ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 61

วันต่อมาคนขับรถของเคธี่มารับนับหนึ่งไปขัดผิว ทำหน้า เรียนการแสดงตามที่เคธี่จัดตารางไว้ให้

โดยมีมีมี่ตามคอยดูแลไม่ห่าง นอกจากหล่อนทำหน้าที่ผู้จัดการแล้ว

ยังทำหน้าที่ คอยรายงานเรื่องราวเกี่ยวกับนับหนึ่งให้ธีร์รับรู้ด้วย ในแต่ละวันหล่อนก็จะคอยรายงานบอสตลอดว่า

( วันนี้น้องนับหนึ่งไปเรียนแอคติ้ง(Acting)ค่ะ น้องแสดงได้เก่งมากค่ะบอส )

( วันนี้น้องไปว่ายน้ำ ทำสปาผิวหน้าและผิวกายค่ะ กลับมาถึงก็เข้านอนเลย )

( วันนี้น้องเข้าพบผู้บริหารของบริษัทแล้วก็ไปลองเสื้อผ้า หน้าผมของละครที่จะเล่น แต่ยังไม่ได้เจอกับอิงฟ้าค่ะ )

( วันนี้น้องบ่นคิดถึงบอสกับทุกคนด้วยค่ะ น้องบอกว่าไม่มีเวลาได้เจอกันเหมือนเคยเลย คิดถึงมาก )

( วันนี้น้องทานข้าวคนเดียว บ่นคิดถึงบอสอีกแล้วค่ะ )

ธีร์ที่ออกมาตรวจความเรียบร้อยในร้านกาแฟสาขาต่างจังหวัด ได้อ่านข้อความก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

นอกจากส่งเป็นข้อความแล้ว มีมี่ยังส่งภาพประกอบไปให้บอสของหล่อนดูให้หายห่วงอีกด้วย

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา เคธี่โทรมาแจ้งนับหนึ่งเกี่ยวกับการรับงานพรีเซ็นเตอร์โฆษณาชิ้นใหญ่ก่อนเปิดกล้อง

" น้องนับหนึ่ง ตอนนี้ทางทีมงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่างThaningroupได้โทรมาคอนเฟิร์มแล้วนะ

ว่าจะให้น้องเป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ งานนี้ค่าตอบแทนสูงมาก

น้องต้องโชว์ความสามารถออกมา ทำให้เต็มที่นะ อนาคต อาจจะได้ถ่ายแบบมากขึ้นอีก

ส่วนพี่ก็จะพยายามหางานที่ดีที่สุด ที่เหมาะกับแครักเตอร์(Character)ของน้องมากที่สุดมาป้อนให้นะ "

" ค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่เคธี่ "

นับหนึ่งเอ่ยขอบคุณเสียงหวานอย่างจริงใจ เคธี่ที่อยู่ในสายเลยเอ่ยตอบอย่างรักใครเอ็นดูพร้อมกับให้กำลังใจ

" จ้ะ ต่อไปนี้ก็ตั้งใจทำงานแล้วก็อดทนให้มากๆนะ ยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังต้องเรียนรู้ สู้ๆนะ "

ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งที่นั่งในห้องกับมีมี่ บนชั้นสามของร้านกาแฟก็เอ่ยตอบเคธี่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

" ค่ะ หนูจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดค่ะ "

" จ้ะ ไม่มีอะไรแล้วพี่จะวางแล้วนะ "

" ค่ะ สวัสดีค่ะ "

พอนับหนึ่งเอ่ยจบ เคธี่ก็กดวางสายไป นับหนึ่งหันมามองมีมี่ที่นั่งข้างๆแล้วจับมือหล่อนเอาไว้ เอ่ยด้วยความตื่นเต้นอย่างดีอกดีใจ

" พี่มี่ พี่เคธี่บอกว่างานโฆษณาตัวนี้ ได้ค่าตอบแทนสูง แสดงว่าเราจะมีเงินก้อนกันแล้วใช่มั้ย "

ได้ยินดังนั้นดวงตาของมีมี่ก็ลุกวาวเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นทันทีแล้วเอ่ยขึ้น

" จริงเหรอ พี่เคยได้ยินมานะ ว่า ดาราที่ดังๆอ่ะ รับงานโฆษณาตัวนึง ได้เงินเป็นล้านๆเลย น้องอาจจะได้เงินก้อนจริงๆก็ได้ "

" จริงเหรอ ชักอยากรู้แล้วสิ ที่ว่าค่าตอบแทนสูงนี่คือเท่าไหร่กันแน่ "

แต่แล้วนับหนึ่งก็หลุบตาลงเล็กน้อยแล้วเอ่ยอย่างผิดหวัง

" แต่นับหนึ่งไม่ใช่คนดังอะไร คงไม่ได้อย่างคนดังหรอกค่ะ "

มีมี่ตบหลังมือเธอเบาๆแล้วเอ่ย

" ถึงไม่ได้มากอย่างดาราที่ดังแล้ว แต่น้องอย่าลืมว่า ระดับพี่เคธี่ไม่ธรรมดานะคะ ในเมื่อพี่เขาบอกว่าค่าตอบแทนสูง

ก็แสดงว่ามันต้องมากพอให้พี่เขาพอใจ จนพูดออกมาแบบนั้นสิ ถูกมั้ย ค่าตอบแทนสูงในสายตาเรากับสายตาพี่เคธี่มันต่างกันนะ "

