หรือตกอยู่ที่โรงแรมในต่างประเทศ หรือบนเครื่องบิน หรือว่าบนแท็กซี่ จบแล้ว เธอนึกไม่ออกเลย
“คือว่า...ครั้งที่แล้วที่ทางเข้าบาร์ฉันโดนบังคับมา ฉันก็เลยขึ้นรถของคุณไป ส่วนเรื่องขโมยของของคุณ นั่นไม่ได้เป็นการขโมยนะ ผมของฉันไปเกี่ยวกับสร้อยคอของคุณต่างหาก จากนั้นบอดี้การ์ดของฉันก็พาตัวฉันไป สร้อยคอก็เลยติดออกมาด้วย ขอโทษนะ...ฉันไม่ได้เป็นขโมยนะ” เยี่ยวานวานแก้ไขสรรพนามที่เขาใช้เรียกเธออย่างจริงจัง
เจียนจือเพ่ยไม่ได้สนใจเธอ ตอนนี้เขาแค่อยากจะเห็นมรดกตกทอดของตระกูลเขาเท่านั้น เขาเอื้อมมือออกไปหาเธอ “ส่งมา”
เยี่ยวานวานกลืนน้ำลาย เธอไม่รู้ว่าไปทำตกที่ไหน แล้วเธอจะส่งไปให้ได้อย่างไรล่ะ!
“คือว่า...ฉัน...”
“ถ้าไม่ส่งมาพ่อของคุณจบเห่แน่” เจียนจือเพ่ยพูดเตือน
“อะไรนะ เรื่องของพ่อฉันคุณเป็นคนทำหรือ” เยี่ยวานวานจ้องหน้าเขาด้วยความโกรธทันที
“ฉันต้องการของของฉัน คืนมา” เจียนจือเพ่ยพูดขึ้นอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง สายตาเย็นชาของเขาจ้องเธอนิ่ง
ในหัวของเยี่ยวานวานกำลังเรียบเรียงเรื่องหลายเรื่องอยู่ ชายหนุ่มคนนี้ ดูปราดเดียวก็รู้ว่ามีทั้งอำนาจและความสามารถ ดังนั้นที่บริษัทของพ่อเธอล้มละลายเพราะเขาเป็นคนทำ ที่ถูกส่งไปสถานีตำรวจก็ด้วย แค่เพราะครั้งที่แล้วเธอไม่ทันระวังเอาสร้อยของเขาไปอย่างนั้นหรือ
หายนะทั้งหมดของพ่อเป็นเพราะเธออย่างนั้นหรือ
แต่ตอนนี้เธอไม่รู้เลยสร้อยเส้นนั้นอยู่ที่ไหน เธอควรจะไปตามหาก่อนหรือถามพี่สาวคนสนิทที่ต่างประเทศว่ามันตกอยู่ที่โรงแรมหรือไม่ก่อนดี
“ถ้าคุณเอาพ่อของฉันออกจากคุกแล้วฉันจะบอกคุณ ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่ต้องคิดว่าจะได้เห็นสร้อยคอของคุณอีก” เยี่ยวานวานเงยหน้าขึ้นไปขู่เขา
ภายในห้อง ได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคน
หญิงสาวคนนี้กล้าขู่คุณชายเจียน?
เธอไม่ดูตัวเองเลยหรือไง
ไม่ เยี่ยวานวานไม่รู้ต่างหากว่าชายตรงหน้านี้เป็นใคร
ถึงแม้ว่าจะรู้ เยี่ยวานวานก็ไม่กลัวขา เพราะเธอเป็นคนใจกล้ามาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว
“คุณขู่ผม?” เจียนจือเพ่ยนึกว่าตัวเองฟังผิด หญิงสาวคนนี้ไม่คืนของให้เจ้าของ แถมยังกล้าเอาของของเขามาขู่เขาอีก
“ตอนนี้ฉันจะกลับบ้าน ฉันต้องเห็นพ่อฉันกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยภายในหนึ่งชั่วโมง” เยี่ยวานวานออกคำสั่งต่อ
ชายหนุ่มใกล้ถึงขีดสุดของความโกรธแล้ว
“ได้ ภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ผมต้องได้เห็นสร้อยคอ” เจียนจือเพ่ยกัดฟันและพูดขึ้น
เยี่ยวานวานไม่สามารถรับคำเขาได้ เพราะเธอไม่รู้ว่าสร้อยอยู่ที่ไหน!
“ให้ฉันเจอพ่อก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที” เยี่ยวานวานพูดจบก็ถือกระเป๋าขึ้นมาและเดินไปทางบอดี้การ์ด “กระเป๋าเดินทางของฉันยังอยู่ในรถพวกคุณ รบกวนเปิดประตูให้ฉันด้วย”
บอดี้การ์ดมองไปที่เจียนจือเพ่ย ตอนนี้ดูเหมือนว่าสิทธิ์ในการกุมสถานการณ์จะอยู่ในมือของเธอ ดังนั้นบอดี้การ์ดจึงออกไปหยิบกระเป๋าเดินทางให้เธอ
เยี่ยวานวานถือกระเป๋าเดินทางออกไปเรียกรถกลับบ้าน
เคาน์เตอร์ภายในบาร์ บอดี้การ์ดยืนนิ่ง และรอดูว่าคุณชายจะโยนชั้นทั้งมดในบาร์นี้ออกไปหรือไม่ แต่เขาเงียบผิดปกติ นอกจากดวงตาสีดำที่นิ่งสงบคู่นั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...