" ทำไมนานขนาดนี้ล่ะ? นี่เสวี่ยเม่ยยังแต่งหน้าไม่เสร็จอีกเหรอ"
" ค่ะ เจ้าสาวยังต้องใช้เวลาอีกสักครู่ "
เฉียวเสวี่ยเม่ยที่อยู่ด้านข้าง จู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง " ฉันเป็นเจ้าสาวนะ นี่พี่เจียน คนที่พี่ต้องแต่งงานด้วยก็คือฉัน! "
เจียนจือเพ่ยกล่าวขอโทษ " ขอโทษนะ แต่คนที่ฉันชอบคือเยี่ยวานวาน ฉันจะหาทางชดใช้ให้เธอเอง"
ณ โบถน์แห่งนี้
ห้องโถงขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุคนได้ถึงสามร้อยคน ในวันนี้เต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากหน้าหลายตา ในบรรดาแขกที่นั่งสองแถวหน้านั้นคือ เนี่ยเหยียนเฟิงและสีจิ่วเฉิน เนี่ยเหยียนเฟิงเอาแต่มองเวลาที่กำลังเดินอยู่ เขาคิดว่าถึงเวลาที่เจียนจือเพ่ยจะพาเฉียวเสวี่ยเม่ยขึ้นเวทีแล้ว หากเป็นเช่นนั้น หลักฐานที่เขาได้เตรียมมาก็ถึงเวลาที่จะได้เผยแพร่เสียที
แต่ทว่าน้องรักของเขาจนป่านนี้ยังไม่เห็นหัวเลย! นี่จะพังแผนของเขาอย่างนั้นเหรอ
“ทำไมอาเพ่ยยังไม่มาอีก ปกติก็เป็นคนรักษาเวลาดีอยู่หรอก ไม่น่าจะมาสายได้ ” เนี่ยเหยียนเฟิงขมวดคิ้ว
“ พวกเรารออีกสักหน่อยก็แล้วกัน ”
ถังจือซย่าเห็นว่าเยี่ยวานวานก็ยังไม่มาเหมือนกัน เธอจึงหันไปถามคุณผู้ช่วย หลี่เสี่ยวซินบอกว่าเยี่ยวานวานไม่สบายและได้ส่งข้อความมาบอกเธอตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วว่าจะไม่มา
ถังจือซย่าเมื่อนึกถึงสถานภาพของเธอในตอนนี้แล้ว ก็ไม่อยากจะทำให้เธอต้องลำบากใจอีก
ณ โรงพยาบาล ช่างแต่งหน้าและคอสตูมที่เพิ่งจะมาถึงก็รีบจัดแจงทำการแต่งหน้า และเตรียมชุดวิวาห์ให้แก่เยี่ยวานวานที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย
รูปร่างของเยี่ยวานวานบอบบางตรงตามมาตรฐาน เหมาะกับชุดวิวาห์ที่พวกเขาได้จัดเตรียมมาเป็นอย่างมาก
เยี่ยวานวานที่นั่งอยู่บนเตียงในขณะนี้เต็มไปด้วยความสับสนงุนงง แต่ถึงจะสับสนแค่ไหนภายในใจของเธอก็ยังมั่นคงไม่สั่นไหว แต่งก็แต่งสิ!
ถึงแม้งานแต่งของเธอจะไม่สามารถเชิญพ่อกับแม่มาร่วมงานได้ก็ไม่เป็นไร รอให้กลับประเทศแล้วค่อยสารภาพผิดต่อพวกเขาก็ได้!
ช่างแต่งหน้าใช้เวลาเพียงสิบกว่านาทีในการแต่งหน้าให้เธอ หลังจากนั้น เยี่ยวานวานก็แอบดึงเข็มน้ำเกลือออก และเริ่มสวมชุดแต่งงาน
“เสวี่ยเม่ย ตอนนี้หนูอยู่ที่ไหน แม่จะไปรับ พวกเราจะยอมแพ้แบบนี้ไม่ได้ หนูเป็นถึงเจ้าสาวที่คุณนายเจียนยอมรับ และนี่ก็เป็นเรื่องที่ทั้งตระกูลรู้กันดี แต่อีนังเยี่ยวานวานนี่มันอะไรกัน รอก่อนเถอะ แม่จะไปรับหนูเอง” คุณนายเฉียวไม่ยอมทิ้งความสุขของลูกสาวไปเด็ดขาด
“ได้ค่ะแม่ ตอนนี้หนูอยู่ที่โรงพยาบาล” เฉียวเสวี่ยเม่ยเมื่อได้ฟังคำพูดของแม่ ก็เกิดความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ในห้องผู้ป่วย เยี่ยวานวานที่เพิ่งจะหายจากอาการไข้ในขณะนั้น เธอสวมใส่ชุดวิวาห์สีขาวบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ การประทินโฉมอย่างประณีต ประกอบกับผมที่ถูกเกล้าขึ้นและประดับด้วยรัดเกล้าเพชรอย่างสวยงาม ช่วยเสริมให้เจ้าสาวดูโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง
“ไปกันเถอะ! เจ้าสาวของฉัน” เจียนจือเพ่ยยื่นแขนให้เธอควง เยี่ยวานวานคล้องแขนเขาเดินออกจากห้องผู้ป่วยด้วยความเขินอาย เหล่าพยาบาลที่อยู่แถวนั้นล้วนตกใจกันยกใหญ่
ที่เคยได้ยินมาเจ้าสาวต้องเป็นคุณหนูเฉียวไม่ใช่เหรอ แต่ว่าเธอคนนี้ไม่ใช่คุณหนูเฉียวนี่!
แต่ว่านะ อดพูดไม่ได้จริงๆ ว่าคุณผู้หญิงคนนี้กับคุณชายเจียนเหมาะสมกันมาก!
เยี่ยวานวานและเจียนจือเพ่ยออกมาจากห้องโถงโรงพยาบาลก็พบกับราชรถคันงามที่ได้จอดรออยู่ก่อนแล้ว ราวกับสุภาพบุรุษรูปงามกำลังรอรับบ่าวสาวคู่นี้อยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...