นับหนึ่งย้ายสายตากลับมาจ้องหน้ามีมี่อย่างมีความหวังอีกครั้งด้วยสีหน้ายิ้มน้อยๆ

" จริงด้วยค่ะ งั้นเราก็รอลุ้นสวยๆกันอย่างเงียบๆไป ฮิๆ ถ้าได้เงินก้อน อันดับแรก นับหนึ่งจะขอเลี้ยงชาบูบอสกับพี่ๆทุกคนค่ะ "

" อื้อ "

มีมี่พยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้นับหนึ่งเบาๆอย่างเอ็นดู

ในหัวของนับหนึ่ง มีแต่เงินกับเงินเท่านั้น เพราะเธอยังไม่เคยเห็นเงินแสนมาก่อน เลยอยากจะเห็นมัน มากองตรงหน้าสักครั้ง

อาทิตย์ต่อมา เคธี่นั่งรถมารับนับหนึ่งด้วยตัวเอง พอแกมาถึงร้านกาแฟ ก็เห็นนับหนึ่งกับมีมี่ยืนรออยู่หน้าร้านแล้ว

คนขับรถเคลื่อนเข้าไปจอดรับทั้งสองแล้วลงมาเปิดประตูให้ นับหนึ่งยิ้มให้แล้วเอ่ยอย่างสุภาพนอบน้อมก่อนจะขึ้นไปในรถ

" ขอบคุณค่ะลุงโจ "

แล้วเธอก็ก้าวขึ้นไปในรถ มีมี่ที่ตามขึ้นมาหลังเธอ พอนั่งลงบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้วก็หันมาเอ่ยกับลุงโจด้วยรอยยิ้ม

" ขอบคุณค่ะลุง ลุงไปขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวหนูปิดประตูเองค่ะ "

" ได้ครับ "

ลุงโจตอบรับคำอย่างสุภาพ จากนั้นแกก็ไปเปิดประตูขึ้นไปนั่งประจำที่ด้วยสีหน้าอมยิ้ม

อย่างรักใคร่เอ็นดูในความนิสัยดีมีมารยาทของนับหนึ่งกับมีมี่

" สำรวมหน่อยค่ะ อย่าแสดงกิริยาแบบนี้ ให้คนอื่นเห็นเด็ดขาด

ไม่งั้น มันจะกลายเป็นจุดอ่อนให้คนที่ไม่ชอบเรา ใช้เล่นงานเราได้

อยู่ในวงการนี้ ต้องระวังตัวให้มาก เพราะคนขี้อิจฉาริษยามีเยอะ เล่นละครตบตาก็เก่ง

อย่าให้ใครเห็นจุดอ่อนเราเด็ดขาด แล้วก็จำไว้ว่า ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะไม่ถูกรังแกและอยู่รอดได้ "

นับหนึ่งกับมีมี่หันมาทางเคธี่แล้วเอ่ยตอบรับคำเสียงแผ่วอย่างรู้ความผิดว่า

" ค่ะ/ค่ะ "

จากนั้นเคธี่ก็เอ่ยกับนับหนึ่งว่า

" ส่วนวันนี้น้องนับหนึ่งมีถ่ายอยู่สองงานนะ มีถ่ายโฆษณาโทรศัพท์กับเครื่องดื่มนะ "

" ค่ะ "

เอ่ยจบเคธี่ก็หมุนตัวเตรียมจะเดินเข้าไปในบริษัท แต่แล้วแกก็หันกลับมามองนับหนึ่งแล้วเอ่ยอธิบาย

" อ้อ ที่พี่พาน้องมาเช้า เพราะอยากจะฝึกวินัยในการทำงานของน้อง

เวลาทำงาน อย่าให้คนหมู่มากรอเราเพียงคนเดียว ต่อให้เราเป็นตัวหลักหรือโด่งดังมากก็ไม่ควรทำ

เพราะทุกคนก็คือคนเหมือนกัน มีหัวใจ มีความรู้สึกเหมือนเรา อย่าได้ลืมตัวเป็นอันขาด "

เคธี่สอนนับหนึ่งด้วยความหวังดี เพราะแกมองนับหนึ่งเป็นเพชรน้ำงามที่มีค่ามหาศาล

ที่รอการเจียระไนจากเขา ให้กลายเป็นเพชรน้ำงามที่สวยงามและทรงคุณค่าแก่การครอบครอง

นับหนึ่งมองหน้าเคธี่แล้วพยักหน้าเอ่ยอย่างเชื่อฟังด้วยความเข้าใจในเจตนาของแก

" ค่ะ นับหนึ่งจะจำทุกคำสอนของพี่ไว้ ไม่ให้ลืมตัวแน่นอนค่ะ "

เธอสัมผัสได้ถึงความหวังดีของเคธี่ที่มีต่อเธออย่างจริงใจ แม้เคธี่จะเข้มงวด แข็งๆ ตึงๆ หยิ่งๆ

แต่นั่นก็เป็นเพียงภาพลักษณ์ที่แกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่น่ายำเกรงของผู้คนเท่านั้น เธอเข้าใจดี

" เข้าใจก็ดีแล้ว เข้าไปซ้อมบทแล้วแต่งหน้าแต่งตัวเถอะ ตอนนี้ช่างคงมากันแล้ว "

" ค่ะ "

แล้วทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในบริษัท โดยเคธี่เป็นคนเดินนำ ส่วนสองสาวก็จับมือกันตามหลังไปอย่างเงียบๆด้วยความตื่นเต้นในใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก