังจือซย่าตกใจจนหันหลังกลับไปเพื่อที่จะกู้สถานการณ์ แต่เพราะกำลังลมจากด้านนอกแรงเป็นพิเศษ พัดกระจายไปจนถึงกระดาษที่อยู่ใบสุดท้าย ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยกระดาษภาพสเก็ตช์ปลิวว่อนไปมาชั่วขณะ แม้แต่ชายหนุ่มยังมองดูอย่างสนุกสนาน 

ในตอนนั้นเอง เขาเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ไม่ใช่กระดาษที่ว่างเปล่า มันปลิวเหมือนดังใบไม้ที่กำลังร่วง ตกลงมาตรงหน้าเขาพอดิบพอดี เขายื่นแขนออกไปคว้าเอาไว้ได้

ถังจือซย่ากำลังก้มลงไปเก็บกระดาษพวกนั้น และกำลังเร่งรีบมองหากระดาษแผ่นหนึ่งที่ไม่สามารถให้ใครเห็นได้แผ่นนั้น แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าภาพสเก็ตช์แผ่นนั้นได้ร่วงไปอยู่ในมือของชายหนุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

“ห้ามดู คืนมาให้ฉัน!” ถังจือซย่าพุ่งตัวไปหาหวังที่จะแย่งคืนมา แต่ว่าชายหนุ่มใช้แขนอันเรียวยาวยกขึ้นให้สูงเหนือหัว ยกกระดาษภาพวาดใบนั้นให้สูงๆ ขึ้นไป ถึงแม้จะยังมองไม่เห็นชัดเจน แต่ดูเธอรีบร้อนขนาดนี้ เขายิ่งอยากรู้ว่าชายหนุ่มบนกระดาษภาพวาดนั้นคือใคร? 

ถังจือซย่ากระโดดอยู่สองครั้ง แต่ก็เอื้อมไปไม่ถึง ชายหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นไปมองภาพเหมือนที่อยู่บนกระดาษแผ่นนั้น ชั่วพริบตาก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมเธอถึงต้องการแย่งกลับไป

เพราะว่าชายหนุ่มที่เธอกำลังแอบวาดเป็นเขานี่เอง 

สีจิ่วเฉินยื่นกระดาษภาพวาดส่งคืนไปที่มือของเธอ “คืนให้เธอ”

“คุณ...คุณอย่าได้คิดมาก ฉัน...ฉันแค่เบื่อ” ตอนที่ถังจือซย่ารับภาพสเก็ตช์มา ใบหน้าเธอแดงไปถึงหูแล้ว  

ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นอย่างมีความสุข “อืม ฉันรู้แล้วว่าฉันเป็นคนที่คุณคิดถึงตอนที่คุณเบื่อ” 

“ใช่ซะที่ไหน...ก็แค่...ก็แค่อยากฝึกมือเฉยๆ คิดว่าคุณหน้าตาดีไม่น้อย เหมาะกับการวาด คุณอย่าได้คิดมากไป” ถังจือซย่าพูดจนลิ้นพันกัน จนเกือบจะเปลี่ยนเป็นคนติดอ่าง 

“ฉันจะไปดูเฉินเฉิน” ถังจือซย่าไม่มีหน้าจะไปอยู่ในห้องกับเขาสองต่อสองต่อไปได้อีก เธอรีบผลักประตูออกและเดินจากไปทันที 

ถังจือซย่าไม่รู้เลยว่า หลังจากที่เธอเดินออกไป ชายหนุ่มพิงไปที่ด้านหน้าของโต๊ะทำงานเธอ ถือภาพเหมือนภาพนั้นมองดูอยู่เป็นเวลานาน ท่าทางของเขาอ่อนโยนเหมือนดั่งภาพวาดบนกระดาษใบนั้น 

วันเสาร์ก็คือวันพรุ่งนี้แล้ว ถังจือซย่ากินข้าวเย็นเสร็จ ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายฝึกคัดลายมือ เธอยังคิดไม่ตกว่าชุดราตรีพรุ่งนี้จะไปหาเช่าที่ไหนดี? งานเลี้ยงแบบนี้ เธอไม่มีชุดที่เหมาะสมจะสวมใส่ ชุดส่วนใหญ่ของเธอล้วนเป็นชุดทำงานและชุดลำลองสบายๆ ทั้งหมด

เธอไม่ได้ไปถามพ่อของเธอว่าจะพาสองแม่ลูกหลี่เจี๋ยมาด้วยไหม เพราะว่านั้นเป็นเรื่องของครอบครัวของพ่อ 

ในช่วงค่ำ หน้าที่การกล่อมเด็กน้อยโดนสีจิ่วเฉินตัดหน้าไปก่อนเสียแล้ว ชายหนุ่มอยู่เป็นเพื่อนลูกชายเล่นพวกรูบิคต่างๆ เล่นจนทำให้เด็กน้อยได้ใช้สมองคิดอย่างเต็มที่ สุดท้ายเด็กน้อยก็นอนหลับไปอย่างว่าง่าย

ถังจือซย่ากำลังไล่อ่านข้อความในมือถืออยู่ในห้อง เพื่อฆ่าเวลาอันแสนน่าเบื่อก่อนเข้านอน เธอดูคลิปสั้นๆเหล่านั้นไปเรื่อยๆ ในใจเกิดความว้าเหว่ขึ้นมาเล็กน้อย ตอนช่วงกลางวันยังมีเรื่องงานกับลูกให้ได้ทำ มีเพียงแค่ช่วงตอนกลางคืนที่ต้องอยู่คนเดียว ภายในใจถึงได้รู้สึกเกิดความว้าเหว่และเหงาหงอยขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว