พอกู้ฉางฉิงได้ยินแบบนี้ ก็เดาได้เลยว่าเขากลับมาทำไม
กลัวก็แต่ว่าหลังจากที่ลู่ซือยวี่กลับไปฟ้องคุณนายเฟิง คุณนายเฟิงก็เลยให้เขากลับมาจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น
เธอเหลือบมองชายหนุ่มตรงหน้าและพูดอย่างใจเย็นว่า "คุณแม่ท่านว่าอย่างไรบ้างคะ?"
"คุณแม่บอกว่าคุณตีลู่ซือยวี่"
เฟิงจิ่งเหยาตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
กู้ฉางฉิงฟังแล้วยิ้มมองดูเขา
"แล้วคุณเชื่อหรือเปล่าคะ?"
เฟิงจิ่งเหยาเห็นแบบนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ผมต้องการรู้ความจริง"
เขากล่าว และมองไปที่กู้ฉางฉิงอย่างเย็นชาจนเธอชะงัก
ทีแรกเธอนึกว่า ชายคนนี้ได้ฟังเรื่องจากคุณนายเฟิงมาแล้วคงมากล่าวโทษเธอเป็นแน่
ชั่วขณะหนึ่งเธอมีความรู้สึกความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นในใจ แต่เธอก็ไม่สนใจมัน
"ความจริงก็คือลู่ซือยวี่อยากตบฉัน แต่ฉันใช้แขนกันไว้ได้ ปรากฎว่าเธอกลับสะดุดล้มลงเสียเองและหน้าผากก็กระแทกเข้ากับพื้น"
เธอกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเรียบง่าย
เฟิงจิ่งเหยาได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขาเชื่อเรื่องที่เธอพูดหรือไม่
กู้ฉางฉิงก็มองไม่ออกเช่นกัน นึกว่าเขาจะไม่เชื่อ จึงชี้ไปที่คนรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดว่า "ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณถามพวกเขาได้ เวลานั้นพวกเขาทุกคนก็อยู่กันหมด"
เฟิงจิ่งเหยามองตามมือที่เธอชี้ไป ก็เห็นคนรับใช้หลายคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีไม่สบายใจ
"ไหนลองว่ามาสิ ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"
เขาสุ่มชี้คนรับใช้คนหนึ่งและถาม
คนใช้คนนั้นกดความตื่นเต้นที่อยู่ในใจและอธิบายเหตุการณ์ว่า "ตอนแรกคุณนายกำลังจะมอบหมายงานให้พวกเรา แต่จู่ ๆ คุณหนูท่านนั้นก็เข้ามาและมอบหมายงานต่าง ๆ ให้พวกเราแทนคุณนาย ต่อมาก็เกิดมีปากเสียงกันเล็กน้อย คุณหนูคนนั้นจะใช้กำลังกับคุณนาย โชคยังดีที่คุณนายป้องกันไว้ได้"
เมื่อฟังจบ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เพียงแต่ส่งสายตาอันหนักอึ้งไปที่คนใช้คนนั้น
คนรับใช้ถูกมองจนขนลุกท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
"คุณชาย ที่ดิฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมด และตอนนั้นก็ไม่ได้มีดิฉันอยู่เพียงคนเดียว"
เฟิงจิ่งเหยามองไปที่คนอื่น ๆ
คนอื่น ๆ ก็พากันสบทบในสิ่งที่คนใช้คนนั้นบอก
"พอได้แล้ว พวกเธอลงไปเถอะ"
เมื่อฟังพวกเขาบรรยายจนจบ เขาก็โบกมือให้คนเหล่านั้นออกไป
เมื่อคนรับใช้ออกไปกันแล้ว ในห้องอาหารก็เหลือเพียงเขาและกู้ฉางฉิง
กู้ฉางฉิงนั่งอยูบนเก้าอี้ รอดูเขาจะจัดการอย่างไรต่อไป
ที่ไหนได้ เขาเพียงทิ้งท้ายว่าทานอาหารต่อเถอะ แล้วหมุนตัวจากไป
กู้ฉางฉิงมองตามไปทางทิศที่เขาออกไป ถ้าเดาไม่ผิดเขาน่าจะไปทางบ้านใหญ่แน่นอน
เธอคิดแล้วคิดอีก แต่ก็ไม่ได้ตามไป ได้แต่นั่งรอที่ห้องอาหารต่อไป
หลังจากที่เฟิงจิ่งเหยาออกไปก็ได้ตรงไปหาคุณนายเฟิง
"พี่จิ่งเหยา"
