มั่วหลีพูดจบ จ้องมองกู้ฉางฉิงอย่างดุดัน สายตานั้นแทบอยากจะกัดกินเธอ
กู้ฉางฉิงก็ทำสีหน้าไม่ถูก
เดิมทีเธอเจอเรื่องที่น่าโมโหในห้องวีไอพีเมื่อกี้นี้ เวลานี้ยังถูกมั่วหลีทำให้อับอายขายหน้า ฉับพลันก็โกรธขึ้นมา
"คุณตาบอดหรอ หรือว่าจงใจแกล้งทำเป็นไม่เห็นผู้หญิงคนอื่นในกลุ่มนั้น?"
มั่วหลีได้ยิน สีหน้าก็เคร่งขรึม
ยังไม่รอให้เธอเอ่ยปาก กู้ฉางฉิงกล่าวอย่างแค้นเคืองอีกครั้งว่า : "หรือว่า หรือตาข้างไหนของคุณที่เห็นฉันทำเรื่องที่น่าเสียใจต่อเฟิงจิ่งเหยาหรอ?"
"ตาทั้งสองข้างเลย!"
มั่วหลีพูดตอกกลับไป : "เลิกงานแล้วก็ไม่กลับไปประพฤติตัวสงบเสงี่ยม ยังตามผู้ชายอื่นมากินข้าวดื่มเหล้า ทำเรื่องน่าเสียใจให้กับคุณผู้ชาย!"
กู้ฉางฉิงถูกคำพูดนี้ของเธอทำให้ทั้งโกรธทั้งขำ
เธอเม้มปากเล็กน้อยแล้วพูดเย้ยหยันว่า : "คุณมั่ว คุณรู้หรือเปล่าว่าโลกนี้มีคำที่เรียกว่าเข้าสังคม?"
มั่วหลีขมวดคิ้ว สายตาจ้องมองกู้ฉางฉิง
เธอก็รู้ แต่เธอก็ไม่อาจทนดูผู้หญิงคนนี้ได้
กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ ก็เดาความคิดของเธอออก สายตาเย็นชา
"จะว่าไป ฉันออกมาเข้าสังคม คุณผู้ชายของคุณก็รู้ดี ฉันก็แปลกใจนะ เขาไม่ได้ว่าอะไร แล้วคุณมีคุณสมบัติอะไรมาก้าวก่ายฉัน จนถึงขั้นพูดจาหยาบคายกับฉันเลยหรอ?"
มั่วหลีโดนตอกหน้าหงาย ได้แต่มองกู้ฉางฉิงอย่างโกรธๆ
กู้ฉางฉิงเห็น ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา
"ฉันว่าคนที่ไม่รู้จักฐานะของตนเอง ไม่ใช่ฉันหรอก แต่เป็นคุณคุณมั่ว"
เธอกอดอกมองเหยียดหยามมั่วหลี พูดต่อว่า : "พูดตรงๆ คุณก็เป็นแค่ลูกน้องของเฟิงจิ่งเหยา ที่ถูกจัดให้มาอารักขาฉัน ในเมื่อได้รับบทบาทเช่นนี้ งั้นก็หุบปากอย่างเชื่อฟัง หากไม่เต็มใจจริงๆ ทนเห็นฉันไม่ได้ คุณก็ไปเสนอกับเฟิงจิ่งเหยาได้ว่าให้ย้ายที่อื่น!"
มั่วหลีถูกคำพูดของเธอนี้ทำให้สะเทือนใจอยู่ไม่น้อย หายใจถี่ด้วยความโกรธ ทว่าพูดโต้แย้งไม่ออก
เธอกัดฟันแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆเป็นเวลานาน แล้วพูดยิ้มเยาะว่า : "คุณอาศัยคุณผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับคุณในตอนนี้ รอเวลานานๆไป คุณผู้ชายรู้ว่าคุณเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ คุณจะเห็นคุณผู้ชายมาเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของคุณอยู่หรือไม่?"
พูดจบ เธอก็ดูเหมือนจะคิดอะไรออก พูดต่อว่า : "อย่าลืมสิ ที่คุณผู้ชายชอบพอคุณ ก็เพียงเพราะคุณอยู่ในนามภรรยาของเขา อีกทั้งคุณจะสามารถนั่งตำแหน่งภรรยานี้ได้นานแค่ไหน ฉันคิดว่าคุณรู้อยู่ในใจตนเอง ถึงอน่างไรคนในครอบครัวของคุณผู้ชายไม่ได้ชอบพอคุณทุกคน ฉะนั้นจึงไม่ค่อยสบายใจเมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน"
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ ในใจก็หม่นหมอง
หากเธอคิดว่าก่อนหน้านี้ความเป็นศัตรูของผู้หญิงคนนี้เป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ ฉะนั้นตอนนี้เธอก็รู้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ทนเห็นเธอไม่ได้ในทุกๆที่
"คำพูดนี้ของคุณมั่วทำให้ฉันได้เตือนสติ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถทำให้คนในตระกูลเฟิงทุกคนชอบได้ แต่ฉันก็เป็นคนตระกูลเฟิง เป็นภรรยาแต่งของเฟิงจิ่งเหยา"
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ สองตาจ้องมองมั่วหลีแล้วพูดว่า : "ฉันหวังว่าคุณมั่วจะเข้าใจเรื่องนี้ให้ดีดีอีกครั้ง ตราบใดที่เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้หย่ากับฉัน ภรรยาก็ยังเป็นฉันอยู่!"
มั่วหลีได้ฟังคำนี้ ดวงตาเต็มไปด้วยความริษยา
กู้ฉางฉิงเห็นแล้วก็แสร้งทำเป็นไม่เห็น
"ฉันไม่สนว่าคุณคิดอะไร ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้หย่าร้างกัน คุณสำรวมกับฉันน่าจะดีกว่า! ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับคุณ เพระเห็นแก่หน้าเฟิงจิ่งเหยา แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่โกรธนะ!"
เธอพูดจบ ก็ทำเสียงไม่พอใจเบาๆ แล้วเดินเฉียดไหล่ทั่วหลีไป
มั่วหลีมองเธที่จากไป ก็โกรธจนหน้าเปลี่ยนสี โกรธมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"นังสารเลวนี่สมควรตาย คอยดูละกัน!"
เธอลงบันไดมาอย่างดุดัน แล้วออกจากคลับเฮาส์ไป
กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าเธอออกไปแล้ว กลับไปห้องวีไอพีเหมือนเดิม
เวลานี้บรรยากาศของห้องวีไอพีกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว ทุกๆคนแค่กวาดสายตามองมองเธอ แล้วก็ทำอะไรๆต่อ
กู้ฉางฉิงรู้ว่านี่เป็นเครดิตของฟู่หยุนชวน นั่งลงข้างๆเขาแล้วขอบคุณ : "รบกวนคุณเพิ่มขึ้นเลย ถ้ารู้อย่างนี้คืนนี้ฉันก็ไม่มาหรอก"
ฟู่หยุนชวนรู้ว่าเธอไม่สบายใจ จึงพูดปลอบใจว่า: "เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติมาก ไม่เป็นไร คุณก็อย่าคิดมาก อีกอย่างพวกเขารู้แล้วว่าคุณไม่ใช่คนกลุ่มนั้น ต่อไปก็จะไม่เจราจาร่วมมือแบบนี้ คนเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่เจนโลก ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"
และความจริงก็เป็นเช่นนี้จริงๆ
"ดื่มนิดหน่อยเอง ไม่ได้ดื่มเยอะ"
เธอพิงเฟิงจิ่งเหยาอย่างขี้อ้อน ทำตัวไร้เดียงสา
สุดท้าย ขาก็อ่อน คนล้มไปที่เฟิงจิ่งเหยา
โชคดีที่เฟิงจิ่งเหยามือไวโอบเอวเธอไว้ได้ทัน ทำให้เธออิงอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง
เวลานี้กู้ฉางฉิงเลอะเลือนแล้ว เธอได้กลิ่นหอมสดชื่นบนร่างกายของเฟิงจิ่งเหยา ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
"หอมจัง คุณใช้น้ำหอมอะไร ทำไมถึงหอมกว่าฉันอีก?"
เฟิงจิ่งเหยาเห็นท่าทีที่ไร้เดียงสาของเธอนี้ ก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเล็กน้อย
"เอาล่ะ อย่าวุ่นวาย กลับห้องกับฉัน"
พูดจบ เขาโอบกู้ฉางฉิงแล้วทำท่าทางจะออกไป ใครจะรู้ว่ากู้ฉางฉิงกระบิดกระบวนไม่ยอมเดิน
"เวียนหัว ไม่อยากเดิน คุณอุ้มฉันไปได้ไหม?"
เธอลูบคลำหน้าอกเฟิงจิ่งเหยาแล้วกล่าวอย่างออดอ้อน
แต่ไหนแต่ไรเฟิงจิ่งเหยาไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้ของกู้ฉางฉิง ในสายตาก็มีความแปลกใจ แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยความเอ็นดูอย่างรวดเร็ว
"โอเค ฉันจะอุ้มคุณกลับไป"
เขาพูดจบ กู้ฉางฉิงก็ถูกอุ้มขึ้นดั่งเจ้าหญิง
กู้ฉางฉิงได้รับความพึงพอใจ มีความสุขอย่างมาก ทำในสิ่งที่ปกติเธอไม่กล้าทำ
เสียงเธอจูบ'จุ๊บๆ'บนใบหน้าของเฟิงจิ่งเหยา
เฟิงจิ่งเหยารับรู้ได้ถึงการสัมผัสบนใบหน้า ความรักและเอ็นดูในสายตาก็ยิ่งลึกซึ้งขึ้น
มั่วหลียืนอยู่ด้านหลังของคนทั้งสอง มองการกระทำซึ่งกันและกันของพวกเขา สีหน้าก็ไม่น่าดูอย่างมาก ในสายตาก็เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาอย่างรุนแรง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา