“มีตรงไหนที่ต้องการแก้ไขหรือเปล่า?” ถังจือซย่าเอ่ยถามขึ้นมาหนึ่งประโยค
“ไม่ต้องแล้ว เอาตามภาพสเก็ตช์นี่เถอะ! ส่งให้หลี่เหมย รีบทำออกมา” สีจิ่วเฉินวางภาพสเก็ตช์ลงและมองดูกองภาพสเก็ตช์ที่อยู่บนโต๊ะของเธอ “นี่คิดจะวาดอะไรเหรอ?”
“ไม่...ไม่ได้วาดอะไร” ถังจือซย่าตอบตะกุกตะกักเล็กน้อย
พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นยืนเดินไปทางหน้าต่างและเปิดหน้าต่างออกครึ่งบาน เพื่อที่จะรับลมเย็นๆ ของฤดูใบร่วง หน้าต่างเพิ่งถูกดันออกไป เธอก็สัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ ของฤดูใบไม้ร่วงที่พัดผ่านเข้ามา ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือไม่ลมพัดไปทางโต๊ะทำงานของเธอพัดกวาดกระดาษสีขาวที่ไม่มีสิ่งใดมากดทับไว้ให้ปลิวว่อนล่องลอยขึ้นมา
“อ๊ะ...” ถังจือซย่าตกใจจนหันหลังกลับไปเพื่อที่จะกู้สถานการณ์ แต่เพราะกำลังลมจากด้านนอกแรงเป็นพิเศษ พัดกระจายไปจนถึงกระดาษที่อยู่ใบสุดท้าย ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยกระดาษภาพสเก็ตช์ปลิวว่อนไปมาชั่วขณะ แม้แต่ชายหนุ่มยังมองดูอย่างสนุกสนาน
ในตอนนั้นเอง เขาเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ไม่ใช่กระดาษที่ว่างเปล่า มันปลิวเหมือนดังใบไม้ที่กำลังร่วง ตกลงมาตรงหน้าเขาพอดิบพอดี เขายื่นแขนออกไปคว้าเอาไว้ได้
ถังจือซย่ากำลังก้มลงไปเก็บกระดาษพวกนั้น และกำลังเร่งรีบมองหากระดาษแผ่นหนึ่งที่ไม่สามารถให้ใครเห็นได้แผ่นนั้น แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าภาพสเก็ตช์แผ่นนั้นได้ร่วงไปอยู่ในมือของชายหนุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ห้ามดู คืนมาให้ฉัน!” ถังจือซย่าพุ่งตัวไปหาหวังที่จะแย่งคืนมา แต่ว่าชายหนุ่มใช้แขนอันเรียวยาวยกขึ้นให้สูงเหนือหัว ยกกระดาษภาพวาดใบนั้นให้สูงๆ ขึ้นไป ถึงแม้จะยังมองไม่เห็นชัดเจน แต่ดูเธอรีบร้อนขนาดนี้ เขายิ่งอยากรู้ว่าชายหนุ่มบนกระดาษภาพวาดนั้นคือใคร?
ถังจือซย่ากระโดดอยู่สองครั้ง แต่ก็เอื้อมไปไม่ถึง ชายหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นไปมองภาพเหมือนที่อยู่บนกระดาษแผ่นนั้น ชั่วพริบตาก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมเธอถึงต้องการแย่งกลับไป
เพราะว่าชายหนุ่มที่เธอกำลังแอบวาดเป็นเขานี่เอง
สีจิ่วเฉินยื่นกระดาษภาพวาดส่งคืนไปที่มือของเธอ “คืนให้เธอ”
“คุณ...คุณอย่าได้คิดมาก ฉัน...ฉันแค่เบื่อ” ตอนที่ถังจือซย่ารับภาพสเก็ตช์มา ใบหน้าเธอแดงไปถึงหูแล้ว
ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นอย่างมีความสุข “อืม ฉันรู้แล้วว่าฉันเป็นคนที่คุณคิดถึงตอนที่คุณเบื่อ”
“ใช่ซะที่ไหน...ก็แค่...ก็แค่อยากฝึกมือเฉยๆ คิดว่าคุณหน้าตาดีไม่น้อย เหมาะกับการวาด คุณอย่าได้คิดมากไป” ถังจือซย่าพูดจนลิ้นพันกัน จนเกือบจะเปลี่ยนเป็นคนติดอ่าง
“ฉันจะไปดูเฉินเฉิน” ถังจือซย่าไม่มีหน้าจะไปอยู่ในห้องกับเขาสองต่อสองต่อไปได้อีก เธอรีบผลักประตูออกและเดินจากไปทันที
ถังจือซย่าไม่รู้เลยว่า หลังจากที่เธอเดินออกไป ชายหนุ่มพิงไปที่ด้านหน้าของโต๊ะทำงานเธอ ถือภาพเหมือนภาพนั้นมองดูอยู่เป็นเวลานาน ท่าทางของเขาอ่อนโยนเหมือนดั่งภาพวาดบนกระดาษใบนั้น
วันเสาร์ก็คือวันพรุ่งนี้แล้ว ถังจือซย่ากินข้าวเย็นเสร็จ ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายฝึกคัดลายมือ เธอยังคิดไม่ตกว่าชุดราตรีพรุ่งนี้จะไปหาเช่าที่ไหนดี? งานเลี้ยงแบบนี้ เธอไม่มีชุดที่เหมาะสมจะสวมใส่ ชุดส่วนใหญ่ของเธอล้วนเป็นชุดทำงานและชุดลำลองสบายๆ ทั้งหมด
เธอไม่ได้ไปถามพ่อของเธอว่าจะพาสองแม่ลูกหลี่เจี๋ยมาด้วยไหม เพราะว่านั้นเป็นเรื่องของครอบครัวของพ่อ
ในช่วงค่ำ หน้าที่การกล่อมเด็กน้อยโดนสีจิ่วเฉินตัดหน้าไปก่อนเสียแล้ว ชายหนุ่มอยู่เป็นเพื่อนลูกชายเล่นพวกรูบิคต่างๆ เล่นจนทำให้เด็กน้อยได้ใช้สมองคิดอย่างเต็มที่ สุดท้ายเด็กน้อยก็นอนหลับไปอย่างว่าง่าย
ถังจือซย่ากำลังไล่อ่านข้อความในมือถืออยู่ในห้อง เพื่อฆ่าเวลาอันแสนน่าเบื่อก่อนเข้านอน เธอดูคลิปสั้นๆเหล่านั้นไปเรื่อยๆ ในใจเกิดความว้าเหว่ขึ้นมาเล็กน้อย ตอนช่วงกลางวันยังมีเรื่องงานกับลูกให้ได้ทำ มีเพียงแค่ช่วงตอนกลางคืนที่ต้องอยู่คนเดียว ภายในใจถึงได้รู้สึกเกิดความว้าเหว่และเหงาหงอยขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...