ลู่ซือยวี่เป็นคนแรกที่สังเกตุเห็นว่าเฟิงจิ่งเหยามาถึง
เวลานี้ที่หน้าผากของเธอได้ทำแผลเรียบร้อยแล้ว และด้วยทักษะการแสดงของเธอที่ทำตัวได้น่าสงสารมาก ทำให้คนทั่วไปที่พบเห็นอยากโอบกอดเธอไว้ด้วยความรักเอ็นดู
น่าเสียดายที่เฟิงจิ่งเหยาไม่ใช่คนทั่วไป
เขาเพียงแค่เหลือบมองด้วยสายตาเย็นชา แล้วรีบหันสายตาไปทางอื่น
"คุณแม่ครับ"
เพราะกู้ฉางซินเคยมีประวัติไม่ดีกับเธอ เมื่อเปรียบเทียบกับลู่ซือยวี่ที่อ่อนน้อมเชื่อฟังอยู่เสมอ แน่นอนว่าเธอต้องเชื่อสิ่งที่ลู่ซือยวี่พูดเป็นธรรมดา
"จิ่งเหยา ยัยผู้หญิงคนนั้นเอายากล่อมประสาทอะไรให้ลูกกินกันแน่ ทำให้ลูกปกป้องเธอได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่คำพูดแม่ก็ไม่ยอมเชื่อ"
เธอดุเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ลู่ซือยวี่เมื่อได้ยินก็รีบอธิบายแก้ตัว
"พี่จิ่งเหยาคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่ง เพียงแต่เห็นว่าฉางซินไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็เลยเข้าไปช่วย นึกไม่ถึงว่าจะทำให้ฉางซินไม่พอใจ และยิ่งนึกไม่ถึงว่าจะพลอยทำให้พี่จิ่งเหยาไม่พอใจไปด้วย"
เฟิงจิ่งเหยารู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของสองคนนี้ เขายิ่งไม่อยากมีปัญหากับผู้เป็นแม่
"ฉันไม่สนใจว่าเธอจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เรื่องนี้ก็ให้มันจบลงแบบนี้แล้วกัน ต่อไปถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉันห้ามซือยวี่เข้าไปที่บ้านฉัน ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะจัดการเรื่องไร้สาระของพวกเธอ"
เขาพูด และหันไปทางคุณนายเฟิง "คุณแม่ก็ด้วย ต่อไปผมจะกำชับไม่ให้ฉางซินมีเรื่องขัดแย้งกับคุณแม่เอง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมต้องขอโทษแทนเธอด้วย"
เมื่อพูดจบ เขาไม่ปล่อยให้พวกคุณนายเฟิงมีโอกาสได้แก้ต่างอะไร เพียงแต่ทิ้งท้ายไว้ว่าจะต้องไปประชุมต่อ แล้วเขาก็หันหลังจากไป
คุณนายเฟิงมองตามหลังเขาที่กำลังเดินจากไปด้วยความโมโห
ลู่ซือยวี่ยิ่งไม่พอใจ ไม่เข้าใจทำไมพี่จิ่งเหยาต้องคอยปกป้องกู้ฉางซินนางสารเลวนั่น
พวกเธอพากันโมโห แต่ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเฟิงจิ่งเหยากลับไม่ได้เชื่อคำของกู้ฉางฉิงทั้งหมด
ก่อนเขาจะออกไปนั้นได้สั่งให้พ่อบ้านเฝ้าดูกู้ฉางฉิงเอาไว้ และต้องคอยรายงานการเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของเธอให้เขารับรู้
แน่นอนว่าเรื่องนี้กู้ฉางฉิงก็ไม่รู้
ในเวลานี้เธอนั่งอยู่ที่ห้องอาหาร เตรียมใจพร้อมที่จะต้องรับกับปัญหา
ใครจะไปรู้ รอมาครึ่งวัน ก็ไม่เห็นว่าเฟิงจิ่งเหยาจะกลับมาสักที
เธออดไม่ได้ที่จะยืดคอและมองออกไปทางประตู
และในเวลานี้เอง มีคนใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเห็นเธอขยับตัว ก็กระพริบตาสองสามทีแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาเธออย่างใจกล้า
"คุณนายคะ คุณนายไม่ต้องรอคุณชายแล้วค่ะ คุณชายออกจากบ้านใหญ่ไปแล้ว ดูแล้วเหมือนจะทะเลาะกับทางนั้นไม่เบาเลยทีเดียว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา