สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 92

คุณนายเฟิงมองเขาที่กำลังเดินจากไป ตบโต๊ะด้วยความโกรธ

“มันกล้าเตือนฉันงั้นหรอ!”

ลู่ซือยวี่เห็นเช่นนี้ก็รีบเอาอกเอาใจ

“คุณน้าหมิง พี่จิงเหยากำลังโมโหอย่าถือสาเลยนะคะ ทำให้ตัวเองหงุดหงิดเปล่าๆ”

พูดจบ เธอก็ทำหน้ารู้สึกผิดเม้มปากและพูดว่า: “ที่จริงแล้วเป็นความผิดของฉันเอง ถ้าฉันไม่หุนหันพลันแล่นเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ ขอโทษนะคะคุณน้าหมิงที่ทำให้ต้องเป็นห่วง”

คุณนายเฟิงเห็นท่าทีเธอกำลังเศร้า แม้ว่าเธอกำลังโกรธอยู่แต่ก็ปลอบและพูดว่า: “ยัยเด็กบ้า มันไม่ผิดที่แกหรอก ทุกคนก็มีพลังแอบชอบใครสักคน แกก็แค่ไปต่อสู้เพื่อสิ่งที่อยากได้”

ลู่ซือยวี่ได้ยินแบบนี้แต่ก็ยังรู้สึกแย่และพูดว่า: “แต่พี่จิงเหยาปฏิเสธ แล้วยังจะไล่ฉันออกจากบ้านอีก ฉันไม่อยากไปเลยคุณน้าหมิง ฉันไม่ไปจากบ้านนี้ได้ไหม ช่วยอ้อนวอนพี่จิงเหยาให้ฉันได้ไหม? บอกกับเขาว่า ฉันผิดไปแล้วครั้งหน้าจะไม่ทำอีก”

คุณนายเฟิงได้ยินเช่นนี้ ก็เลยเอามือไปแตะที่ไหล่ของเธอและตบเบาๆ

“ซือยวี่ ขอแค่มีโอกาส น้าหมิงจะรับเธอกลับมาอีก”

เฟิงจิงเหยาไม่รู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่

เขาออกมาจากบ้านใหญ่ ก็ตรงกลับไปที่บ้านใหม่

เมื่อกลับถึงห้อง เขาก็เห็นกู้ฉางชิงกำลังนั่งปักผ้าอยู่ข้างระเบียง

ภายใต้แสงระยิบระยับ ทำให้เขารู้สึกมีช่วงเวลาที่สงบ

ทันใดนั้นกู้ฉางชิงสังเกตเห็นว่าในห้องมีมากกว่าหนึ่งคน ทำให้เธอตกใจจนลุกจากเก้าอี้

"ใครอะ?"

เธอถามด้วยความเย็นชา ไม่ทันระวังมือไปโดนบนโต๊ะปักผ้าและถูกเข็มทิ่มแทง เจ็บจนร้องออกมา

เฟิงจิงเหยาตกใจเสียร้องของเธอ ยังไม่ทันได้คิดทบทวนความคิดของเขาก็รีบถามด้วยความกังวลว่า: “เป็นอะไรมากไหม?”

ในขณะที่เขากำลังถามก็จับมือกู้ฉางชิงขึ้นมาดูและตรวจเช็คอย่างละเอียด

ก็เห็นบนนิ้วสีขาวนวลผ่องของเธอหยดเต็มไปด้วยเลือด

“ทำไมไม่ระวังเลย?”

มองไปที่หยดเลือดและขมวดคิ้ว

กู้ฉางชิงได้ยินจึงตั้งสติกลับมา

เธอมองเลือดที่กำลังหยด ตกใจรีบยกมือขึ้นและเอาเข้าปากดูดนิ้วไว้

“ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่โดนเข็มจิ้มนิดเดียว”

เฟิงจิงเหยาไม่เชื่อคำที่เธอพูด

“รอแปปนึง ฉันจะไปเอากล่องยา”

พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไป

ไม่นานนัก เขาก็กลับมาพร้อมกับกล่องยา ล้วงมือเข้าไปเอาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อและพาสเตอร์ออกมา

“ยื่นมือมา”

น้ำเสียงนุ่มนวลธรรมชาติ ทำให้กู้ฉางชิงตะลึงและยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว

เฟิงจิงเหยาจับมือเธอล้างแผลให้อย่าระมัดระวังและติดพาสเตอร์ให้

“ได้รับบาดเจ็บ คืนนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว รีบพักผ่อนนอนเช้าๆ”

