ฝนตกหนักขนาดนี้ไม่มีทางที่จะหยุดลงง่ายๆ ถังจือซย่าหันไปพูดกับผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟา “ฉันจะหาร่มให้คุณ”
สีจิ่วเฉินพูดตอบตรงๆ “คืนนี้ฉันจะพักที่นี่”
ถังจือซย่าอึ้งไปชั่วขณะ เธอกะพริบตาปริบๆเอ่ย “ทำไมล่ะ?”
“เฉินเฉินต้องการฉัน” สีจิ่วเฉินใช้ฝ่ามือลูบลงไปที่หัวของเด็กน้อยเบาๆ ราวกับเป็นเทพพิทักษ์เขา เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นมาอ้อนเขา “ลุงสี ผมกับหม่ามี้กลัวเสียงฟ้าร้องมาก คุณอยู่ปกป้องพวกเราเถอะนะ!”
ถังจือซย่ารีบขัดลูกชายทันที “ไม่ต้องหรอก เฉินเฉิน หม่ามี้จะปกป้องลูกเอง”
“แต่ว่าหม่ามี้ก็กลัวเสียงฟ้าร้องนะ!” เด็กน้อยพูดย้อนเธอ
“หม่ามี้ไม่กลัว หม่ามี้...” ขณะที่ถังจือซย่ากำลังพูดอยู่ สวรรค์เหมือนต้องการเป็นศัตรูกับเธอ สายฟ้าแลบขึ้นเหมือนงูเลื้อยเล่นอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรี เสียงฟ้าคำรามดังระเบิดขึ้น
เธอตัวสั่นเทาไปทั้งตัว รีบเอามือปิดหูอย่างไว
เธอรอจนฟ้าหยุดร้อง เมื่อเธอหันไปมองทางผู้ชายนั้น ทันใดนั้นก็เห็นความขบขันชอบใจสะท้อนมาจากแววตาของชายหนุ่ม
เธออายจนหน้าแดง พูดอย่างช้าๆ “ยังไงคุณก็อยู่ต่อไม่ได้ ไม่สะดวก”
“รอให้ฟ้าหยุดร้องก่อน ฉันค่อยกลับ” ผู้ชายยังคงยืนหยัดที่จะอยู่ต่อ
ถังจือซย่าเห็นเขายังกอดลูกชายไว้ เธอทำได้แค่ผงกหัวรับเล็กน้อย “งั้นก็ได้ ยังไงตอนนี้ฝนก็ยังตกหนัก คุณก็อย่าเพิ่งกลับไปที่รถเลย”
ถังจือซย่าเดินกลับเข้าห้องไปเก็บของต่อ มองไปยังกางเกงในที่เมื่อกี้ผู้ชายคนนั้นเคยจับ เธออยากจะตีตัวเองเสียเหลือเกิน ทำอะไรร่วงก็ได้ แต่ทำไมถึงต้องทำกางเกงในร่วงด้วย
ด้านนอกหน้าต่างเสียงฟ้าร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง และมีข่าวแจ้งเตือนคืนนี้ฝนตกฟ้าคะนองทั้งคืน ขอให้พลเมืองระมัดระวัง
ถังจือซย่าคิดในใจ หรือว่าต้องปล่อยให้ผู้ชายคนนี้ค้างคืนจริงๆ? ชายหญิงพักอยู่ห้องกันตามลำพัง ถ้าหากถูกคนอื่นรู้เข้า ก็ไม่รู้จะเข้าใจผิดไปถึงไหน
อีกอย่าง ห้องของเธอค่อนข้างเล็ก ไม่มีที่ให้เขาอยู่ได้เลย นอกจากเตียงของลูกชาย ก็คือเตียงของเธอแล้ว
เวลาก็เริ่มดึกขึ้นเรื่อยๆ เสียงฟ้าร้องเริ่มเบาลง เด็กน้อยถูกถังจือซย่าจับไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ตัวของเธอก็เปียกไปทั้งตัว ได้แต่ปล่อยเด็กน้อยไว้ที่ห้องรับแขก ส่วนเธอกลับไปอาบน้ำ
มองดูลูกพี่ลูกน้องสารภาพรักอย่างลึกซึ้ง สีจิ่วเฉินโยนมือถือไปข้างตัว ไม่มีอารมณ์ที่จะดูต่อ
เขาลุกขึ้น มองไปรอบๆห้อง เขาเข้ามาที่ห้องนอนของเด็กน้อย มองเห็นบนโต๊ะมีภาพถ่ายวางอยู่ มีภาพหนึ่งเป็นภาพที่ถังจือซย่ากับจ้านฉิงเหย่ถ่ายด้วยกัน ในภาพเด็กน้อยขี่บนบ่าจ้านฉิงเหย่อยู่ มองดูแล้วเหมือนเป็นภาพพ่อแม่ลูก
สีจิ่วเฉินแววตาแน่นิ่งเล็กน้อย ในขณะนั้นเอง เด็กน้อยเดินเอามือขยี้ตาเข้ามา “ลุงสี ผมอยากนอนแล้ว”
“ลุงอุ้มหน่อย” สีจิ่วเฉินก้มตัวไปอุ้มเขาขึ้นมา เด็กน้อยรู้สึกเหมือนได้สัมผัสถึงอ้อมกอดของหม่ามี้ หาวเล็กน้อยและก็หลับตานอนในอ้อมแขนของชายหนุ่มทันที
ถังจือซย่าสระผมและเป่าผมจนแห้งก็เดินออกมา เห็นหลับปุ๋ยในท่าเกาะอยู่บนบ่าชายหนุ่มเธอถึงกับตกใจ คืนนี้รบกวนเขามากจริงๆ ทั้งต้องเลี้ยงเด็กแถมยังต้องกล่อมเขาเข้านอน
เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา ชายหนุ่มยกนิ้วชี้ขึ้นมาวางไว้ที่ริมฝีปากทำท่าให้เงียบเสียง ถังจือซย่าก็ไม่อยากทำให้ลูกชายตื่น เธอชี้ไปยังห้องของลูกชาย “ฉันพาเขาไปนอนที่เตียงดีกว่า”
สีจิ่วเฉินอุ้มเด็กน้อยเดินตามเธอเข้าไปในห้องนอน ถังจือซย่ารับลูกมาจากเขา จู่ ๆก็เธอเข้ามาประชิดตัว กลิ่นหอมอ่อนๆของผู้หญิงที่ลอยอยู่เตะจมูกชายหนุ่มอย่างจัง ทำให้ใครคนบางคนใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ เหมือนกับมีสายฟ้าแล่นผ่านร่างกาย
เสน่ห์ของผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเกิดความคิดแรกเริ่มอีกครั้ง สีจิ่วเฉินหัวใจหวั่นไหวขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...