ถังจือซย่ากลับรู้ว่าสีจิ่วเฉินไม่มีเวลามาจัดการงานของหอรุ่ยเป่า เพียงแต่เป็นเพราะมีชื่ออยู่ในกิจการของสีซื่อกรุ๊ป หอรุ่ยเป่าก็หมือนกับได้ขึ้นมาอยู่บนเรือลำใหญ่ ไม่ต้องออกแรงก็สามารถเดินทางได้ทั้งเร็วและมั่นคง
“จริงสิคะ งานจัดแสดงเครื่องประดับจะถูกจัดในวันศุกร์นี ผลงานของคุณถูกเอามาประกอบเสร็จแล้วเป็นงานที่ สมบูรณ์แบบมากค่ะ พอถึงวันงานจะต้องคึกคักมากแน่ค่ะ” หลี่เหมยหันมาพูดกับเธอ
ถังจือซย่าย่อมดีใจ สำหรับนักออกแบบแล้วผลงานก็เหมือนกับลูก ใครจะไม่หวังให้ลูกของตัวเองได้คะแนนดีกันล่ะ
“คงไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง!”
“เดิมทีผลงานนี้ของคุณ พวกเราเอามาเป็นเกณฑ์ในการจัดวางเพชร แต่เพียงคำพูดเดียวของประธานสี ผลงานชิ้นนี้ใช้เพชรชั้นเลิศที่สุด คุณรู้ไหมคะว่าในตอนที่ฉันเห็นผลงานที่ประกอบเสร็จแล้วของคุณ แทบทำฉันตาบอดเลยค่ะ มันสวยมาก”
ถังจือซย่าบื้อไปเล็กน้อย ทำไมสีจิ่วเฉินไม่บอกเธอ
“งั้นเหรอ ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ล่ะ” ถังจือซย่ามีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ
“คงเป็นเพราะนั่นเป็นผลงานของคุณค่ะ!” หลี่เหมยตอบ แต่เธออยู่ที่บริษัทมานาน ความคิดของสีจิ่วเฉินเธอก็พอเดาได้บ้าง แต่เธอไม่สามารถพูดออกไปได้ล่วงหน้า
ถังจือซย่าพยักหน้าสองสามครั้ง “พอถึงวันงานฉันจะไปดูที่งานแน่”
“ฉันก็จะรอค่ะ”
และยังพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปช่วงนี้ของหลี่เหมย หลี่เหมยเองก็พบกับรักแท้ ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด เดือนพฤษภาคมเธอก็จะแต่งงานแล้ว ถังจือซย่าก็แสดงความยินดีกับเธอ
“ไม่แน่ว่าคุณอาจจะแต่งงานก่อนฉันก็ได้นะคะ” หลี่เหมยก็แสดงความยินดีกับเธอเช่นกัน
ถังจือซย่าไม่ค่อยมั่นใจกับเรื่องนี้นัก วันหมั้นของพวกเขาจะถูกจัดตอนสิ้นเดือนนี้ เป็นเพราะสีจิ่วเฉินไม่อยากรอแล้ว
ตั้งแต่ออกมาจากหอรุ่ยเป่า ถังจือซย่าเดินตรงขึ้นยังไปยังชั้นห้องทำงานของสีจิ่วเฉิน สิ่งที่เห็นคือทัศนวิสัยจากที่สูง
ถ้าหากเป็นวันที่มีเมฆมาก อาจเป็นเพราะมีฝนตกอยู่ที่ชั้นเมฆด้านล่าง เขาจึงสามารถดื่มด่ำรับแสงอาทิตย์สดใสได้ที่นี่
ถังจือซย่ารอไม่นาน ร่างสูงหล่อสีจิ่วเฉินก็เข้ามา เขามองหญิงสาวที่นั่งรอเขาอยู่บนโซฟา จึงวางเอกสารลงแล้วเดินมาหาเธอ
“ได้ยินว่าเธอเจอกับซ่งซานที่ชั้นล่าง ไม่ต้องไปสนใจคือ” สีจิ่วเฉินพูดปลอบเธอ
“ฉันไม่อยากสนใจเธออยู่แล้ว แล้วก็ยิ่งไม่อยากให้เธอมาเจอคุณ” ถังจือซย่าแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากให้ซ่งซานมาหาเขา
“ไปสิ! ไปผ่อนคลายหน่อย”
ณ สถานควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย
หลังจากที่ถังจวิ้นอดทนอยู่หลายวัน เขาก็มาเยี่ยมหลี่เจี๋ยอยู่ดี
มือทั้งคู่ของหลี่เจี๋ยถูกสวมกุญแจมือเอาไว้ เมื่อเธอเห็นถังจวิ้นก็พุ่งเข้าไปจับที่ลูกกรง “อาจวิ้น อาจวิ้นในที่สุดคุณก็มาหาฉัน ขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดให้อภัยฉันเถอะ”
ใจของหลี่เจี๋ยเต็มไปด้วยความหวัง เธอรู้ดีว่าตอนนี้มีเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยเธอได้คือถังจวิ้น เธอต้องคว้าฟางเส้นสุดท้ายนี้เอาไว้ เธอไม่อยากติดคุก
ถังจวิ้นมองหลี่เจี๋ยที่ดูแก่ลงเป็นสิบปีในระยะเวลาไม่นาน เขานึกถึงก่อนที่เขาจะหมดสติไป หูของเขาได้ยินคำพูดอันแสนโหดร้าย เขาไม่อยากที่จะเชื่อเลยว่าในตอนที่คนนอนข้างหมอนของเขากำลังฆ่าเขานั้น เธอมีท่าทางที่แปลกหน้าและเย็นชาแบบนั้น
“ผมแค่มาถามคุณสักหน่อย ทำไมคุณถึงลงมือได้” ถังจวิ้นมองเธออย่างเจ็บปวด
“อาจวิ้น ฉันหน้ามืดตามัวไปแล้ว ฉันไม่ได้อยากฆ่าคุณ ฉันแค่...โดนผีสิงไปแว่บหนึ่ง อาจวิ้น คุณก็รู้ว่าฉันรักคุณ ความสัมพันธ์ตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้ของพวกเราไม่ใช่ว่าดีมาตลอดเหรอ” หลี่เจี๋ยตบหน้าตัวเองอย่างแรง “ฉันทำผิดต่อคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...