สองวันต่อมา เคธี่มาหานับหนึ่งที่ร้านกาแฟแต่เช้า พอมาถึงแกก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในร้าน
แล้วเดินเข้ามาสอบถามสองพนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ พอครีมกับเจนเห็นแกแล้วก็ยกมือไหว้ทันที
" สวัสดีค่ะคุณเคธี่ "
ครีมเอ่ยอย่างสุภาพนอบน้อม
" สวัสดีจ้ะ "
เคธี่ยกมือรับไหว้ของสองสาว จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
" พอดี พี่มาหาน้องนับหนึ่งน่ะค่ะ น้องๆพอจะมีใครว่าง พาพี่ไปที่ห้องของน้องนับหนึ่งบ้างมั้ย "
" หนูว่างค่ะ เดี๋ยวหนูพาไปเอง "
เจนรีบยกมือขึ้นมาอาสาจะพาเคธี่ไปหานับหนึ่งบนห้อง เคธี่ยิ้มแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
" ขอบคุณมากเลยค่ะ "
เจนยิ้มแล้วเอ่ยออกมาอย่างเป็นมิตร
" เรื่องเล็กน้อย ตามฉันมาเลยค่ะ "
เอ่ยจบเจนก็เดินนำเคธี่ขึ้นบันไดเดินขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับเอ่ยถึงเรื่องราวชีวิตของนับหนึ่งไปด้วย
" พี่รู้มั้ยคะ ว่า น้องนับหนึ่งน่ะ มีชีวิตลำบากมากเลยค่ะ น้องเป็นคนขยัน อดทน ไม่ย่อท้อ สู้ชีวิตมากค่ะ
นอกจากน้องจะมีหน้าตาที่สวยสดใส ผิวขาวจั๊วะประดุจพวกลูกคุณหนูไฮโซแล้ว
น้องยังเป็นคนที่เก่งมากคนหนึ่ง ฉลาด มีไหวพริบ จริงใจกับทุกคนมาก พวกเราทุกคนรักน้องกันมากๆเลยค่ะ "
เจนพูดเหมือนไม่เลยเหนื่อยเลยในขณะที่เคธี่เริ่มเหนื่อยหอบแล้ว พอขึ้นมาถึงชั้นสาม เคธี่ก็รู้สึกเหนื่อยมากจนได้นั่งพัก
เพราะแกอายุขึ้นเลขสี่แล้วและไม่เคยเดินขึ้นตึกถึงสามชั้นมาก่อนเลยเหนื่อยง่ายกว่าคนอื่น พอนั่งพักได้สักพักแกก็เอ่ยถามขึ้น
" นี่น้องนับหนึ่งเดินขึ้น เดินลง แบบนี้ทุกวันเลยเหรอคะ "
แกเอ่ยถามขึ้นอย่างอยากรู้ เจนพยักหน้าแล้วเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ
" ใช่ค่ะ แต่เธอไม่ใช่แค่เดินขึ้นเดินลงอย่างเดียวนะคะ เธอเป็นคนดูแล คอยทำความสะอาดทั้งตึกเลยค่ะ "
" หะ หา! ถะ ทั้ง ทั้งสามชั้นเลยเนี่ยนะ "
เคธี่อุทานออกมาแล้วเอ่ยถามอย่างตกใจ เจนยิ้มแล้วเอ่ยตอบ
" ถูกต้องค่ะ น้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ตื่นแต่เช้ามืดทุกวัน แต่นอนดึกกว่าคนอื่นทุกคืน บางครั้งไม่ได้หลับได้นอนทั้งคืนเลยก็มีค่ะ "
ได้ยินเจนเอ่ยยืนยันชัดเจนแบบนั้น เคธี่ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความรู้สึกทึ่งในตัวนับหนึ่ง
" โอ้...กว่าน้องจะเรียนจบ กว่าจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาครอง สำหรับน้องมันไม่ง่ายเลย
น้องต้องทุ่มเทมากกว่าคนอื่น เป็นสิบๆเท่าเลย เกียรตินิยมของเธอ ช่างมีคุณค่ามากจริงๆ
คนอื่นแค่ตั้งใจเรียนก็ได้มาอย่างง่ายดายแล้ว แต่ของเธอมันพิเศษ ดูมีค่า น่าภาคภูมิใจกว่าใคร ฉันเลือกคนไม่ผิดจริงๆ "
เคธี่รู้สึกภาคภูมิใจในตัวนับหนึ่งมาก เจนเม้มริมฝีปากแล้วพยักหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เอ่ยขึ้น
" อื้อ ถูกต้องค่ะ คุณเลือกคนไม่ผิด พวกเราทุกคนชื่นชมคุณมากค่ะ ที่เห็นแววในตัวน้อง
ฉันน่ะ อยากจะเห็นน้องมีชีวิตที่ดี มีอนาคตที่สดใส รุ่งเรือง น้องจะได้สุขสบายเหมือนคนอื่นบ้างค่ะ "
เคธี่ยิ้มอ่อนแล้วเอ่ยถามพร้อมกับชะเง้อหาห้องของนับหนึ่ง
" ห้องของน้อง ห้องไหนล่ะคะ "
" ห้องที่สองค่ะ ไปค่ะ เดี๋ยวเจนไปเคาะประตูให้ "
เคธี่พยักหน้าให้เธอเบาๆ
แล้วเจนก็หมุนตัวเดินนำออกไป หยุดลงตรงหน้าห้องของนับหนึ่งแล้วยกมือขึ้นมาเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก
มีมี่เดินออกมาเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นเจนกับเคธี่หล่อนก็รีบยกมือไหว้ด้วยความประหลาดใจ
" อ้าว พี่เคธี่ พี่เจน สวัสดีค่ะ "
" หวัดดีจ้ะ "
เคธี่รับไหว้ด้วยสีหน้ายิ้มๆ
เจนก็หันไปมองเคธี่แล้วเอ่ย
" เจนมาส่งคุณเคธี่เรียบร้อยแล้ว ขอตัวลงไปทำงานก่อนนะคะ "
" จ้ะ ขอบใจมากนะ "
เคธี่เอ่ยขอบใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
" ค่ะ "
เอ่ยตอบรับคำแล้วเจนก็หมุนตัวเดินออกไป จากนั้นมีมี่ก็เอ่ยขึ้น
" เชิญคุณเคธี่เข้ามาในห้องก่อนค่ะ "
เคธี่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับค่อยๆกวาดสายตามองเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่ตั้งอยู่ในห้องใช้สายตาสำรวจไปอย่างช้าๆ
[ ห้องนี้ก็กว้างขวางดีนี่ อยู่ได้สบายเลย เฟอร์นิเจอร์ก็แพง ไม่ธรรมดาเลย ]
นับหนึ่งที่ล้างหน้าอยู่ในห้องน้ำก็เอ่ยถามขึ้น
" พี่มี่ ใครมาคะ บอสเหรอ "
มี่มี่ยังไม่ทันได้ตอบ เธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว แล้วเธอก็รู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเคธี่นั่งในห้อง
" อ้าว พี่เคธี่ สวัสดีค่ะ พี่มาได้ไงคะ "
เธอเอ่ยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจกับการมาของพี่เคธี่ในครั้งนี้มาก
" อะไรกันคะ ทำไมทำหน้ากันแบบนั้นล่ะ ไป รีบๆไปไดร์ผม แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน เดี๋ยวจะไม่สบายเอาค่ะ "
" ทำไมต้องย้ายที่อยู่ด้วยคะ ในเมื่อที่นี่มันก็ดีอยู่แล้ว "
เคธี่ยิ้มแล้วเอ่ยอธิบายในสิ่งที่ทั้งสองไม่เข้าใจ
" เพื่อความสะดวกสบาย เพื่อภาพลักษณ์ และเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อความเข้าใจผิดค่ะ
บอสของพวกคุณหล่อมาก ดังนั้นการที่น้องนับหนึ่งอยู่ที่นี่กับเขา มันย่อมดูไม่เหมาะสม
หากวันใดวันหนึ่ง มีคนรู้ว่าน้องอาศัยอยู่ในร้านกาแฟของคุณธีร์
คนที่ไม่หวังดีอาจจะเขียนข่าวใส่ไข่หาว่าน้องซุ่มมีแฟนก่อนเข้าวงการ
หากน้องดังมากๆมันจะกระทบไปถึงงานของน้องค่ะ ความนิยมในตัวน้องอาจจะลดน้อยลงค่ะ "
ในขณะที่เคธี่พูดอยู่ ธีร์ก็เดินเข้ามาได้ยินพอดี แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นเสียงเย็นด้วยท่าทีสุขุมเย็นชา
" ผมไม่อนุญาต แต่หากจะต้องย้ายจริงๆ นับหนึ่งต้องย้ายไปอยู่ในคอนโดหรือบ้านที่ผมจัดหาให้เท่านั้น "
ทุกคนหันไปมองธีร์กันเป็นตาเดียว เขาเดินมาหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาข้างนับหนึ่งแล้วเอ่ยต่อ
" เราอยู่ด้วยกันแบบนี้มานานแล้ว ไม่เคยมีเรื่องเสียหายอะไร
พอคุณเข้ามาในชีวิตเธอ ก็จะพาออกไปเลย เรื่องนี้ คงไม่ใช่ว่ามีใครคอยอยู่เบื้องหลัง
สั่งให้คุณ มาพานับหนึ่งออกไป จากความดูแลของผมหรอกนะ "
เคธี่รู้สึกโมโหมาก ที่ธีร์ทำตัวเป็นหมาหวงก้างไม่ยอมปล่อยน้องนับหนึ่งไป
แต่ถึงแม้จะไม่พอใจมากแค่ไหน แกก็ยิ้มได้สบายมากแล้วเอ่ยปฏิเสธขึ้น
" ไม่ใช่ค่ะ ไม่มีแน่นอน คุณธีร์สบายใจได้เลย ไม่มีใคร สามารถสั่งให้ฉัน มาพาน้องนับหนึ่ง ออกไปจากคุณทั้งนั้นค่ะ
ที่ฉันต้องพาน้องออกไปเพราะฉันกลัวว่า ถ้าน้องดังแล้วจะมีคนมาขุดประวัติน้อง
แล้วอาจจะปล่อยข่าวปลอมหาว่าน้องนับหนึ่งแอบมีครอบครัวก่อนเข้าวงการ
ดังนั้น ฉันเลยต้องกันไว้ ดีกว่าต้องมาตามแก้ข่าวในตอนที่เรื่องเสียหายเกิดขึ้นแล้ว มันเหนื่อยค่ะ
และการที่ฉัน จะพาน้องนับหนึ่งไปอยู่ในความดูแลของฉัน แน่นอนว่าปลอดผู้ชายค่ะ
คุณธีร์ไม่ต้องห่วงเลย ฉันดูแลน้องนับหนึ่งดี เท่าคุณแน่นอน
งั้นเอางี้มั้ยคะ เพื่อความสบายใจของคุณ คุณก็ให้น้องมีมี่ไปอยู่ด้วย ตกลงมั้ยคะ "
แกพยายามอธิบายและยื่นข้อเสนอให้ธีร์ เพราะรู้ว่าธีร์ชอบนับหนึ่ง แกดูออกตั้งแต่วันที่นับหนึ่งรับปริญญาแล้ว
ก่อนหน้านี้ แกเคยเห็นมีมี่คอยถ่ายรูป คอยพิมพ์ข้อความส่งให้คนคนหนึ่งตลอดเวลาที่นับหนึ่งทำงาน
ตอนนั้นแกไม่ได้คิดอะไร และไม่รู้ว่ามีมี่ส่งให้ใคร แต่ตอนนี้ไม่ต้องเดาก็รู้แล้ว
ว่ามีมี่คอยส่งความเคลื่อนไหวของนับหนึ่งให้ใคร ยิ่งแกมาเห็นมีมี่อยู่ห้องเดียวกันกับนับหนึ่ง
แกก็ยิ่งมั่นใจว่ามันไม่ใช่เพียงแค่เพื่อน พี่น้องที่สนิทกันเท่านั้นแน่นอน แต่ดูแลในฐานะลูกจ้างของธีร์ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก