ห้านาทีต่อมา หลินหนานก็ขับรถมาจอดอยู่ด้านข้าง แล้วลงรถเพื่อออกไปเปิดประตูเบาะหลังอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่โจวฉือเซินวางหร่วนซิงหว่านลงไปแล้ว เขาก็เดินอ้อมไปขึ้นรถอีกด้านหนึ่ง
ตอนที่หลินหนานกำลังคิดจะเข้าไปในระบบนำทาง เขาก็คิดถึงบทเรียนในครั้งก่อน จึงกระแอมไอแล้วถามเสียงเบาๆว่า "คุณหร่วนครับ?"
หลังจากที่หร่วนซิงหว่านแจ้งที่อยู่ด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมยแล้ว เธอก็เอนตัวไปพิงที่มุม แล้วหลับตาลง
เวลาผ่านไปไม่เท่าไหร่ เธอก็รู้สึกได้ว่ามีเสื้อผ้ามาคลุมอยู่บนร่างกายของเธอ
หร่วนซิงหว่านไม่ขยับเขยื้อน และไม่อยากคุยกับเขาด้วย เธอจึงเพียงแต่หันข้างเล็กน้อยและหันหลังให้เขา
โจวฉือเซินสั่งการว่า "ออกรถได้"
"ครับ"
ระหว่างที่เดินทางกลับ ภายในรถเงียบมากมาตลอดทางจนโจวฉือเซินรู้สึกว่าหร่วนซิงหว่านเหมือนจะหลับไปแล้วจริงๆ
เขาจ้องมองดูเธออย่างเงียบๆ และนึกถึงคำถามเหล่านั้นที่เธอเพิ่งถามไปขึ้นมา
แม้ว่าสถานการณ์เล็กๆน้อยๆนั้นจะดีขึ้นกว่าตอนแรกมากแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถรับรองได้ว่า ต่อจากนี้ไปจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมาอีก
รออีกสักครู่ ถ้าไม่มีเรื่องเล็กๆน้อยๆแล้ว เขาก็จะส่งเขาไปอยู่ข้างๆเธอ ในทางกลับกัน เธอก็จะได้ไม่ต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้อีกด้วย
ราวกับว่าเธอรู้สึกได้ถึงสายตาของเขา เดิมทีเธอก็เหมือนกับคนที่หลับไปแล้วอยู่แล้ว เธอจึงยื่นมือออกจากในเสื้อ แล้วดึงเสื้อขึ้นมาคลุมศีรษะเอาไว้
โจวฉือเซิน "......"
เขาเม้มมุมปาก แล้วถอนสายตากลับไป
หลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถก็ได้จอดอยู่ที่ชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์
ในท้ายที่สุดหลินหนานก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาทำลายบรรยากาศที่อึมครึ้มภายในรถนี้ว่า "คุณหร่วนครับ ถึงแล้วครับ"
คนที่ถูกเสื้อคลุมเอาไว้ขยับตัวไปมา หลังจากนั้นก็ถอดเสื้อออกแล้วลุกขึ้นมานั่ง และพูดด้วยเสียงที่เฉยเมยมากออกมาว่า "ขอบคุณค่ะ"
หร่วนซิงหว่านเปิดประตูรถออก และในขณะที่กำลังจะลงจากรถ เสียงของโจวฉือเซินก็ดังมาจากด้านหลังว่า ""พรุ่งนี้ผมไม่อนุญาตให้คุณไป"
เมื่อได้ยินน้ำเสียงนี้ของเขา อารมณ์ของหร่วนซิงหว่านก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพูดว่า "ก็ฉันจะไป!"
พอพูดจบ เธอก็ปิดประตูเสียงดังปัง แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ในขณะที่โจวฉือเซินกำลังมองเงาด้านหลังของเธอ เขาก็กัดฟันด้วยความโมโห
......
เพ้ยซานซานรออยู่ที่บ้านเกือบทั้งวันแล้ว ก็ไม่เห็นหร่วนซิงหว่านกลับมาเลย โทรศัพท์ไปหาเธอก็ไม่รับสาย เธอร้อนใจจะตายอยู่แล้ว ในขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวจะออกไปตามหาข้างนอกดูอีกที ประตูกลับถูกเปิดออกมาเสียแล้ว
เพ้ยซานซานเดินเข้ามา แล้วถามว่า "ซิงซิง เธอไปไหนมา.....แล้วรองเท้าเธอล่ะ?"
หร่วนซิงหว่านส่ายหน้าไปมา แล้วพูดว่า "ใส่ไม่สบายก็เลยทิ้งไปแล้ว"
"แล้วเธอก็เดินกลับมาแบบนี้น่ะหรอ? ข้างนอกหิมะใกล้จะตกแล้ว เธอ......"
"ไม่เป็นไรหรอกก็แค่ขึ้นไปบนตึกแบบนี้สักพักเท่านั้นเอง แล้วก็นั่งรถกลับมา" หร่วนซิงหว่านพูด "ซานซาน ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ"
เพ้ยซานซานพยักหน้าซ้ำๆ แล้วพูดว่า "ได้ๆ เธอรีบไปเถอะ ฉันจะไปที่ครัวและทำซุปร้อนๆมาให้เธอนะ"
เมื่อทำซุปเดือดไปได้ครึ่งทางแล้ว เพ้ยซานซานก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา เธอจึงดับไฟ แล้ววิ่งไปเปิดประตู
และคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็คือDanielนั่นเอง
หลังจากที่เพ้ยซานซานตกตะลึงไปแล้วครู่หนึ่ง เธอก็ยืนพิงประตู แล้วกล่าวทักทายเขาว่า "Hello~ เราเจอกันอีกแล้วนะคะ"
Danielพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดว่า "ผมได้ยินเฉิงเว่ยบอกว่า พวกคุณเป็นเพื่อนเขาเหรอครับ?"
