ถังจือซย่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นพบกับดวงตาที่ดูไม่มีความสุขของสีจิ่วเฉินที่ชำเลืองมองเธออย่างเย็นชา
ปากกาของเธอถูกเขาหยิบไปวางไว้ตรงหน้าเขา เขาไม่คืนให้เธอ
อีกแปบถังจือซย่ามีเรื่องที่จะต้องจด เธอจำต้องยืนขึ้นอย่างเขินอาย หน้าแดง แล้วเดินไปแย่งปากกาคืนมา
สีจิ่วเฉินเหลือบมองเธอ ไม่พูด และก็มองไม่ออกว่าเขาพอใจหรือไม่พอใจ
หลี่เหมยกระแอมเบาๆ “ตกลง เรามาประชุมกันเถอะ อย่ามั่วนอกเรื่อง”
ใบหน้าของถังจือซย่าค่อนข้างร้อน แตะตัวเขาทีไรมีแต่เรื่องร้ายเกิดขึ้น
"จือซย่าคุณกับซูเหม่ยอยู่กลุ่มวันศุกร์" หลี่เหมยเริ่มจัดกลุ่ม
ซู่เหม่ยแสร้งทำเป็นดีใจทันที "พี่จือซย่า กรุณาให้คำแนะนำกับฉันด้วยคะ"
ถังจือซย่าพยักหน้าและยิ้มให้ซู่เหม่ย หลี่เหมยแบ่งกลุ่มและเริ่มวิเคราะห์งานและการตลาด สีจิ่วเฉินไม่ได้พูดอะไร แต่เขาฟังอยู่ตลอด
เพียงแต่ว่าตาของเขาจ้องไปที่ถังจือซย่าเป็นครั้งคราว และเขาก็จ้องไปที่เธอนานหลายนาทีหลายครั้ง ราวกับว่าเขาเหม่อลอย ทำให้ถังจือซย่ารู้สึกไม่สบายใจ
ตาของชายผู้นั้นเหมือนกับกล้องวงจรปิดที่ตามติดและมองแค่เธอ
ในที่สุด การประชุมสิ้นสุดลง ถังจือซย่าแทบรอไม่ไหวที่จะเก็บของและออกไป แต่สีจิ่วเฉินกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ถังจือซย่าอยู่ก่อน"
เท้าของถังจือซย่าเทือบจะหยุดอยู่กับที่ เธอหันไปมองชายผู้เย็นชา “มีอะไรเหรอคะประธานสี”
เขาไม่พูด นักออกแบบคนอื่นๆ อยากดูความบันเทิงนี้ แต่สีจิ่วเฉินกลับกวาดสายตาที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิตแผ่ซ่าน ซึ่งทำให้พวกเขากลัวจนตัวสั่นและรีบออกไป
สายตาของไอ้หย่าและซุ่เหม่ยริษยาแทบตาย ในบริษัท ถังจือซย่าถูกยกเว้นและได้รับการปฏิบัติอย่างดีทุกที่
ราวกับว่าสีจิ่วเฉินอยู่ในบริษัทนี้เพื่อเธอคนเดียว และเขาไม่สนใจสิ่งที่พนักงานคนอื่นทำ
ประตูห้องประชุมปิดลง ถังจือซย่าเริ่มโกรธเธอเลิกเสแสร้ง และตบโต๊ะอย่างโกรธเคือง "สีจิ่วเฉิน คุณต้องการจะทำอะไรกันแน่"
“วันจันทร์หน้า ผมอยากพาคุณกลับไปหาคุณย่า” สีจิ่วเฉินพูดขึ้นทันที ดวงตาของเขาสงบลง
ถังจือซย่าอึ้ง ไปพบนายหญิงใหญ่ของตระกูลสีเหรอ ทางเลือกแรกในความคิดของเธอคือการปฏิเสธ
“ฉันไม่ไป และฉันไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องกับครอบครัวสีของคุณ” ถังจือซย่าปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
“จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่อนุญาตให้เจอกับฉิงเหย่ และไม่อนุญาตให้เข้าไปพัวพันกับเขา”สายตาของสีจิ่วเฉินมุ่งไปที่เธอซึ่งเต็มไปด้วยการบีบบังคับ
ถังจือซย่าขยับริมฝีปากยิ้ม เธอค่อนข้างมั่นใจในการออกแบบ แต่กับเรื่องซับซ้อนในบริษัทนี้เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
“โอเค ไปทำงานเถอะ!” ถังจือซย่า ถือว่าที่ชู่เหม่ยซมเป็นคำเยินยอจากเด็กใหม่
กลับไม่รู้เลยว่า เธอแสร้งทำตัวเป็นสุนัขเชื่อง แต่ก็พร้อมที่จะแว้งกัดเธอได้ทุกเมื่อ
ถังจือซย่าทำได้เพียงเลื่อนนัดกับพ่อของเธอเท่านั้น เธอโทรไปหาเขา ถังจวิ้นรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อเขาได้ยินว่าเขาจะได้ดูแลหลานชายของเขา
“ได้ พ่อว่างอยู่ ลูกไปจัดการธุระของลูกเถอะ พ่อจะพาเฉินเฉินไปกินของอร่อย”
หลังจากจัดเรื่องลูกชายเสร็จแล้ว ถังจือซย่าก็สบายใจขึ้น ต่อมาเธอได้รับโทรศัพท์จากจ้านฉิงเหย่ เขารออยู่ที่ประตูบริษัทและจะพาเธอกับลูกชายไปทานอาหารค่ำมื้อใหญ่
ถังจือซย่าก็ไม่ได้ปฏิเสธและเธอก็ไม่มีเพื่อนในประเทศ ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนอย่างจ้านฉิงเหย่
สีจิ่วเฉินจัดการอีเมลในห้องทำงาน ฉู่เฮ่าที่เพิ่งเสร็จจากการออกไปส่งเอกสารข้างนอกเดินเข้ามาเขายิ้มและพูดว่า "ประธานสี เมื่อกี้ผมเห็นรถของคุณชายจ้านครับ"
“เขาอยู่ที่ไหน” สีจิ่วเฉินหรี่ตาลง
“เขาอยู่ชั้นล่างครับ ดูเหมือนกำลังรอใครสักคน อาจจะเป็นคุณถัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...