อันฉีเฝ้ามองร่างสูงใหญ่ทั้งสี่ที่เดินจากไป เธอมีลางสังหรณ์ว่าเธออาจจะไม่ได้เจอพวกเขาอีก ดวงตาของเธอเริ่มแดงและเริ่มคัดจมูก ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์นี้ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเธอ
"ดูลูกสาวของเราสิ คงไม่อยากจากพวกเขาไปแน่แน่เลย!" หลี่เซี่ยนสังเกตเห็นว่าลูกสาวของเธอขอบตาแดง และอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปกอดเธออย่างปลอบโยน
แต่ใครจะรู้บ้างว่า ณ ตอนนี้ความรู้สึกในใจของอันฉีนั้นซับซ้อนแค่ไหน เธอไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเคยเป็นเมื่อสองเดือนก่อนแล้ว สองเดือนมานี้เธอตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่ง และในขณะเดียวกัน เธอก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะลืมผู้ชายอีกคนหนึ่ง
เป็นเวลาสองเดือนที่เธอแสดงท่าทีสงบนิ่งเหมือนไม่มีอะไร แต่หัวใจของเธอได้แตกสลายไปแล้ว
"ไปกันเถอะ!" อันจงหยางพูดกับภรรยาและลูกสาว
อันฉีปล่อยมือแม่ของเธอ และรีบวิ่งไปทางที่อู๋เจียนและคนอื่นๆ จากไป และเมื่อเธอเดินออกมา ก็เห็นรถออฟโรดสีเขียวทหารเพิ่งขับออกไป เธอเฝ้ามองจนกระทั่งรถออฟโรดหายไปจากสะพานลอยตรงนั้น อันฉีเม้มริมฝีปากและกลั้นน้ำตา ในตอนนี้ ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยปรากฏในโลกของเธอ
พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาแต่แรกแล้ว และสายงานของพวกเขาก็แตกต่างจากคนทั่วไป พวกเขาเหมือนเป็นวีรบุรุษอย่างลับๆ ที่ใดก็ตามที่ต้องการพวกเขา พวกเขาก็จะไปที่นั่น และเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น พวกเขาก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง
จู่ๆ อันฉีก็คิดได้ว่าเธอไม่มีแม้แต่หมายเลขโทรศัพท์ของใครเลย ไม่รู้อะไรเลยนอกจากชื่อของพวกเขา และมีเพียงความทรงจำที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขา
"ฉีฉี กำลังมองอะไรอยู่!" หลี่เซี่ยนตามไปด้วยความสงสัย
"ไม่มีอะไร พวกเรากลับบ้านกันเถอะ!" อันฉีส่ายหัว และเดินไปตามทิศทางที่มีรถเบนท์ลีย์สีดำที่ดูไม่สะดุดตาคันหนึ่งจอดอยู่
นั่งอยู่ในรถ นอกหน้าต่างเป็นบรรยากาศใจกลางเมืองที่พลุกพล่าน อันฉีอยู่บนภูเขาโดยขาดการติดต่อสื่อสารเป็นเวลาสองเดือน เมื่อกลับมาในเมืองใหญ่อีกครั้งทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นชิน
"หนูเลิกกับจี้เจ๋อหรือเปล่า เขาคืนเงินที่แม่ให้เขาไปกลับมาทั้งหมดเลย ถือว่าเขารู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร ไม่อย่างนั้นแม่จะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แบบนี้แน่" หลี่เซี่ยนพูดด้วยความโกรธ
อันฉีพยักหน้า "ต่อไปอย่าพูดถึงคนๆ นี้เลย หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้ว"
หัวใจของอันฉีถูกครอบงำด้วยความรู้สึกผิดและการตำหนิตัวเอง เมื่อมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องที่ใจดีและไร้เดียงสา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าเธอได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่
โชคดีที่เธอรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับงานหมั้นของอันนั่วกับเนี่ยเหยียนเฟิง มิฉะนั้นเธอต้องกลับมาเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นที่ฐานทัพ เมื่อพูดถึงเนี่ยเหยียนเฟิง ก็ต้องเล่าว่าทำไมถึงทำร้ายจิตใจเธอได้
"เสี่ยวนั่ว ขอบคุณที่เป็นห่วงพี่" อันฉีถอนหายใจ
"โชคดีที่อันตรายทั้งหมดหายไปแล้ว ต่อไปเราสามารถไปช้อปปิ้ง พูดคุย และดื่มกาแฟได้อย่างสบายใจกันแล้ว" อันนั่วกล่าวอย่างมีความสุข
"ฉีฉี รีบไปอาบน้ำ แล้วมาดูว่าแม่เตรียมของขวัญอะไรไว้ให้"
อันฉีคงไม่ต้องเดา แม่ของเธอต้องซื้อเสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์ดังมาให้เธอมากมายแน่ๆ ทว่าเธอไม่สนใจสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...