ณ สนามบินเมืองหนานเฉิง
โจวฉือเซินล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาในขณะที่กำลังเดินออกไปข้างนอก
หลินหนานเดินตามเขาไป และหลังจากที่รับโทรศัพท์สายหนึ่งเสร็จแล้ว เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและกระซิบว่า "ประธานโจว เย็นนี้คุณหนูอานอานไปที่สตูดิโอของคุณนายแล้วครับ"
คิ้วที่สวยงามของชายหนุ่มขมวดเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกเหมือนอยู่ในฤดูหนาวเล็กน้อยว่า "เธอไปทำอะไร"
"คุณหนูอานอานพาคนจากตระกูลโจวไปด้วยครับ น่าจะต้องการที่จะไปก่อเรื่องวุ่นวาย แต่ว่า......"
โจวฉือเซินหยุดเดินชั่วคราว แล้วเหลือบมองไปด้านข้างเพื่อมองเขา แล้วพูดว่า "พูดมา"
หลินหนานจึงพูดขึ้นมาทันทีว่า "ประธานเฉิงปรากฏตัวขึ้นมาพอดี และได้ขัดขวางคุณหนูอานอานเอาไว้แล้วครับ"
โจวฉือเซินเม้มริมฝีปาก และขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างนั้น ก็มีข้อความเด้งขึ้นในโทรศัพท์สองสามข้อความ
ข้อความล่าสุดคือข้อความที่เจียงย่านส่งมาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
ในภาพ หร่วนซิงหว่านกับเฉิงเว่ยกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารกันสองคน และกำลังพูดคุยหัวเราะกันเหมือนกับไม่มีใครอยู่ในร้านเลย
โจวฉือเซินก็บีบมือที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่เอาไว้อย่างแน่นหนา แล้วข้อต่อกระดูกโผล่ขึ้นมาจนเห็นเป็นสีขาวๆ
หลินหนานจึงพูดหยั่งเชิงดูว่า "ประธานโจวครับ?"
โจวฉือเซินพูดอย่างเย็นชาว่า "กลับบ้านตระกูลโจว"
"ครับ"
ระหว่างทางกลับไป โจวฉือเซินได้มองออกไปนอกหน้าต่างอยู่ตลอดเวลา ผ่านไปสักพักจึงถามขึ้นมาว่า "เรื่องที่ผมให้คุณตรวจสอบได้ผลลัพธ์แล้วหรือยัง?"
หลินหนานพยักหน้า แล้วพูดว่า "แม้ว่าหลักฐานจะถูกนายหญิงจัดการเกือบหมดแล้วก็ตาม แต่ผมได้หาคนที่โทร120 ในตอนนั้นเจอแล้วครับ ตามที่เธอพูดมาทั้งหมด ในตอนนั้นเป็นตอนที่คุณนายตกลงมาจากบนบันไดของห้างสรรพสินค้า ซึ่งตอนที่เธอเห็น บริเวณโดยรอบมีแค่คุณนายเพียงคนเดียว ดังนั้นก็เลยไม่รู้ว่าคุณนายเดินพลาดเองหรือว่าถูกใครบางคนผลักลงไป แต่คุณหนูอานอานก็ไปต่างประเทศในคืนที่เกิดเรื่องกับคุณนายเลยนะครับ ผมคิดว่า......"
โจวฉือเซินไม่ได้พูดอะไรสักคำ และบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็มีความเย็นชาและน่าเกรงขามปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถโรลส์-รอยซ์สีดำค่อยๆขับเข้าไปในประตูใหญ่ที่แกะสลักลายอย่างช้าๆ แล้วจอดอยู่ข้างๆสวนดอกไม้
เมื่อท่านใหญ่โจวได้ยินคนรับใช้พูดว่าโจวฉือเซินกลับมาแล้ว ความไม่พอใจก็แว็บผ่านขึ้นมาบนใบหน้าของเขา "มันจะกลับมาอีกทำไม"
นับตั้งแต่หลังจากที่หร่วนซิงหว่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ท่านใหญ่โจวก็เห็นว่าความหวังของตัวเองได้สูญสลายไปแล้ว เขาก็เลยขี้เกียจที่จะไปประคับประคองสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชายที่เหมือนกับกำลังเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆนั้นกับโจวฉือเซิน
เรื่องที่เขาเสียใจที่สุดในชีวิต ก็คือหลังจากที่โจวจู้นเหนียนอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงแรกๆ เขาได้พยายามหักล้างความคิดเห็นของทุกคนและไปรับโจวฉือเซินกลับมาอยู่ด้วย
ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาก็คงไม่ต้องสิ้นเปลืองความคิดในการไปแย่งเอาโจวซื่อกรุ๊ปกลับคืนมามากขนาดนี้หรอก
ท่านใหญ่โจวสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง แล้วกระทุ้งไม้เท้าออกไปจากห้องทำงาน
ทันทีที่เขาเพิ่งเดินไปถึงหน้าประตูทางเข้าห้องทำงาน เขาก็เห็นคนสองสามคนขึ้นไปชั้นบน
เมื่อเห็นดังนั้น ท่านใหญ่โจวก็ขมวดคิ้วแน่น แล้วมองไปทางโจวฉือเซินที่ยืนอยู่หน้าประตูและพูดว่า "นี่แกจะทำอะไร?"
โจวฉือเซินพูดอย่างเฉยเมยว่า "ก็คิดบัญชีเมื่อสามปีก่อนไงครับ"
ท่านใหญ่โจวพูดว่า "คิดบัญชีอะไร! ตอนนี้แกยังเที่ยวก่อความวุ่นวายไม่พออีกเหรอ คนที่บอกว่าอยากเกี่ยวดองกับตระกูลหลินคือแกนะ และคนที่ถอนหมั้นชั่วคราวก็ยังเป็นแกอีก ตอนนี้ก็พอได้แล้ว แกก่อสถานการณ์ที่มันวุ่นวายจนน่าอายอย่างนั้น แกจะให้ฉันไปอธิบายกับตระกูลหลินยังไง!"
โจวฉือเซินพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยว่า "เหรอครับ ผมยังนึกว่าระยะนี้คุณกับตระกูลหลินคุยกันได้ไม่เลวซะอีก"
เมื่อถูกเขาเปิดโปงแบบนี้ ท่านใหญ่โจวก็ได้ได้รู้สึกเขินอายอะไร เขาเพียงแต่ลูบหัวไม้เท้า แล้วพูดว่า "งั้นฉันจะให้แกไปจัดการปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลังให้เรียบร้อยซะ!"
ถึงแม้ว่าท่านใหญ่โจวจะไม่ชอบโจวอานอานมากนัก แต่อย่างไรเสียเธอก็แซ่โจว เธอถูกคนตบตีมาแบบนี้ ถ้าหากพูดเรื่องออกไปก็จะทำให้ตระกูลโจวเสียหน้าได้เช่นกัน
ดังนั้นในเวลาเช่นนี้ เขาจะต้องปกป้องเธออย่างแน่นอน
ท่านใหญ่โจวจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมออกมาว่า "อานอานต่างหากล่ะที่เป็นคนที่ถูกรังแก ทำไมแกถึงไม่ไปคิดบัญชีกับหร่วนซิงหว่าน วิ่งมาหาเธอทำไมฉือเซิน แก......"
โจวฉือเซินพูดตัดบทเขาว่า "ผมพูดไปแล้ว ว่าผมจะมาคิดบัญชีของเมื่อสามปีก่อนไงครับ"
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของโจวอานอานก็เบิกกว้างขึ้นทันที และความรู้สึกเย็นยะเยือกก็ลอยขึ้นมาจากด้านหลัง
สามปีก่อน......
หรือว่าเขาจะรู้แล้ว!
ยังไม่ทันรอให้ท่านใหญ่โจวเอ่ยปากพูดอะไร โจวอานอานก็พูดเสียงแหลมขึ้นมาว่า "หร่วนซิงหว่านเป็นคนบอกพี่ถูกต้องไหมคะ พี่จะเชื่อเธอไม่ได้เด็ดขาดนะคะ! ผู้หญิงคนนั้นสามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้แต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลโจว นี่ก็เป็นหนึ่งในแผนการของเธอเช่นกัน เธอจงใจทำ เธอก็แค่อยากจะแก้แค้นเท่านั้น!"
โจวฉือเซินมองเธอด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย "งั้นเธอพูดมาสิ ว่าทำไมเขาถึงต้องการจะแก้แค้นเธอ"
"ฉัน......"
ในเวลานี้โจวอานอานตื่นตระหนกไปหมดแล้ว ในชั่วขณะหนึ่งเธอไม่รู้เลยว่าจะแก้ตัวอะไรดี จึงได้แต่พูดอย่างร้อนรนว่า "พี่ก็รู้หนิว่า เธอแค้นตระกูลโจว แค้นทุกคนในตระกูลโจว ดังนั้นเธอก็เลยอยากจะเริ่มลงมือจากฉันก่อน ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆนะคะ เรื่องนั้น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลยสักนิด เป็นเพราะตัวของเธอเอง จริงๆแล้วเธอไม่ได้ท้องจริงอยู่แล้ว เธอจะต้องยัดเยียดความผิดให้ฉันอย่างแน่นอน ฉันไม่เคยทำอะไรเลยนะคะ!"
ท่านใหญ่โจวได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นขึ้น แล้วพูดว่า "อานอาน เธอทำอะไรลงไปอย่างนั้นหรอ?"
เมื่อเห็นฟางช่วยชีวิตนี้อยู่ตรงหน้า โจวอานอานก็รีบคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้ แล้วพูดว่า "น้าเขยคะ หนูไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ น้าเชื่อหนูนะ หนูไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนทำทั้งหมด เป็นเพราะว่าเธอแค้นตระกูลโจว เธอก็เลยอยากจะใส่ร้ายหนู!"
โจวฉือเซิน จึงพูดอย่างเฉยเมยว่า "เธอคิดมากไปแล้ว หร่วนซิงหว่านก็ไม่ได้บอกอะไรฉันเลยเหมือนกัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...