สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 148

เฟิงจิ่งเหยาถอนมือออก และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า "เข้ามาสิ"

เมื่อพูดจบ เขาก็เดินหันหลังเข้าไปและนั่งลงที่โต๊ะทำงาน

กู้ฉางฉิงเดินตามเขาเข้ามา รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย

"คุณต้องการคุยอะไร?"

เฟิงจิ่งเหยามองเธออย่างเย็นชาและถาม

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินดังนั้นจึงก้าวไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา

"ฉันรู้ดีว่าคุณไม่เห็นด้วยแน่กับการที่จะให้คุณถอนฟ้อง เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากถามคุณว่า เราสามารถใช้วิธีอื่นในการจ่ายค่าชดเชยได้หรือไม่?"

เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้วหรี่ตาและยิ้มเยาะว่า "คุณจะชดใช้ด้วยวิธีไหน?"

เมื่อพูดจบเขาก็กวาดตามองกู้ฉางฉิงตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับกำลังสอบสวนเธออยู่

กู้ฉางฉิงรู้สึกเหมือนกำลังถูกดูถูก

แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงอดกลั้นเก็บความไม่พอใจในใจเอาไว้ เม้มริมฝีปากพูดต่อว่า "ก่อนหน้านี้ฉันมีผลงานชิ้นหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของ RC แบรนด์ต่างประเทศ พวกเขาติดต่อกับฉันมาโดยตลอด เร็ว ๆ นี้ฉันได้ยินมาว่าพวกเขากำลังวางแผนจะเข้าทำการตลาดในประเทศจีน และกำลังมองหาบริษัทเสื้อผ้าภายในประเทศเพื่อจะร่วมทุนสร้างแบรนด์ร่วมกันขึ้น"

หลังจากที่เธอพูดจบ ก็มองไปที่เฟิงจิ่งเหยาด้วยสายตาแน่วแน่

เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้วและพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า "แล้วยังไง?"

เมื่อกู้ฉางฉิงเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกแย่เล็กน้อย

เดิมทีเธอคิดว่าเมื่อพูดเรื่องนี้แล้วผู้ชายคนนี้ก็ควรจะเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร

เพราะผู้ชายคนนี้ฉลาดมีไหวพริบดี

เมื่อเธอกำลังจะอธิบายเพิ่มอยู่นั่นเอง เธอก็สังเกตเห็นแววตาของเฟิงจิ่งเหยาวูบไหว

ทันใดนั้น เธอยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจ

เกรงว่าคน ๆ นี้จงใจแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เธอก็รู้สึกเคืองขึ้นมา

แต่ในเมื่อเธอเป็นคนมาขอร้องเขา เธอจึงได้แต่เพียงกลั้นความไม่พอใจเอาไว้ และพูดในสิ่งที่เขาต้องการ

"ความหมายของฉันคือ บริษัทของเราสามารถเข้าร่วมต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความร่วมมือนี้ แต่เดิมดีไซน์เนอร์ของพวกเขาก็ชื่นชมผลงานออกแบบของฉันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ณ จุดนี้ เรามีข้อได้เปรียบที่บริษัทอื่นไม่มี และฉันก็ได้ทำความเข้าใจเบื้องต้นมาแล้วบ้าง หากเราสามารถร่วมมือกับพวกเขาในครั้งนี้ นี่จะเป็นโอกาสสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้มากกว่าห้าสิบล้าน เพราะฉะนั้นจะเห็นแก่ความร่วมมือนี้ชดเชยปัญหาที่บ้านสกุลกู้สร้างขึ้นได้ไหมคะ?"

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาฟังข้อเสนอทั้งหมดของเธอแล้ว นัยย์ตาก็ฉายแววประหลาดใจ

เขาไม่คาดคิดว่ากู้ฉางซินคนนี้จะมีความสามารถถึงเพียงนี้

"คุณแน่ใจแค่ไหน?"

เขาเคาะโต๊ะสักครู่แล้วถาม

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินสิ่งนี้ ก็นึกว่าเขามีความสนใจ แววตาของเธอมีประกายแห่งความดีใจ และพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า "แม้ว่าครั้งนี้จะมีหลายบริษัทเข้าร่วมแข่งขัน แต่ฉันก็มีความมั่นใจกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์"

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาฟังเธอให้คำมั่นสัญญาอย่างมั่นใจ เขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อยราวกับกำลังใช้ความคิด

ตอนนี้บริษัทเพิ่งจะเริ่มเปิดตัวก็ได้รับความเสียหายด้านชื่อเสียง

ถ้าหากอยากกลับมาสู่จุดเริ่มต้น ก็ต้องมีการเริ่มต้นใหม่ที่ดีอีกครั้ง

เพราะฉะนั้นการร่วมมือกับแบรนด์ใหม่ที่เติบโตในต่างประประเทศแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีสำหรับบริษัท

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็มองไปที่กู้ฉางฉิงด้วยสายตาที่หนักแน่น "เรื่องนี้ฉันสามารถตกลงได้"

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินแล้ว ความกังวลที่แบกไว้ก็ถูกปลดปล่อยลงทันที และรอยยิ้มบนใบหน้าก็เผยออกมาอย่างไม่สามารถซ่อนไว้ได้

ในขณะที่เธอกำลังเตรียมจะพูดอะไรอยู่นั้น เฟิงจิ่งเหยาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

"อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป แม้ว่าผมสัญญาว่าจะถอนจดหมายของทนายความชั่วคราว แต่เงื่อนไขคือคุณจะต้องไปเจรจาตกลงร่วมงานกันให้ได้เสียก่อน"

แน่นอนว่ากู้ฉางฉิงเข้าใจเป็นอย่างดี จึงพยักหน้าตอบว่า "ฉันทราบค่ะ วันพรุ่งนี้ผู้รับผิดชอบของทางนั้นน่าจะเดินทางมาถึง ฉันจะคอยหาโอกาสเหมาะเข้าไปพบเขา"

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาเห็นว่าเธอรู้ดีว่าควรต้องทำอย่างไร จึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ

"และเมื่อถึงเวลาคุณต้องไปพบหลี่ม่าน ผมจะแจ้งเธอไว้ล่วงหน้าเอง"

เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ กู้ฉางฉิงก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้ไม่ใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่นเสียทีเดียว

แม้ว่าชายคนนี้จะปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยในตอนแรก แต่ต่อมาเขาก็ใจอ่อนจนได้

กู้หงเซินหัวเราะพูดขึ้นเมื่อได้ฟังข่าวจากเธอ

กู้ฉางฉิงรู้สึกโมโห และก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นได้

"คุณอย่าดีใจให้เร็วไปนักเลย แม้ว่าตอนนี้เฟิงจิ่งเหยาตกลงที่จะยกเลิก แต่เขาก็บอกอีกว่า คุณอย่าหวังที่จะได้ร่วมงานกับเฟิงซื่อกรุ๊ปอีก!"

มีเพียงวิธีการตัดขาดความร่วมมือระหว่างสองบริษัทเท่านั้น เรื่องเช่นนี้จึงจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต และจะช่วยให้เธอไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีก

แม้ว่าเธอจะคิดไว้อย่างดี แต่กู้หงเซินก็ยอมไม่ได้ที่จะสูญเสียแหล่งขุมทรัพย์มหาศาลอย่างตระกูลเฟิงไปได้

"นี่คือสิ่งที่เฟิงจิ่งเหยาพูด? และแกก็ยอมรับแล้วด้วย?"

น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป และถามขึ้นด้วยเสียงทุ้มลึก

ในขณะที่กู้ฉางฉิงกำลังจะตอบกลับไปว่า ใช่ นั้น เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า "ไม่ได้ ฉันไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เราต้องรักษาความร่วมมือกับบ้านตระกูลเฟิงไว้"

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ฟังแล้วก็พูดขึ้นอย่างเย็นชาทันทีว่า

"กู้หงเซิน คุณนี่มันได้คืบแล้วจะเอาศอก!"

"ถ้าใช่แล้วจะยังไง ตอนนี้แกรีบไปบอกเฟิงจิ่งเหยาให้ชัดเจนซะด้วย!"

กู้หงเซินไม่อ้อมค้อมและพูดออกคำสั่งตรง ๆ ซึ่งทำให้กู้ฉางฉิงโกรธจนมือไม้สั่น

"เป็นไปไม่ได้! เรื่องนี้คุยจนได้ข้อสรุปแล้ว"

เธอปฏิเสธเสียงแข็ง แต่กู้หงเซินก็ไม่ได้สนใจ

"คุยจนได้ข้อสรุปแล้วก็คุยใหม่ได้ อย่าลืมว่าแม่แกอยู่ในกำมือของฉัน!"

กู้ฉางฉิงหัวเราะออกมาด้วยความโกรธให้กับคำขู่ที่ไร้ยางอายของเขา "กู้หงเซิน คุณจะต้องขู่ด้วยวิธีนี้เท่านั้นเหรอ? ถ้าใช่ ฉันก็ไม่กลัวหรอกเพราะไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว คุณจะลองแตะต้องแม่ของฉันดูก็ได้ อย่างมากเราก็ตายกันไปข้างหนึ่ง"

เมื่อพูดจบ เธอก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มเยาะ "คุณว่า ถ้าหากตระกูลเฟิงรู้ว่าพวกคุณหลอกพวกเขามาโดยตลอด พวกเขาจะปล่อยคุณไปไหม?"

เมื่อกู้หงเซินได้ยินดังนั้น น้ำเสียงก็กระด้างขึ้นทันที

"นี่แกกำลังขู่ฉันเหรอ?"

กู้ฉางฉิงพูดอย่างเย็นชา "ถ้าคุณจะเข้าใจแบบนั้นก็ได้ เพราะฉันเป็นคนพูดจริงทำจริง ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองดู!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา