สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 84

สองวันผ่านไปอย่างสงบสุข และงานเลี้ยงวันเกิดของลู่ซือหยี่ก็เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว

สถานที่ถูกตกแต่งได้อย่างสวยงามตามที่เฟิงจิ่งเหยาได้ให้สัญญาไว้ ทำให้ลู่ซือหยี่ที่ยิ่งเห็นก็ยิ่งแน่วแน่ในแผนการณ์ของเธอ

ในที่สุดวันนี้ที่เป็นวันเกิดของเธอก็มาถึง

แม้จะบอกว่าคุณหนูตระกูลลู่นั้นเป็นเพียงแขกในบ้านตระกลูเฟิง แต่ตระกูลผู้ร่ำรวยทั่วทั้งเมืองต่างก็ให้เกียรติมาร่วมงาน

ในงานเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่มาก แขกเหรื่อมากันอย่างคับคั่ง

รถหรูทุกชนิดถูกจอดเรียงคิวยาวอยู่นอกประตู

กู้ฉางฉิงสวมเดรสยาวแนบเนื้อพอดีตัวสีม่วงอ่อน และแต่งหน้ารับกับชุด เดินเข้าบ้านใหญ่มาพร้อมกับเฟิงจิ่งเหยา

วันนี้เฟิงจิ่งเหยาก็ยังคงสวมสูทสีดำตามเคย แต่ก็ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อเลยเมื่ออยู่บนตัวเขา

ร่างที่สูงเรียว บวกกับฐานะสูงส่งราวพระราชาที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเกรงกลัวตั้งแต่แรกเห็น

ตรงข้ามกับกู้ฉางฉิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งเขาโดดเด่นเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งไม่เป็นที่สะดุดตามากเท่านั้น ในสายตาของผู้คนมีเพียงเฟิงจิ่งเหยาเท่านั้นที่ราวกับเป็นเทพบุตร

ลู่ซือหยี่ก็สังเกตเห็นพวกเขาทั้งสองคนเช่นกัน และเธอก็ไม่ได้สนใจกู้ฉางฉิง แต่กลับจ้องไปที่เฟิงจิ่งเหยาด้วยสายตาละโมบ ลืมสนใจแม้กระทั่งพ่อแม่ที่กำลังคุยกับเธออยู่

คุณแม่ลู่มอง เธอจะไม่รู้ความคิดลูกสาวของตัวเองได้อย่างไร

แววตาของเธอเป็นประกาย จากนั้นเธอก็เผยรอยยิ้มสวยงามและหันมาพูดคุยกับคุณนายเฟิง

"หลายปีมานี้ ลำบากให้คุณต้องมาดูแลซือหยี่แทนจริง ๆ"

คุณนายเฟิงตอบด้วยรอยยิ้ม "ลำบากที่ไหนกัน ซือหยี่เด็กคนนี้เป็นเด็กดีน่ารักมาตลอด คุณนายลู่ต่างหากที่อย่ามาโทษว่าถูกเราแย่งซือหยี่ไปก็แล้วกัน"

"ไม่แน่นอนค่ะ พวกเราก็หวังว่าจะมีคนรักและเอ็นดูซือหยี่เหมือนเรา"

ทั้งสองคุยไปหัวเราะไป ส่วนคุณพ่อลู่กับเฟิงซู่ก็คุยเรื่องธุรกิจกันอยู่ที่อีกด้านหนึ่ง

เมื่อกู้ฉางฉิงเข้ามาพร้อมกับเฟิงจิ่งเหยา และเห็นเข้ากับภาพที่กลมเกลียวนี้ ดวงตาก็เต็มไปด้วยประกายให้ความสับสน

เห็นท่าทีสนิทสนมของคุณนายเฟิงที่มีต่อพวกเขาแล้ว คนที่ไม่รู้ก็คงจะเข้าใจว่าบ้านตระกูลลู่เป็นทองแผ่นเดียวกับพวกเขาแล้วแน่ ๆ

เธอคิดกับตัวเอง แล้วหันไปเห็นลู่ซือหยี่

ก็พบว่าเธอกำลังส่งสายตาที่เปี่ยมด้วยความหลงใหลไปทางเฟิงจิ่งเหยาอย่างไม่สามารถปกปิดได้

ท่ามกลางผู้คนมากมายขนาดนี้เธอช่างไม่กลัวใครจะมาเห็นเข้ากับปฏิกิริยานี้เสียจริง

ขณะที่กำลังคิด ก็ได้ยินเสียงของเฟิงจิ่งเหยากล่าวทักทาย

"คุณพ่อ คุณแม่"

เฟิงจิ่งเหยาทักทายพ่อแม่ของตัวเอง จากนั้นมองไปที่บ้านตระกูลลู่

"คุณลู่ คุณนายลู่ ซือหยี่"

ไม่รู้ว่าเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของลู่ซือหยี่หรือเปล่าเขาจึงพูดกับเธอเพิ่มขึ้นอีกว่า "สุขสันต์วันเกิดนะ"

"ขอบคุณค่ะพี่จิ่งเหยา"

เมื่อลู่ซือหยี่ได้รับคำอวยพรจากเฟิงจิ่งเหยา ความสุขก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าอย่างไม่อาจจะปิดบังไว้ได้

เธอขอบคุณเขาอย่างเขินอาย รอยยิ้มปรากฎขึ้นให้เห็นบนใบหน้าของทั้งสองครอบครัว

เมื่อกู้ฉางฉิงเห็นดังนั้น ก็รีบกล่าวคำทักทายตามด้วย

พ่อแม่ลู่มองไปที่เธอ

แม้จะเป็นการพบกันครั้งแรก แต่พวกเขาก็รู้จักกู้ฉางฉิงเป็นอย่างดี

เพราะลู่ซือหยี่เล่าเรื่องเธอให้พวกเขาฟังอยู่ไม่น้อย และผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนที่ชิงเอาการแต่งงานที่พวกเขาหมายตาไว้ไป

พวกเขาก็หุบยิ้มบนใบหน้า พยักหน้าทักทายกู้ฉางฉิงอย่างเฉยเมยว่า "คุณกู้"

กู้ฉางฉิงไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีเฉยเมยของพวกเขา เธอหันมายิ้มและอวยพรลู่ซือหยี่ "สุขสันต์วันเกิดนะคะน้องซือหยี่"

"ขอบใจ"

ลู่ซือหยี่ตอบกลับอย่างไม่เต็มใจ

บรรยากาศก็เย็นขึ้นมาทันใด

คุณนายเฟิงเข้าใจดีว่าเป็นเพราะอะไร เธอมองไปที่กู้ฉางฉิง เหลืบตาลงและพูดว่า "ฉางซิน วันนี้มีแขกเหรื่อมาไม่น้อยเลย เธอออกไปดูแลทักทายแขกแทนฉันหน่อยนะ"

เธอเดินตามนายท่านและยืนดูท่ามกลางฝูงชนอยู่ด้านล่างเวที และเห็นคู่สามีภรรยาตระกูลเฟิงและตระกูลลู่ขึ้นเวทีมาพร้อมกับลู่ซือหยี่และเฟิงจิ่งเหยา

ภาพที่กลมเกลียวนั้นราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านล่างเข้าใจผิดไปไม่น้อย

"คุณชายเฟิงกับคุณหนูตระกลูลู่ช่างเหมาะสมกันจริง ๆ ตอนนี้พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายได้พบปะกัน ประกอบกับความใกล้ชิดสนิทสนมของคุณชายเฟิงกับคุณหนูลู่ งานแต่งของทั้งสองเห็นทีคงอีกไม่นาน"

"ฉันก็ว่าใช่ ถ้าตระกูลลู่กับตระกูลเฟิงดองกันเมื่อไหร่ จะเป็นการรวมตัวที่แข็งแกร่งมาก ต่อไปในเมืองหลวงแห่งนี้ก็คงจะไม่มีใครเหนือกว่าตระกูลเฟิงได้อีก"

"ฉันล่ะอิจฉาคุณชายเฟิงซะจริง ๆ ทั้งประสบความสำเร็จในชีวิต การงาน ชื่อเสียง และรูปร่างหน้าตา ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลย"

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นจากทุกทิศทาง เมื่อเฟิงเทียนหรูได้ฟังแล้ว ก็มีสีหน้าที่เข้มขึ้น และเริ่มมีอารมณ์โกรธขึ้นมา

เมื่อกู้ฉางฉิงเห็นดังนี้ก็รีบปลอบประโลมว่า "คุณปู่อย่าโกรธไปเลยนะคะ คนพวกนี้เขาไม่รู้ความจริง เป็นธรรมดาที่เขาจะพูดกันแบบนี้ ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเขารู้ความจริง ก็จะไม่เป็นแบบนี้แน่ค่ะ"

เพราะการแต่งงานของกู้ฉางซินกับเฟิงจิ่งเหยานั้นเกิดจากการตัดสินใจโดยพลการของเฟิงเทียนหรู ไม่ได้มีการเปิดเฟยต่อสาธารณะชน จึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

ประกอบกับคนในบ้านตระกูลเฟิงที่นอกจากเฟิงเทียนหรูแล้วก็ไม่มีใครชอบกู้ฉางซิน เรื่องนี้จึงยิ่งปิดสนิทจากคนภายนอก

เมื่อเฟิงเทียนหรูคิดถึงจุด ๆ นี้ ก็มองไปที่กู้ฉางฉิงอย่างรู้สึกผิด แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ฉางซิน ฉันทำให้หนูลำบาก"

กู้ฉางฉิงกลับไม่ได้สนใจ และพูดเปลี่ยนเรื่องตลก ทำให้ชายชรามีความสุขและยิ้มได้อีกครั้ง

แต่รอยยิ้มที่เพิ่งจะปรากฎได้ไม่นานก็ถูกเก็บกลับไปอีกครั้ง

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เฟิงจิ่งเหยากับลู่ซือหยี่กล่าวเปิดงานจบแล้ว และพวกเขาก็กำลังเดินมาทางทั้งสองคน

"คุณปู่เฟิง"

"คุณปู่ ฉางซิน"

ทั้งสองทักทายอย่างพร้อมเพรียงกัน

เฟิงเทียนหรูมองไปที่ทั้งสองด้วยสายตาเย็นชา แล้วจ้องไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างโกรธเคือง โดยไม่ได้สนใจลู่ซือหยี่

"นี่แกยังรู้จักฉางซินอยู่เหรอ ฉันนึกว่าแกลืมไปแล้วว่ายังมีเมียอยู่"

เฟิงจิ่งเหยารู้สึกงงไปกับคำตำหนิอย่างกะทันหันนี้ และมองไปที่ชายชราอย่างไม่เข้าใจท่าน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา