“นายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า นายไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดเหรอ” เนี่ยเหยียนเฟิงย้อนถามเขา
เจียนจือเพ่ยยิ้มมุมปาก "ฉันคิดว่านายนั่นแหละมีปัญหา"
"ฉันมีปัญหาตรงไหนกัน" เนี่ยเหยียนเฟิงถามกลับ
"นายชอบเข้าไปยุ่งย่ามเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนป้าแก่ๆ" เจียนจือเพ่ยตำหนิเขา
เนี่ยเหยียนเฟิงมองเจียนจือเพ่ยรู้สึกพูดไม่ออก “นั่นก็เพราะนายทอดทิ้งพวกเราไปต่างหาก”
"น่าเบื่อชะมัด" เจียนจือเพ่ยพอพูดจบก็เดินออกไป
สีจิ่วเฉินเข้ามาตบไหล่เนี่ยเหยียนเฟิงที่ได้รับบาดเจ็บ "เอาล่ะ อาเพ่ยทำตัวผิดปกติจริงๆ เรามาหาสาเหตุกัน!"
"ฉันตรวจสอบตารางเดินทางของอาเพ่ยแล้ว วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เขากลับมาก็ไปพบกับดร. ด้านชีววิทยาที่ชื่อเฉียวตง แต่ตอนนี้ฉันยังหาโอกาสพบกับเขาไม่ได้ ฉันเชื่อว่าต้องมีปัญหาบางอย่างแน่ๆ"
“อืม เราเริ่มลงมือตรวจสอบได้เลย แต่ในบ้านตระกูลเจียน เรายังคงต้องระวังให้ดี ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเรา ระวังอย่าถูกจับพิรุธได้”
"ฉันรู้แล้วน่า เรามาตรวจสอบเรื่องนี้กัน" เนี่ยเหยียนเฟิงรู้สึกว่ามีคู่หูแล้ว อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น
เยี่ยวานวานสัญญากับถังจือซย่าว่าตอนกลางคืนจะไม่หนีไปไหน และเธอก็ทำอย่างนั้นจริงๆ เธอแค่ออกไปผ่อนคลายอารมณ์ในสวนดอกไม้ด้านล่าง เพราะถ้าเธอไม่ออกมาสูดอากาศล่ะก็ คงใกล้จะเป็นบ้าแล้ว
สายตาเยี่ยวานวานมองไปอีกทางหนึ่ง ที่นั่นแสงไฟสว่างไสว และคนที่เธอรักที่สุดก็อยู่ที่นั่น ไม่ได้ห่างไกลกันสุดหล้าฟ้าเขียว เพียงแค่สวนดอกไม้กั้นเท่านั้น ทว่าสำหรับเธอแล้ว มันเป็นคูน้ำที่ยากจะก้าวข้ามไปได้ เขาอยู่ตรงนั้น แต่ไม่อาจแตะต้องเขาได้
เยี่ยวานวานเดินก้มหน้าอึดอัด จิตใจเหม่อลอยไปตลอดทาง ในใจมีแต่ความรู้สึกเศร้าโศกเกาะกุม เธอเดินไปเรื่อยๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็รู้สึกค่อนข้างงุนงง เธอเดินมาถึงไหนแล้ว
เพราะสวนดอกไม้เชื่อมต่อกันหมด ตอนนี้เธอยืนอยู่ในส่วนลึกของสวนที่ไม่คุ้นเคย และหาทางออกไม่เจอเลย ตอนนี้ก็ไม่มีคนรับใช้ในสวนสักคนที่จะช่วยเธอได้เสียด้วย
ทันใดนั้น เสียงผู้ชายเย็นชาก็ดังขึ้นจากด้านข้าง "คุณร้องไห้ทำไม"
เยี่ยวานวานสะดุ้งตกใจ เธอรีบเงยหน้าขึ้นมอง จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งยืนใต้แสงจันทร์ตรงหน้าเธอ แม้ว่าชายคนนี้จะยืนหันหลังให้แสงจันทร์ แต่เธอก็คุ้นเคยกับเงาร่างนี้ยิ่งกว่าใคร แม้ว่าเมื่อครู่น้ำเสียงของเขาจะเย็นชามากก็ตาม แต่ในใจของเยี่ยวานวาน เขาคือคนที่เธอรักมากที่สุด
"อาเพ่ย..." น้ำเสียงปีติยินดี เยี่ยวานวานรีบโผเข้าไปหาเขาโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จากนั้นกอดเอวของเขาแน่น และซบเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
เจียนจือเพ่ยไม่มีโอกาสแม้แต่จะปฏิเสธ ถูกผู้หญิงกอดเอวแน่นไม่ยอมปล่อย และเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอบนเสื้อผ้าของเขา
"ปล่อย" เจียนจือเพ่ยยื่นมือมาดึงนิ้วของเธอที่กอดรัดแน่นออก
อย่างไรก็ตาม เยี่ยวานวานไม่ปล่อยมือ แต่กอดแน่นยิ่งขึ้น จนกระทั่งมีคำถามเย็นชาดังขึ้น "เธอเป็นใคร กอดฉันทำไม"
เยี่ยวานวานเงยหน้าออกจากอ้อมกอด ภายใต้แสงจันทร์สาดส่อง นัยน์ตากลมโตที่มีน้ำตารื้นมองเขา ช่างน่าสงสารยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...