"เยี่ยวานวาน ครอบครัวของพี่เจียนจะกลับประเทศในอีก 1 เดือนข้างหน้า ย่าของเขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงที่มีเจตนาไม่ดีมายุ่งกับเขาแน่ๆ ถ้าเธอฉลาดพอก็ออกห่างจากเขาซะ ก่อนที่ครอบครัวของเขาจะไล่เธอ" เฉียวเสวี่ยเม่ยเย้ยหยันอย่างภูมิใจ
คำขู่เตือนของเฉียวเสวี่ยเม่ยใช้ไม่ได้ผลกับเยี่ยวานวาน เพราะเธอไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับ เจียนจือเพ่ยเลย ถ้าเธอขออะไรสักอย่างได้ เธอแค่อยากจะขอให้เขายกโทษให้เธอ
หากว่าเจียนจือเพ่ยไม่ผิดใจเอาเรื่อง เธอจะรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง
"คุณหนูเฉียว คุณไม่ต้องกังวล ฉันไม่มีเจตนาร้ายต่อคุณชายเจียนเลย!" เยี่ยวานวานตอบอย่างจริงจัง
เฉียวเสวี่ยเม่ยยิ้มเยาะในใจ "เธอคิดว่าการที่เธอตีหน้าซื่อจะสามารถปกปิดความในใจของเธอได้งั้นหรือ ฉันรายงานนายหญิงใหญ่ของตระกูลเจียนไปแล้วเรื่องที่เธอคิดมิดีมิร้ายกับพี่เจียน ถึงตอนนั้นก็เตรียมตัวออกไปได้เลย!"
เยี่ยวานวานขี้เกียจมากความ เธอกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของพ่อเธอ เธอจึงรีบออกจากวิลล่า
ในโรงพยาบาล
เยี่ยกั๋วเหานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยโดยมีเฝือกที่ขา พร้อมกับมีแม่ของเธออยู่ด้านข้าง
"พ่อคะ เป็นยังไงบ้าง เป็นอะไรมากไหม"
"ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่พักฟื้นสักหนึ่งหรือสองเดือนเดี๋ยวก็ดีขึ้น ช่วงนี้ลูกทำอะไรไปบ้าง คุณชายเจียนไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจใช่ไหม!" แม่ของเยี่ยวานวานมองลูกสาวของเธอด้วยความกังวล และพบว่าลูกสาวของเธอดูเหมือนจะอ้วนขึ้นนิดหน่อยเธอจึงรู้สึกโล่งใจ
"แม่ ฉันสบายดี ฉันก็แค่ตามคุณชายเจียนไปหาสร้อยคอเส้นนั้นด้วยกันเท่านั้นเอง" เยี่ยวานวานปลอบโยน
ตอนนี้บริษัทของเยี่ยกั๋วเหาไม่มีอีกแล้ว แถมยังเป็นหนี้ธนาคารต่างประเทศตั้งหนึ่งพันล้าน ซึ่งทำให้เขารู้สึกเศร้า แต่พวกเขาทั้งสองไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับลูกสาว
แต่ไม่มีบริษัทให้ทำกำไร หนี้ต่างประเทศก็กดดันพวกเขาสามีภรรยาจนแทบเอาเอาตัวไม่รอด
บ้านตระกูลสี?
วันนี้เป็นครั้งแรกหลังแต่งงานที่ถังจือซย่าและสีจิ่วเฉินกลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน นายหญิงใหญ่สีก็อายุมากแล้ว มันทำให้เธอชอบความครึกครื้นมากขึ้นอีก
หลังอาหารเย็น ถังจือซย่าออกไปเดินเล่นกับสีจิ่วเฉิน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวและแสงจันทร์ที่ส่องสว่าง การเดินในป่าไผ่ที่คดเคี้ยวนั้นผ่อนคลายได้จนไม่มีอะไรเทียบได้
มือของถังจือซย่าถูกฝ่ามือใหญ่ของชายคนนั้นกุมไว้แน่นราวกับว่าเธอจะหายไปหากเขาปล่อยมือ หลังแต่งงาน ออร่าของความสวยงามและอ่อนโยนของถังจือซย่าก็เพิ่มมากขึ้น และอารมณ์ของเธอก็นุ่มนวลขึ้นด้วย
แน่นอน ถังจือซย่าเข้าใจความคิดของสามี เธอพูดอย่างเขินอายว่า "ไม่ดีมั้งคะ!"
"พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ นอนให้เต็มที่กันเถอะ" สีจิ่วเฉินยิ้ม
ในตอนเย็น เด็กน้อยกลับบ้านไปกับจ้านฉิงเหย่ ส่วนสีจิ่วเฉินขับรถสปอร์ตบูกัตติสีดำไปตามแนวถนนกลับที่วิลล่าของเขา
ภายใต้แสงจันทร์ วิลล่าของเขาสว่างไสว และเมื่อเปิดไฟ มันก็ยิ่งเต็มไปด้วยความลึกลับและความยิ่งใหญ่
รถสปอร์ตขับไปจนถึงลานจอดรถใต้ดิน ประตูเปิดออก และถังจือซย่าถูกเขาพาเข้าไปในลิฟต์
ในวิลล่าที่เงียบสงบ ราวกับว่าคุณสามารถฟังเสียงกระซิบของต้นฤดูร้อนได้ และคุณสามารถได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย
พอขึ้นไปถึงชั้นสาม ถังจือซย่าที่เพิ่งออกจากลิฟต์ถูกฝ่ายชายอุ้มขึ้นมา เมื่อครู่เปลวไฟที่เริ่มลุกไหม้ในป่าไผ่เล็กๆ ตอนนี้ยังคงลุกโชน หากไม่มีฝ่ายหญิงมาดับไฟ ผู้ชายคนนี้ได้คึกทั้งคืนแน่ๆ
เช้าตรู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...