เมื่อทำแผลเสร็จเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองกู้ฉางชิง

กู้ฉางชิงวิ่งแล่นเข้ามาในดวงตาของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยบลัชออนสีแดงอ่อนทำให้หัวใจเขาเต้นเร็วผิดจังหวะ

“ไม่.....เป็นไร ชุดนี้กำลังจะเสร็จแล้วเหลือแค่ปักอีกไม่กี่จุด ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว “

เธอเดินไปที่โต๊ะทำงานและปกปิดใบหน้าที่ไม่สบายใจเอาไว้

ในใจรู้สึกกระสับกระส่าย

เธอพยายามให้ตัวเองใจเย็น ไม่สนใจสิ่งที่กำลังมองอยู่ข้างหลังและกลับไปที่ทำงานต่อ

เฟิงจิงเหยาไม่ได้สังเกตเห็นความแปลกของเธอ แต่ยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้จริงจัง และดื้อรั้นทำให้คนหลง

เขาเดินไปหากู้ฉางชิงและจับแก้มเธอโดยไม่รู้ตัว

สัมผัสที่เย็บเฉียบทำให้กู้ฉางชิงสะดุ้ง รู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ข้างๆ ทำให้เขินแก้มแดงไปทั้งหน้า

“มี......มีอะไรหรอ?”

เธอมองไปที่เฟิงจิงเหยา

แต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับเธอด้วย

หลังทานข้าวเสร็จ เธอกำลังจะไปที่บริษัท

คิดไม่ถึงว่าเดินออกถึงประตู ก็เห็นลู่ซือยวี่ยืนอยู่พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระมองไปรอบๆด้วยความไม่พอใจ

จะว่าไปเธอก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว อยู่ๆต้องออกไปกระทันหันใครก็คงทำใจไม่ได้ที่ต้องจากไป

“คุณหนู ฉันไม่อยากให้คุณจากไป”

สาวใช้ของเธอดึงเธอเอาไว้และพูดด้วยน้ำตา

ลู่ซือยวี่ดวงตาเต็มไปด้วยความซับซ้อน เธอเองก็ไม่อยากจากไป

“วางใจเถอะ ฉันจะคิดวิธีกลับมาให้ได้ แกอย่าลืมเรื่องที่ฉันบอกไว้ล่ะ”

“คุณหนูเชื่อใจเถอะ ฉันจะช่วยคุณเฝ้ามองนางผู้หญิงคนนั้นไว้อย่างดี”

สาวใช้พยักหน้าตอบด้วยความหนักแน่น และด้วยท่าทางนี้ ทำให้เธอเห็นกู้ฉางชิง สีหน้าเปลี่ยนทันที กัดฟันและพูดว่า: “คุณหนู ผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างหลัง!”

ลู่ซือยวี่ได้ยินเช่นนี้ก็หันกลับไปมอง

ก็เห็นกู้ฉางชิงที่กำลังเดินมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สะใจ สะดุดตาเธอ

นังผู้หญิงคนนี้ตอนนี้คงได้ใจมากสินะ?

เธอจ้องไปที่กู้ฉางชิงอย่างขมขื่นเธอเธอกำหมัดแน่น จนเล็บหยิกเข้าที่เนื้อก็ไม่รู้สึกอะไร

กู้ฉางชิงสังเกตเห็นสายตาที่ขุ่นเคืองนี้ เขาตั้งใจที่จะไม่สนใจและเดินตรงไปที่ประตู

คาดไม่ถึงว่าคุณนายเฟิงจะเดินออกมาจากบ้านใหญ่ ใบหน้าขมวดคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี: “กู้ฉางซิน แกมาที่นี่ทำไม? มาดูตลกหรอ?”

กู้ฉางชิงถูกว่าอย่างไม่มีเหตุผล มองไปที่ลู่ซือยวี่ก็เข้าใจได้ว่าที่คุณนายเฟิงพูดนั้นหมายถึงอะไร ทำให้เธอพูดไม่ออก

“แม่ ประตูมันอยู่ทางนี้ฉันจะออกไปก็คงต้องผ่านประตูนี้ ไม่ได้มาหาพวกเธอหรอก”

เธออธิบายด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่พวกเขาสองคนก็ไม่เชื่อ

ลู่ซือยวี่เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวพูดข้างๆเธอว่า: “กู้ฉางซิน แกได้ใจไปก่อนเถอะ ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้หรอกแล้วเราจะได้เห็นดีกัน ฉันจะรอดูว่าแกจะอยู่ที่นี่ได้อีกเท่าแค่ไหน!”

พูดจบ เธอก็หยิบกระเป๋าสัมภาระขึ้นรถ จากไปอย่างสง่าผ่าเผย......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา