หลังจากทานข้าวเสร็จ หร่วนซิงหว่านกำลังจะกลับไปห้องนอน โจวจู้นเหนียนก็บอกว่า: "ซิงหว่าน ไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้กับผมหน่อย"
หร่วนซิงหว่านชะงักเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้า: "ได้"
ขณะนี้ สีท้องฟ้ายังไม่ได้มืดสนิท ทั้งฟ้าดูมืดเทามาก เมฆดำรวมด้วยกันเป็นก้อนๆ อากาศอบอ้าวอย่างรุนแรง ตอนกลางคืนคงมีพายุฝนเข้า
ตอนที่เธอกำลังมองออกไปทางไกลจนตกอยู่ในภวังค์ เสียงของโจวจู้นเหนียนดังขึ้นมา: "ไม่ชินกับการอยู่ที่นี่เลยใช่ไหม"
หร่วนซิงหว่านเก็บสายตากลับมา เม้มปากไว้ ไม่ได้ปฏิเสธ
โจวจู้นเหนียนพูดต่อว่า: "นิสัยพ่อผมดื้อรั้นมาก ถ้าจะพูดโน้มน้าวให้เขายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก ซิงหว่าน ช่วงเวลานี้ก็ต้องให้คุณอดทนหน่อยแล้ว"
หร่วนซิงหว่านเงียบครู่หนึ่งและพูดว่า: "ขอบใจนะ"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอก ผมเข้าใจความรู้สึกที่ถูกขังไว้ในที่หนึ่งไม่สามารถออกไปไหนได้" โจวจู้นเหนียนมองไปที่ท้องฟ้าอันมืดมน "แต่คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงมากหรอก ฉือเซินเขาไม่ทิ้งเธอไว้ไม่สนใจหรอก"
"เขาไม่สนใจฉันหรอก"
โจวฉือเซินเคยบอก ถ้าถูกตระกูลโจวรู้เรื่องที่เธอท้อง ผมทุกอย่างเธอจะต้องแบกรับเอง
จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้พูดผิด เธอเป็นคนยืนยันที่จะคลอดลูกออกมาเองตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาทั้งนั้น
โจวจู้นเหนียนยิ้มส่ายหัว ค่อยๆ พูดว่า: "นิสัยของฉือเซินมาเร็วไปเร็วอย่างนี้อยู่แล้ว อีกอย่าง สถานการณ์แบบนี้ เขาก็ต้องการเวลาไปวางแผนเรื่องอย่างอื่นด้วย ให้เวลาเขาหน่อยเถอะ"
หร่วนซิงหว่านมองไปที่โจวจู้นเหนียน จู่ๆ กลับรู้สึกเสียดายขึ้นมาเล็กน้อย
โจวจู้นเหนียนไม่ว่าจะอารมณ์ นิสัย หรือว่าการพูดการจาล้วนดีเยี่ยมมาก แทบจะเป็นการอยู่ที่ไม่มีที่ติอะไรเลย
ถ้าเขาไม่ได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วเขาจะมีความสำเร็จอันสดใสแบบไหนอีก
ความเป็นจริงแล้วถึงแม้ชีวิตนี้ของโจวจู้นเหนียนได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นอย่างเดียว ก็ยังคงมีหญิงสาวที่ชอบเขาอยู่ไม่น้อยเช่นกัน แต่เขาเหมือนมัดตัวเองเอาไว้แล้ว
ผ่านไปสักพัก หร่วนซิงหว่านจึงพูดว่า: "คุณโจว ฝนใกล้จะตกแล้ว เรารีบกลับไปกันเถอะ"
โจวจู้นเหนียนพยักหน้า: "ไปเหอะ"
...
นอนอยู่บนเตียง มองดูสิ่งแวดล้อมอันไม่คุ้นเคยเลย ไม่ว่ายังไงหร่วนซิงหว่านก็นอนไม่หลับ
พายุฝนมาตามที่คิดไว้ เม็ดฝนกระทบโดนบนหน้าต่าง เกิดเป็นเสียงอุดอู้และหนาแน่นราวกับกลอง ฟังดูอึกทึกกว่าสิ่งไหนเมื่ออยู่ในห้องนอนอันเงียบสงบนี้
สิ่งที่ยิ่งทรมานกว่าคือ หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่าเธอหิวแล้ว
นี่มันแย่มากจริงๆ เลย
เธอเปิดผ้าห่มออกมาลุกขึ้นมานั่ง มองออกไปหน้าต่างอันมืดมนไร้แสงและตกอยู่ในภวังค์
แม้จะเป็นอย่างนี้ ก็ไม่สามารถห้ามการประท้วงของตัวเล็กในท้องได้
เมื่อหร่วนซิงหว่านกำลังลังเลและประลองกับตัวเองอยู่ว่าจะแอบลงไปชั้นล่างหาของกินหรือไม่ แสงสีขาวอันสว่างตาจากนอกหน้าต่างส่องเข้ามา ทันใดนั้นเธอลืมตาไม่ค่อยขึ้นเลย
เวลาดึกขนาดนี้ และยังมีพายุฝนด้วย ใครจะเป็นคนมา
เท่าที่เธอรู้ คนของตระกูลโจวน่าจะไม่มีคนไหนออกไปเลย
พอมาแทรกคราวนี้แล้ว หร่วนซิงหว่านเก็บความคิดที่จะลงไปชั้นล่างหาของกินกลับมา ช่างมันเถอะ อดทนอีกหน่อยเถอะ
พรุ่งนี้เธอจะลองถามห้องครัว สามารถเอาของขนมและผลไม้ให้เธอบ้างได้ไหม
หร่วนซิงหว่านดึงผ้าห่มมาบังหัวและลูบท้องหน่อย อยากให้ตัวเล็กอยู่ดีๆ หน่อย
ผ่านไปสักพัก หร่วนซิงหว่านก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากระเบียงทางเดิน แต่เหมือนเสียงฝีเท้ามาถึงหน้าห้องของเธอก็หยุดลงแล้ว
หร่วนซิงหว่านตะลึงเล็กน้อย ไม่รู้ทำไม เธออยู่ๆ ก็มีลางสังหรณ์อย่างหนึ่งอย่างไร้เหตุผล คนที่มาจะเป็น...
"คุณไม่ต้องขอบคุณฉัน ทั้งหมดนี้ฉันเต็มใจเอง" หลินจืออี้พูดจบ ยิ้มให้เธอแล้วจากไป
หร่วนซิงหว่านถือถังเก็บความร้อน ถอนหายใจคำหนึ่ง หันหลังเข้าไปห้องนอน
เธอนั่งอยู่บนโซฟา ครุ่นคิดสักพัก ในที่สุดก็เปิดถังเก็บความร้อนออกมา แต่เมื่อเธอเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน กลับตกเข้าไปในภวังค์
...
หลังจากหลินจืออี้ขึ้นรถ ดูผู้ชายที่อยู่ข้างๆ: "ฉันเจอกับคุณหร่วนแล้ว เธอน่าจะไม่มีปัญหาอะไร"
สีหน้าของโจวฉือเซินเย็นเยือก: "เธอเป็นอะไรเกี่ยวอะไรกับผม"
หลินจืออี้กล่าวว่า: "ฉือเซิน จริงๆ แล้วในใจคุณยังคงเป็นห่วงคุณหร่วนอยู่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นทำไมถึงกลัวว่าเธอจะหิวตอนกลางคืน ตั้งใจมาส่งให้เธอ..."
ยังดีที่คืนนี้เธอไปหาหล่อนมาแล้ว ไม่อย่างนั้นวันนี้ถังเก็บความร้อนใบนี้ ก็จะเป็นโจวฉือเซินที่ส่งไปในมือของหร่วนซิงหว่าน
โจวฉือเซินพูดแทรกเธออ่อนๆ: "ช่วยส่งแทนคนอื่น"
หลินจืออี้ไม่ได้ถามต่อว่าช่วยใครส่ง แต่เธอก็พอเดาได้ว่าจะไม่ได้คำคอบที่ทำให้เธอดีใจอะไรหรอก
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถโรลส์-รอยซ์สีดำจอดลงอยู่ตรงหน้าบ้านตระกูลหลิน
หลินจืออี้ยื่นมือไปผลักประตูรถ ผ่านไปกี่วินาทีก็หันหลังหลับมาอีก: "ฉือเซิน คุณจะเข้าไปเจอพ่อฉันหน่อยไหม"
น้ำเสียงของโจวฉือเซินเพิกเฉย: "เวลาไม่เช้าแล้ว พ่อคุณน่าจะพักผ่อนแล้ว"
หลินจืออี้ฟังออกว่าเขากำลังปฏิเสธอยู่ ยิ้มทีหนึ่งและบอกว่า: "ไม่เป็นไร ยังไงเราก็ใกล้จะแต่งงานกันแล้ว โอกาสที่คุณกับท่านได้เจอกันในอนาคตยังมีอีกเยอะ"
หลินจืออี้เพิ่งลงจากรถ คนใช้ที่เฝ้ารออยู่ตรงประตูก็กางร่มมาแล้ว
โจวฉือเซินบอกว่า: "ขับรถ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...