เพ้ยซานซานไปเดินเล่นที่แถวๆ นี้ เดิมทีอยากผ่อนคลายอารมณ์หน่อย แต่ไม่คิดว่าขาจะพลิก ตอนนี้ดีพอได้ละ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ผ่อนคลายอารมณ์ แถมยังหงุดหงิดกว่าเดิมอีก
เธอเดินกะโผลกกะเผลกกลับมา เห็นที่ริมลำธารไม่ไกลนักมีคนสองคนกอดกันอยู่ รู้สึกว่าใช้คำว่ายกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับขาตัวเองมาบรรยายเหมาะสมที่สุดแล้ว
ไม่คิดว่าเธอนี่เองที่เป็นตัวตลก
เมื่อเห็นเด็กๆ นั่งทำการบ้านที่โต๊ะเล็กๆ อย่างตั้งใจ เธอก็ยิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ และรู้สึกละอายใจขึ้น รู้สึกว่าเธอกำลังทำร้ายมาตุภูมิอนาคตของเด็กทั้งหลาย
ช่างเถอะ แบบนี้แหละ
เพ้ยซานซานเดินไปนั่งลงข้างเขา แล้วถามว่า: "เฮ้ ไอ่เด็กน้อย อยู่ชั้นอะไรแล้วค่ะ"
"ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ครับ"
เพ้ยซานซานมองดูหนังเสือของเด็ก อืมจริงด้วยแฮะ
เธอก็ถามต่อว่า: "เล็กขนาดนี้ ใครสอนผมแซว......โกโหคนในอินเทอร์เน็ตแบบนี้เนี่ย"
เจ้าหมูกระต่ายน้อยวางดินสอลง พูดอย่างจริงจังว่า: "พี่สาวน้อยเวทมนตร์ ผมไม่ได้โกโหพี่นะครับ ผม......"
"หยุด หยุด หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!" เพ้ยซานซานรีบพูดว่า "เราพบกันโดยบังเอิญ เรียกฉันว่าพี่ก็พอแล้ว อย่าเอาคำนำหน้ามาด้วย"
"ออ ครับผม"
เพ้ยซานซานเห็นว่าเขาก็ถือว่ายังมีมารยาทอยู่ ก็ถามเว่า: "ผมบอกว่าผมไม่ได้โกโหพี่ แล้วทำไมผมต้องส่งรูป......แบบนั้นให้พี่ล่ะ?"
กับเด็กคนหนึ่งแล้ว เธอพูดคำสองคำที่อยู่ในปากนั้นไม่ออกสักเท่าไหร่
เจ้าหมูกระต่ายน้อยเอียงหัวเล็กน้อย: "พี่บอกให้ผมส่งไม่ใช่เหรอครับ?ผมเห็นในเน็ตเขาว่ากันว่า รูปภาาพแบบนี้เป็นวิธีสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันได้มากที่สุดนิครับ ผมก็เลยหารูปที่ผมคิดว่าสวยที่สุดส่งให้พี่ดู"
ทันใดนั้นเพ้ยซานซานก็ถามไปคำหนึ่งว่า จะรู้ได้ไงว่า......
เธอถอนหายใจเบาๆ บอกกับตัวเองซ้ำๆ ว่าอย่าไปถือสาอะไรกับเด็กเลย
เพ้ยซานซานหันหัว หยิบถุงน้ำแข็งออกจากกล่องที่ไว้ใส่วัตถุดิบ และหาผ้าอีกผืนออกมา ประคบไว้บนข้อเท้าที่พลิก
เจ้าหมูกระต่ายน้อยเห็นเช่นนี้ ก็หยิบขวดสเปรย์ฉีดรอยฟกช้ำจากกระเป๋านักเรียนของตัวเองแล้วยื่นให้เธอ
เพ้ยซานซานรู้สึกตกตะลึงหน่อย: "นี่ผมมีอันนี้ได้ไงเนี่ย?"
"แม่ผมเป็นคุณหมอครับ แม่ให้ผมพกแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อนี้ไว้ติดตัวครับ บอกว่าต้องมีวันที่ได้ใช้แน่นอน"
เพ้ยซานซานได้ยินเช่นนี้ ก็มีความสนใจเพิ่งขึ้น: "ได้วะ แล้วพ่อผมทำงานอะไรเหรอครับ?"
แสงนัยน์ตาของเจ้าหมูกระต่ายน้อยค่อยๆ จางลง ก้มหน้าลงไม่พูดจาอะไรเลย
เพ้ยซานซานรู้ว่าเธออาจจะถามโดนเรื่องอะไรที่ละเอียดอ่อน ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วพูดไปถึงเรื่องอื่น: "ใช่แล้ว ผมเรียนโรงเรียนอะไรครับ?"
"ตอนนี้ผมยังไม่เข้าเรียนครับ"
"อ่าว ทำไมละ?"
เจ้าหมูกระต่ายน้อยเหลือบมองเธออย่างระมัดระวังแล้วพูดว่า: "ไม่มีอะไรครับ แม่ผมบอกว่าข้างนอกมีคนร้ายเยอะ ก็ไม่ให้ผมไปโรงเรียนครับ"
เพ้ยซานซาน: "......"
มีคนร้ายเยอะเลยไม่ให้เขาไปโรงเรียน แต่กลับให้เขาออกมาเจอกับชาวเน็ต?
ความคิดนี้ เพ้ยซานซานยอมรับไม่ค่อยได้
วันนี้ส่งเด็กคนนี้กลับไปเธอต้องไปต่อว่าผู้ใหญ่คนนี้สักหน่อยแล้วแหละ คิดยังไงกันเนี่ย ครั้งนี้เจอเธอก็ค่อยยังชั่วหน่อย คราวหน้าเจอคนที่คิดประสงค์ไม่ดีจริงๆ จะทำไงละ?
ไม่นาน ท้องฟ้าก็มืดลง ทุกคนก็ค่อยๆ กลับมากัน
หร่วนซิงหว่านยื่นอยู่ข้างเตาย่าง พึ่งใส่ถ่านลงไป โจวฉือเซินก็เดินมาถึงข้างเธอพอดี ถอดเสื้อกันหนาวแล้วใส่ไว้ที่อ้อมแขนของเธอ: "ไปอยู่ที่อื่นซะ"
อีกฝั่งของโทรศัพท์เงียบไปนาน แล้วค่อยมีเสียงหัวเราะแปลกๆ ออกมาว่า "ลูกรักจ๊า ฉันได้ยินมาว่าแกไปแข่งขันอีกแล้ว คราวนี้ได้โบนัสเท่าไหร่ละ?"
ได้ยินเสียงของเขา สีหน้าของโจวฉือเซินก็ยังคงเหมือนเดิน เอ่ยอย่างเฉยชาว่า: "จำนวนโบนัส ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีชีวิตเอาหรือไม่"
หร่วนจุนไม่คิดว่าอีกฝ่างของโทรศัพท์จะเป็นโจวฉือเซิน หยุดไปสักพักแล้วค่อยพูดว่า: "ลูกเขย พูดอย่างนี้ไม่ได้นะ ทั้งคุณกับลูกรักของฉันเนี่ย ต่างก็ไม่ใช่คนที่ขาดแคลนเงินอะไรทั้งนั้น ฉันแค่ขอเงินนิดเดียวเอง สำหรับพวกเธอแล้ว ก็เหมือนเรื่องขนหน้าแข้งไม่ร่วงเลย"
"คุณอยากได้เท่าไหร่"
หร่วนจุนหัวเราะเฮเฮด้วยเสียงที่แหบของเขา เสียงหัวเราะยิ่งแปลกๆ มากขึ้นเรื่อยๆ : "สามร้อยล้าน"
"ก็น้อยจริงนะ เดี๋ยวว่างๆ เผาให้คุณนะครับ"
ฟังแล้วเหมือนเขาจะวางสาย หร่วนจุนก็รีบพูดว่า: "ลูกเขย นี่ฉันเตือนเธอนะ ตอนนี้ข้างนอกมีคนมาหาฉันเยอะมากเลยนะ คุณเดาดูสิว่าพวกเขาต้องการถามอะไรจากตัวของฉันกันแน่? ฉันเห็นแก่ช่วงเวลาที่เราเคยมีกันมาก่อน ฉันจึงติดต่อลูกสาวที่ดีของฉันด้วยตัวเองเลยนะ มิฉะนั้นเงินพวกนี้ พวกเขาก็จะให้เงินฉันเหมือนกันแหละ"
โจวฉือเซินพูดอย่างเฉยชาว่า: "คุณคิดมากไปแล้ว พวกเขาอาจจะแค่เผาก็ไม่เผาให้คุณหรอก มากที่สุดก็โยนคุณลงไปในท่อระบายน้ำให้เน่าเสียเอง"
หร่วนจุนเริ่มกังวลขึ้นแล้ว เขาน่าจะอยู่ที่ที่โลงแห่งหนึ่ง เวลาพูดแล้วยังมีเสียงสะท้อนกลับด้วย: "ลูกเขยที่แสนดีจ๊า ฉันรู้ว่าคุณกำลังจงใจหลอกให้ฉันกลัว ฉันก็รู้ว่าไอ่พวกนั้นมันไม่ได้ดีอะไรไปหรอก ดังนั้นฉันเลยไม่ไปหาพวกมันไงละ เอาอย่างนี้ดีกว่า ฉันก็ไม่ต่อรองราคากับคุณละ หนึ่งร้อยล้าน ขอแค่หนึ่งร้อยล้าน!ถ้าฉันเอาเงินพวกนี้ได้แล้ว ฉันจะไปให้ไกลๆ ไม่มารบกวนพวกคุณอีกต่อไปเลย!"
"คิดได้ดีนะ" หลังจากหยุดชั่วคราว โจวฉือเซินเหลือบมองหมายเลขบนหน้าจอ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "อย่าโทรมาหาหร่วนซิงหว่านอีกนะ เธอไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น แล้วก็อย่ามาทำให้เธอรังเกียจด้วย"
"ผมรู้ครับๆ แล้ว......ฉันจะติดต่อคุณได้ไง?"
โจวฉือเซินนำเบอร์ของหลินหนานให้เขา: "ในเมื่อคุณเอ่ยปากขอเงินกับผมเยอะขนาดนี้แล้ว งั้นคงต้องมีความจริงใจสักหน่อยละ"
หร่วนจุนรู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร: "ผมเข้าใจครับ ผมจะเอาฟิล์มมาด้วยแน่นอน"
โจวฉือเซินไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับเขาอีก วางสายไปทีเดียว แล้วดึงเข้าบัญชีดำเลย
ตอนเขากลับไป ปิ้งย่างก็ได้ปิ้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีกลุ่มคนกำลังนั่งอยู่รอบกองไฟ ปรบมือและร้องเพลงอยู่
หร่วนซิงหว่านเดินไปที่ข้างเขาแล้วถามว่า: "ทำไมคุณถึงไปนานขนาดนั้น?ใครโทรมาเหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...