"อ่า......ใชค่ะ พวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันค่ะ" เพ้ยซานซานพูดขึ้นมาอีกว่า "คุณกับเขารู้จักกันได้อย่างไรคะ?"
"ออสเตรเลีย"
เพ้ยซานซานตกตะลึงไปสักพักแล้วจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา เขาบอกว่าสาเหตุที่พวกเขาสองคนรู้จักกันน่าจะเป็นตอนที่เฉิงเว่ยไปเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่ออสเตรเลีย
เพ้ยซานซานรักษารอยยิ้มเอาไว้ ทันใดนั้นก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงเอามือลง แล้วพูดว่า "คุณอยากจะ... เข้ามานั่งสักหน่อยไหมคะ?"
"ไม่ล่ะครับ" Danielกวาดตามองเข้าไปในบ้าน สักพักหนึ่งจึงพูดขึ้นมาว่า "ครั้งที่แล้วคุณเคยพูดว่า คุณอยู่กับเพื่อนใช่ไหมครับ?"
"ใช่ค่ะ เฉิงเว่ยไม่ได้พูดถึงเธอให้คุณฟังเหรอคะ"
"พูดถึงครับ"
"OK ขอโทษที เมื่อกี้ฉันลืมถามน่ะ" หลังจากที่หยุดพูดไปพักหนึ่ง Danielก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ถ้าเขารู้ว่านายกับภรรยาเก่าของ โจวฉือเซินสนิทสนมกันมากขนาดนี้ เขาคงไม่มีความสุขมากแน่ๆ"
"ฉันจะหาเวลาไปบอกเขาเอง"
"ตามใจนายสิ ยังไงซะฉันก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ผ่านไปอีกสักพักเขาก็จะกลับมาแล้ว"
......
พอปิดประตูแล้ว เพ้ยซานซานก็พูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า "ซิงซิง พรุ่งนี้ฉันนัดเขาไปทานข้าวล่ะ และเขาก็ตอบตกลงแล้วด้วย! เธอไปไหม?"
หร่วนซิงหว่านยิ้ม แล้วเดินไปปิดไฟที่ห้องครัว "พวกเธอไปกันเถอะ ฉันรับปากกับเฉิงเว่ยไว้แล้วว่าจะไปทานข้าวกับเขา"
เมื่อสิ้นเสียงพูด เพ้ยซานซานก็วิ่งเข้ามาแอบอิงอยู่ข้างๆเธอ แล้วพูดอย่างทอดถอนใจว่า "ไม่เลวเลย ในที่สุดเธอก็ตาสว่างแล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันบอกเธอไปตอนที่อยู่ในรถในวันนี้ ยังได้ผลอยู่บ้าง"
หร่วนซิงหว่านหันหน้ามา แล้วพูดว่า "เธอพูดอะไรกับฉันเหรอ?"
"เอ๋?" เพ้ยซานซานหัวเราะแห้งๆสองครั้ง แล้วพยายามพูดเลี่ยงๆไปว่า "ก็แค่เรื่องที่คุยกันไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ ยังจะพูดอะไรได้อีกเล่า เอ่อคือว่า......ฉันก็ต้องไปอาบน้ำแล้วเหมือนกัน เธอดื่มซุปแล้วก็รีบๆเข้านอนนะ อากาศในวันนี้มันหนาวแปลกๆน่ะ หลับให้สบายนะ พรุ่งนี้จะได้อยู่ในสภาพที่ดี!"
พูดจบ เธอก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
หร่วนซิงหว่านถอนสายตากลับมา ยิ้มอ่อนๆ แล้วตักน้ำซุปที่อยู่ใส่หม้อออกมา
ตอนที่นอนอยู่บนเตียงในตอนกลางคืน หร่วนซิงหว่านกลับนอนยังไงก็นอนไม่หลับ พอหลับตาลง ก็ได้ยินแต่คำพูดเหล่านั้นที่โจวฉือเซินพูดในวันนี้
เธอไม่ค่อยเข้าใจเลย ว่าทำไมจู่ๆโจวฉือเซินถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ด่าแล้วก็ไม่ไป ไล่แล้วก็ไม่ไป
เหมือนกับเปลี่ยนเป็นคนละคนไปแล้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตามนิสัยของผู้ชายคนนี้ เขาจะยอมให้เธอมาท้าทายศักดิ์ศรีและล้ำเส้นเขาครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้ได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากความหมายของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจเลิกราได้
หร่วนซิงหว่านก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดแผนอะไรอยู่กันแน่
หร่วนซิงหว่านยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกรำคาญใจ นอนอย่างไรก็นอนไม่หลับ เธอก็เลยถือโอกาสลุกขึ้นมานั่งเปิดดูสมุดเลคเชอร์อยู่หน้าโต๊ะทำงานไปเสียเลย
ตอนที่เธอพลิกไปเจอหน้าที่ถูกฉีกขาดนั้น ในขณะที่กำลังมองดูรอยฉีกที่ไม่สม่ำเสมอกันอยู่ เธอก็ยิ่งรู้สึกรำคาญใจมากขึ้นกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...