สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 112

กู้ฉางชิงได้ยินดังนั้น ก็พบว่าเขาอยู่ที่นี่ ราวกับว่าตกตะลึง

เฟิงจิงเหยาแสร้งทำเป็นไม่เห็นความกังวลที่แปลกๆบนหน้าของเธอและถามว่า:“ร่างกายคุณเป็นยังไงบ้าง?ยังเจ็บท้องอยู่ไหม?”

เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่กู้ฉางชิงดื่มเหล้าจนเป็นลมหมดสติไป

กู้ฉางชิงกลับมามีสติ ขมวดคิ้วและถามว่า:“นี่ฉันอยู่ที่ไหน?”

“ทำไม?เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ลืมหมดแล้วหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยาเดิมทีไม่ได้จะหมายความอย่างที่พูด

แต่ไม่รู้ว่าทำไม คำพูดที่พูดออกมามีแต่จะทิ่มแทง ทำให้สีหน้าของกู้ฉางชิงนิ่งสงบ

เธอเม้มริมฝีปากแน่น ราวกับว่าเธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาเตือนสติเธอแล้ว เธอก็จำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้ และดวงตาของเธอก็เป็นประกายซับซ้อน

เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่เธอเป็นลมสลบไป เฟิงจิ่งเหยาเป็นคนช่วยเธอ

แม้ว่าเธอจะไม่อยากสนใจคนๆนี้นัก แต่การปลุกฝังที่เธอได้รับมา ไม่อนุญาตให้เธอทำอย่างนั้น

ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างไม่เต็มใจว่า:“ขอบคุณนะ”

พอพูดสองคำนี้จบ เธอก็ไม่คิดจะให้ความสนใจเฟิงจิ่งเหยา ทำเหมือนเขาเป็นอากาศ

เฟิงจิ่งเหยายืนอยู่ที่ปลายเตียง และเหล่ตามองการกระทำของเธอ

ในใจเขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ยังโกรธอยู่ จึงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน

กู้ฉางชิงนอนอยู่บนเตียงฟังเสียงในห้องที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จึงไม่แน่ใจ

ผู้ชายคนนั้นไปแล้วหรอ?

เมื่อคิดอย่างนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิด จึงหันกลับมาด้วยความโกรธ และเห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ปลายเตียง

“คุณทำไมยังไม่ไป?”

เธอประหลาดใจและแอบดีใจ แต่เธอไม่ทันได้สังเกตตัวเอง และพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า:“ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนก็ได้นะ”

เฟิงจิ่งเหยามองเธอที่ปากพูดไม่ตรงกับใจ

เดิมทีเขาไม่มีหน้าจะพูด แต่ในตอนนี้ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรยาก

“อย่าโกรธเลย ตอนนี้เธอไม่สบายอยู่นะ และเรื่องนั้นฉันก็ตรวจสอบชัดเจนแล้ว ไม่ถือโทษโกรธที่เธอโกหก ฉันก็ไม่ควรใจร้อนจนทำไม่ดีกับเธอ”

กู้ฉางชิงได้ยินคำกล่าวขอโทษของเขาก็ตกตะลึง

เธอไม่คิดว่าเฟิงจิงเหยาจะเป็นฝ่ายขอโทษเธอ

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนที่หยิ่งทะนง โดยปกติคนอื่นมักจะประจบสอพลอ อะไรๆก็ขอโทษเขา

ตอนนี้ในใจเธอรู้สึกปั่นป่วน

มีใจสั่น มีแอบดีใจ และมีความคับข้องใจเล็กน้อย

ไม่สนว่าจะพูดว่ายังไง เธอก็เป็นภรรยาเขา แต่เขาไม่ได้เชื่อเธอตั้งแต่ครั้งแรก

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ความรู้สึกที่เพิ่งเกิดขึ้นก็หายไปทันที และกลายเป็นความซึมเศร้า

อย่างไรก็ตามเธอไม่กล้าที่จะแสดงความคิดพวกนี้ออกมาต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา

เธอทำเสียงฮึออกมาอย่างเย็นชา และไม่มองเฟิงจิ่งเหยาที่แสร้งทำเป็นพักผ่อน

เฟิงจิ่งเหยาเห็นอย่างนั้นก็ไม่สนใจ

ถึงอย่างไรเมือคืนวานเขาก็พูดแย่ๆไว้มาก เขารู้ตัวเอง

อยากให้คนอื่นหายโกรธโดยเร็วนั้นเป็นไปไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไร อยู่เป็นเพื่อนเธออย่างเงียบๆ

ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงอยู่ในโรงพยาบาลอย่างงุ่มง่ามเป็นเวลาสองวัน

โรคกระเพาะอาหารอักเสบของกู้ฉางชิงก็ดีขึ้นมาก

วันนี้ต้องออกจากโรงพยาบาล หมอก็ไม่ลืมที่จะพูดว่า:“กลับไปแล้วต้องใส่ใจเรื่องอาหาร ทานอาหารอ่อนๆให้มาก อาหารรสเผ็ดและแอลกอฮอล์ไม่แตะต้องมันเลยก็จะดี”

เฟิงจิ่งเหยาเดินเข้ามาโดยไม่ฟังที่เธอบอกให้นั่ง เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

เฟิงจิ้งหยวนเห็นอย่างนั้น ก็สังเกตเห็นความผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาที่มืดครึ้มของเขา ทำให้ใจเธอรู้สึกไม่สงบ

“จิ่งเหยา คุณเป็นอะไร?ใครทำให้คุณขุ่นเคือง?”

เธอถามด้วยรอยยิ้ม และเฟิงจิ่งเหยาก็ส่งเสียงอย่างเย็นชา

“ใครทำให้ฉันขุ่นเคือง อาเล็กคุณไม่ใช่รู้ดีอยู่แก่ใจหรอ?”

เฟิงจิ้งหยวนสีหน้านิ่ง:“จิ่งเหยา คุณหมายความว่ายังไง?”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินอย่างนั้นก็ไม่พูดอ้อมค้อมกับเธอ พูดตรงไปตรงมาถึงเรื่องคืนนั้น

“ฉันรู้ว่าอาเล็กไม่ชอบกู้ฉางซิน ดั้งนั้นแต่ไหนแต่ไรถึงไม่ขอให้พวกคุณอยู่ร่วมกันดีดี เห็นแก่หน้ากันก็เลยปล่อยผ่านไป แต่คุณเป็นผู้ใหญ่ ช่วยคนอื่นวางแผนคิดร้ายกับหลานสะใภ้ ยุแยงความสัมพันธ์สามีภรรยาของพวกเรา ผู้ใหญ่เป็นแบบนี้หรอ?คุณรู้ไหมว่านี่เป็นการกระทำที่ผิด?”

เสียงของเขาดังขึ้นในตอนท้ายของประโยค

เฟิงจิ้งหยวนตัวสั่น เพราะตกใจกลัว

แต่ไม่นานเขาก็มีท่าทีโต้ตอบกลับมา เฟิงจิ่งเหยาทำไมถึงติเตียนเธอเช่นนี้ จะให้กู้ฉางซินผู้หญิงคนนั้นมีหน้ามีตา และอดไม่ได้ที่จะโมโห

“เฟิงจิ่งเหยา คุณมาสั่งสอนฉันเพื่อผู้หญิงคนนั้นหรอ?”

เธอตำหนิกลับไปอย่างไม่พอใจ:“แล้วฉันทำอะไรผิด?ตั้งแต่ต้นจนจบผู้หญิงคนนั้นล้วนหลอกลวงคุณ ฉันแค่ช่วยให้คุณได้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของเธอ!คุณอย่าเป็นสุนัขกัดหลี่ตังปิน ไม่รู้จักคนดีมีตาหามีแววไม่”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้ว

เขารู้ว่าอาเล็กหมายถึงอะไร แต่เขาเลือกที่จะเข้าข้างกู้ฉางซิน

ถึงอย่างไรในตอนนี้กู้ฉางซินกับข้อมูลก็มีความไม่สอดคล้องกัน เขารู้ทุกอย่างชัดเจนกว่าใคร

“หน้าจริงหน้าปลอมอะไร ที่คุณพูดล้วนฟังสิ่งที่ไม่เป็นความจริงพูดลือผิดๆต่อกันไป หรือว่านี่คือการคบค่าสมาคมกัน คุณยังไม่เห็นว่าจริงๆแล้วฉางซินไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูด?”

เฟิงจิ้งหยวนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน

“เฟิงจิ่งเหยา ฉันว่าคุณสติเลอะเลือนเหมือนถูกผีเข้าสิง สิ่งที่เห็นเป็นแค่เปลือกนอกที่ผู้หญิงคนนั้นล้วนหลอกลวงคุณ คุณยังเชื่ออยู่อีก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา