“คู่หมั้นเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉันไหม” เจียนจือเพ่ยถามพร้อมกับหรี่ตาลง
ใบหน้าของเยี่ยวานวานร้อนผ่าว ผู้ชายคนนี้พูดอย่างกับว่าพวกเขาเป็นชู้กัน ก็แค่ความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่บริสุทธิ์ไร้มลทินไม่ใช่เหรอ จำเป็นต้องพูดจากำกวมขนาดนี้ด้วยเหรอ
“เรา...ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” เยี่ยวานวานกัดริมฝีปากและพูดโต้แย้ง
ในขณะนี้ เธอไม่รู้ว่ามีคนกำลังเปิดประตูข้างหลังเธอจากข้างใน เจียนจือเพ่ยชำเลืองมอง แล้วก็เดาได้ว่าคนคนนั้นคือใคร
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดจากำกวมไปอีกสองประโยค “เธอลืมไปแล้วเหรอว่าเราเคยอยู่ห้องเดียวกัน เธอยังเห็นฉันเปลือยกายอยู่เลย!”
อวี๋เส่าสยงเปิดประตูออกมาทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ เขาถามออกไปตรงๆ ว่า “วานวาน พวกเธอมีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่”
เยี่ยวานวานตกใจมาก และหันหน้ากลับไปมองใบหน้าที่ไม่น่าดูของอวี๋เส่าสยง แล้วเธอก็อธิบายว่า “เส่าสยงนายอย่าเข้าใจผิดไปนะ พวกเราไม่ได้เป็นอะไร…”
ทันใดนั้นใบหน้าของเยี่ยวานวานก็ถูกมือที่เรียวยาวและขาวผ่องทั้งสองข้างจับเอาไว้ และในวินาทีต่อมา ริมฝีปากเนียนนุ่มของเธอก็ถูกจูบด้วยริมฝีปากบางๆ ที่เย็นเฉียบ!
ในหัวของเยี่ยวานวานระเบิดเสียงดังสนั่น
อวี๋เส่าสยงเห็นกับตาว่าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นคู่หมั้นของตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นจูบ
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ ก็มองดูด้วยความตกตะลึงเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่คุณผู้ชายเป็นฝ่ายจูบผู้หญิงก่อน
หลังจากที่เจียนจือเพ่ยจูบเธอเสร็จ เขาก็มองอวี๋เส่าสยงอย่างท้าทาย แววตาที่ลึกล้ำและเย็นชาเผยให้เห็นถึงความภาคภูมิใจ
เยี่ยวานวานตกตะลึงจนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ จนกระทั่งอวี๋เส่าสยงส่งเสียงขึ้นมาด้วยความโมโหว่า “ปล่อยเธอซะ เธอเป็นแฟนฉัน แกไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องเธอ”
ทันทีที่อวี๋เส่าสยงพูดจบ แขนข้างหนึ่งก็โอบเอวของเยี่ยวานวานเข้ามา และวินาทีต่อมา ตัวเธอก็แนบชิดติดกับหน้าอกที่มีกลิ่นอายของต้นสนซีดาร์ที่สะอาดสะอ้าน เจียนจือเพ่ยจูบลงบนเส้นผมของ และยกริมฝีปากขึ้นอย่างชั่วร้าย “ก็แตะต้องไปแล้ว มีปัญหาอะไรไหมล่ะ”
“เยี่ยวานวาน เธอคิดให้ดีๆ นะ ถ้าเธอไม่หมั้นกับฉัน หนี้หนึ่งพันล้านของพ่อเธอใกล้จะครบกำหนดชำระแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นถ้าเขาไม่สามารถจ่ายคืนได้ เขาก็จะถูกตัดสินจำคุกขั้นต่ำสามปี!” อวี๋เส่าสยงยัง อยากแย่งเยี่ยวานวานกลับมา ถ้าไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เขาก็จะยังไม่ยอมวางมือ
ดวงตาของอวี๋เส่าสยงเบิกกว้าง ถ้าเมื่อกี้เขาไม่ได้ดูผิดไป ในกระเป๋าตังค์ของผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีแบล็คการ์ดแค่ใบเดียว เขามีประมาณหกถึงเจ็ดใบ ส่วนตัวเขาและครอบครัวจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีสิทธิ์ได้เลื่อนระดับเป็นแบล็คการ์ดเลยด้วยซ้ำ
เจียนจือเพ่ยตกตะลึงเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ยอมแต่งงาน แต่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเขางั้นเหรอ
เมื่ออวี๋เส่าสยงเห็นเยี่ยวานวานเดินเข้ามา ก็ถึงตาเขาฉีกยิ้มมุมปากใส่เจียนจือเพ่ยด้วยความภาคภูมิใจ
แต่เยี่ยวานวานกลับพูดกับอวี๋เส่าสยงว่า “เส่าสยง ยกเลิกการหมั้นวันนี้เถอะ! ฉันไม่แต่งงานแล้ว”
“ทำไมล่ะ” อวี๋เส่าสยงรีบถามเธอทันที
เยี่ยวานวานเองก็ไม่ได้โง่ ตระกูลอวี๋ต้องการให้เธอแต่งงานเข้าตระกูล เรื่องใช้หนี้ให้พ่อของเธอเป็นแค่การรับปากแบบลวกๆ แล้วยังเรียกร้องให้พ่อแม่ของเธอเอาที่ดินมาทำเป็นสินเดิมด้วยความละโมบโลภมากอีก เธอไม่สามารถปล่อยให้พ่อแม่เสียทั้งลูกสาวและที่ดินได้
เมื่อครู่ตอนที่อยู่ข้างในเธอคิดดูแล้วว่าสามารถให้พ่อแม่ขายทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อนำไปชดใช้หนี้ได้ ในอนาคตเธอยินดีที่จะเช่าบ้านอยู่และใช้ชีวิตอย่างลำบากไปด้วยกันกับพวกเขา
และเธอก็รู้สึกได้ว่าพ่อแม่ดูลำบากใจกับเรื่องที่ดิน ดูเหมือนว่าตระกูลอวี๋จะเอาเรื่องใช้หนี้มาบีบบังคับพ่อแม่ของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...