สีจิ่วเฉินแน่นหน้าอกครู่หนึ่ง ในใจของเขา เขาไม่เคยไปคิดถึงเรื่องอายุของคุณย่า เขาคาดหวังว่าคุณย่าจะอายุยืนยาวเป็นร้อยปีได้
แต่ว่าปีนี้หญิงชราอายุ 83 ปีแล้ว ชีวิตของคนเราเหมือนกับเทียน จะต้องมีช่วงเวลาที่มันเผาไหม้มาถึงสิ้นสุด
เป็นอย่างที่คิดไว้ ไม่นานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาจากในห้องฉุกเฉิน ต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่เคร่งขรึม และก็จริงจังมาก เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องช่วยชีวิตของนายหญิงใหญ่สีแล้ว
“เป็นยังไงบ้าง เหลาหลี่”สีหมิ่นพูดถามหมอเป็นคนแรก
“หลังจากที่เราได้ทำการประเมิน คิดว่าอย่าทำให้นายหญิงใหญ่เจ็บปวดอีกเลย อีกอย่าง นายหญิงใหญ่ก็ฟื้นแล้ว ปฏิเสธการผ่าตัดที่เราเสนอ เธออยากพบพวกคุณ”
สีหมิ่นอดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาเอ่อล้นที่เบ้าตา พูดถามด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “เธอยังมีเวลาอีกนานแค่ไหน”
“นอกจากเธอจะมีปัญหาหัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรง ยังมีความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ อย่างรุนแรง เหลือเวลาประมาณสองวันนะ!”
สีจิ่วเฉินกำหมัดแน่น คุณย่ากำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว และเขาก็กลับว่าทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
สีหมิ่นหัวหน้าไปซุกในอ้อมแขนของสามีอย่างเสียใจ คนที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็สัมผัสถึงความเจ็บปวดที่แย่มากๆ
ในโลกมนุษย์ สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือการจากไปตลอดกาลของคนรัก
ในเวลานี้ถังจือซย่าเดินออกมาจากลิฟต์พอดี เธอเห็นคนที่ยืนอยู่ทั่วทั้งทางเดิน แม้ว่าเธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่บรรยากาศตรงทางเดินทำให้หัวใจของเธอเต้นอย่างรุนแรง เธอมองไปที่สามี
สายตาของสีจิ่วเฉินแดงก่ำ เหมือนว่าน้ำตามีแสงวูบวาบ ถังจือซย่าเอากระเป๋าให้เยี่ยวานวาน เธอรีบเดินเข้าไปกอดเขาแล้ว
สีจิ่วเฉินก็กอดเธอไว้แน่น เปล่งเสียงที่สำลักในลำคอ
น้ำตาของถังจือซย่าเปื้อน ปกคอเสื้อของเขา เธอพูดถามเสียงเบาๆ ว่า “คุณย่าเป็นยังไงบ้าง”
“คุณย่าจะไปแล้ว”สีจิ่วเฉินเปล่งเสียงที่แหบแห้ง
ถังจือซย่าน้ำตาไหลอย่างไม่มีเสียง
ในเวลานี้ พยายามเดินออกมาจากข้างในพร้อมพูดว่า “นายหญิงใหญ่ต้องการพบนายหญิงสี”
“คุณย่า ฉันรักจิ่วเฉิน ขอเพียงแค่ได้อยู่กับเขา ทำเรื่องอะไรก็ตามแต่สำหรับฉันแล้ว เป็นสิ่งที่ควรทำทั้งนั้น”ถังจือซย่าไม่อยากให้เธออยู่ในห้วงอารมณ์ที่ตำหนิตัวเอง
“ย่าไม่อยู่แล้ว นอกจากครอบครัวของป้า จิ่วเฉินก็มีเพียงแค่พวกเธอที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยใจจริง”นายหญิงใหญ่สีพูดจบ น้ำตาเอ่อล้นเบ้าตา
ถังจือซย่าอดกลั้นน้ำตาไม่ได้ทันที เธอเช็ดน้ำตาไปพลาง พูดปลอบใจเธอไปพลางว่า “คุณย่า คุณย่าวางใจเถอะ ฉันจะอยู่ข้างกายของเขาตลอดไป ไม่มีทางทิ้งเขาไว้เพียงลำพังแน่นอน”
ถังจือซย่าพูดไปพลาง น้ำตาไหลไปพลาง ในใจก็ยิ่งเป็นห่วงผู้ชายคนนี้อย่างมาก ใช่นะ!คุณย่าจากไปแล้ว คนที่เสียใจที่สุดก็คือเขา
เพราะว่าพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่เขาเด็กๆ เขาเติบโตมาจากการเลี้ยงดูของย่า ตอนนี้ ในใจของเขาเจ็บปวดมากแค่ไหน แม้แต่เธอเองก็ไม่สามารถเข้าอกเข้าใจได้
“เรื่องในตระกูล มอบให้เธอแล้ว เธอจะต้องแข็งแกร่งขึ้นมา อย่าให้ใครมารังแกเธอได้”นายหญิงใหญ่สีกำชับเธอ
ถังจือซย่าเม้มริมฝีปากสีแดงพร้อมทั้งพยักหน้า “โอเค ฉันทำได้”
นายหญิงใหญ่สีหอบขึ้นมาเล็กน้อย ราวกับพูดแค่ไม่กี่ประโยคสำหรับเธอแล้วมันยากลำบากมาก ถังจือซย่ารีบแนะนำให้เธอพักผ่อน นายหญิงใหญ่สีพูดกับเธอว่า “เธอเรียกจิ่วเฉินเข้ามาด้วยนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...