ถังจือซย่าจ้องเขาตาเขม็ง มือก็ผลักเขาออกไป และโพล่งคำเตือนออกมาทันที "สีจิ่วเฉิน คุณจะทำอะไร"
สายตาของเขาแลดูลุ่มลึกหนักแน่นราวกับการสะบัดพู่กันจีน เขากัดฟันกล่าวเสียงต่ำ "ถังจือซย่าหากเธอต้องการผู้ชาย ฉันสามารถเติมเต็มความต้องการให้เธอได้"
ถังจือซย่าบ่นพึมพำในใจเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้พูดจาเหลวไหลอะไรกัน
และในเวลานี้เอง พอมีเสียงลิฟต์เปิดออก แขกที่ยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์สองสามคนก็ตกตะลึงและชื่นชมความสนิทสนมของพวกเขา
ถังจือซย่าผลักชายหนุ่มออกไปทันที และพุ่งออกจากลิฟต์ราวกับวิ่งหนี เธอตัดสินใจจะไม่เอาเรื่องเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คืนนี้เขาช่วยเธอเอาไว้ด้วยแล้ว
ถังจือซย่าตัดเสินใจไปด้านนอกเพื่อเรียกแท็กซี่กลับบ้าน แต่ตอนนี้ที่หน้าประตูโรงแรมไม่มีวี่แววของแท็กซี่ที่จะผ่านมาเลย ในขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไปด้านนอก ก็มีรถมาจอดอยู่ที่ถนนเส้นนั้นพอดี เสียงที่ทุ้มต่ำของชายหนุ่มก็ดังขึ้นข้างหลังเธอ "ให้ฉันไปส่งเธอนะ"
"ไม่รบกวนคุณแล้ว" ถังจือซย่าหันไปพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม
"ทำไมกัน ผมไม่คู่ควรให้คุณไว้ใจเหรอ" สีจิ่วเฉินรู้สึกโมโหโดยไม่มีเหตุผล ฝ่ามือใหญ่ๆ คว้าไปที่ข้อมือของเธอแล้วพาไปที่รถของเขา
ถังจือซย่าสะบัดเขาไม่หลุด ทำได้เพียงเดินตามเขาไปที่ข้างรถของเขาก็เท่านั้น สีจิ่วเฉินปรับเบาะนั่งข้างเบาะคนขับแล้วผลักเธอเข้าไปด้านใน
ถังจือซย่าจำใจเข้าไปนั่งอย่างช่วยไม่ได้ คืนนี้เธอก็ขวัญหนีดีฝ่อมามากพอแล้ว ขายังรู้สึกอ่อนแรงอยู่เลย ร่างกายก็ยังรู้สึกโหวงๆ
เธอรีบหยิบมือถือขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ตอบกลับมา
เธอหวังไว้จริงๆ ว่าผู้ชายคนนั้นจะหายจากโลกของเธอไปทั้งๆ แบบนี้ และจะไม่ปรากฏตัวขึ้นอีกเลย
สีจิ่วเฉินเพิ่งจะขับรถออกไปได้ไม่นาน มือถือของถังจือซย่าก็ดังขึ้น เป็นจ้านฉิงเหย่ที่โทรเข้ามา
ถังจือซย่ากดรับ "ฮัลโหล ฉิงเหย่"
ถังจือซย่าเพิ่งพูดจบ ก็รู้สึกได้ถึงสายตาอันเฉียบคมด้านข้างที่กวาดมองมายังเธอ
"ฮัลโหล จือซย่าเธอโทรหาฉันเหรอ เมื่อครู่นี้ฉันยุ่งอยู่กับงานเลยไม่ได้ยิน” เสียงขอโทษของจ้านฉิงเหย่ดังออกมาจากมือถือ
"ไม่เป็นไร นายยุ่งเรื่องของนายไป ฉันกดโดนปุ่มโทรโดยไม่ได้ตั้งใจ" ถังจือซย่าจงใจพูดออกไปให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด
ถังจือซย่าอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ ผู้ชายคนนี้พรุ่งนี้จะให้เธอเลี้ยงข้าวเที่ยงจริงๆ เหรอ
"อย่างนั้นก็ได้! ตอนเย็นฉันค่อยเลี้ยงข้าวฉิงเหย่ก็ได้ ตอนเที่ยงเลี้ยงข้าวคุณ" ถังจือซย่าจัดคิวให้
ใครจะไปรู้ว่าการจัดคิวนี้จะทำให้ชายหนุ่มมีสีหน้าที่ดูแย่กว่าเดิม เขาจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปตรงๆ "ในสายตาของเธอ ตลอดมาฉิงเหย่สำคัญกว่าฉันใช่ไหม"
ถังจือซย่า "..."
ผู้ชายคนนี้ริษยาแล้วใช่ไหม เธอกับจ้านฉิงเหย่เป็นเพื่อนกันมาสามปีแล้ว แต่เพิ่งจะรู้จักกับเขามาได้เท่าไหร่กันเชียว!
อีกอย่าง จ้านฉิงเหย่ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถึงคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้กันนะ
ถังจือซย่าอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ เธอยิ้มตอบอย่างช่วยไม่ได้ "งั้นก็ได้ ประธานสี อย่างนี้ก็แล้วกัน! พรุ่งนี้ฉันเลี้ยงข้าวเที่ยงและข้าวเย็นคุณ"
ยกเวลาทั้งวันให้กับเขา เขาก็น่าจะมีความสุขแล้วเมิ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...