ผ่านไปครู่หนึ่ง เพ้ยซานซานจึงพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น......เธอเตรียมใจที่จะไม่ได้เจอโจวฉือเซินอีกต่อไปแล้วใช่ไหม"
หร่วนซิงหว่านเงียบไปสักพักแล้วจึงพูดว่า "อืม ไม่เจอแล้ว"
อันที่จริงการแต่งงานของเธอกับโจวฉือเซินก็คือการเริ่มต้นที่ผิดพลาด และมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยให้ความผิดพลาดนี้จบลงไปในที่สุด
"แต่ฉันมักจะรู้สึกว่า โจวฉือเซินน่าจะไม่ปล่อยให้เธอจากไปได้หรอก อีกอย่างไม่ใช่ว่าเขาชอบเธอเหรอ......"
ผ่านไปนาน หร่วนซิงหว่านจึงยิ้ม แล้วพูดว่า "ถึงจะชอบก็พิสูจน์อะไรไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขากำลังจะแต่งงานแล้ว และเขายังจะมีความคิดที่จะมาดูแลฉันได้ยังไง"
เพ้ยซานซานถอนหายใจ แล้วพูดว่า "ก็จริงนะ ยังไงซะความรู้สึกของพวกผู้ดีมีตระกูลพวกนี้ก็เหมือนกับการเล่นสนุก ไม่สามารถเป็นจริงได้"
เพราะกลัวว่าจะถูกคนของตระกูลโจวรู้เข้า เพ้ยซานซานจึงอยู่ในห้องของหร่วนซิงหว่านเป็นเวลานานไม่ได้ ไม่นานเขาก็เลยลงไปข้างล่างแล้ว
และที่ชั้นล่าง การสัมภาษณ์ของโจวฉือเซินก็เสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
รอจนหลังจากที่เพ้ยซานซานกับบรรณาธิการนิตยสารนิตยสารเซิ่งกวางออกไปแล้ว โจวฉือเซินจึงถามคนรับใช้ว่า "หร่วนซิงหว่านอยู่ที่ไหน?"
"คุณหร่วนอยู่ที่ห้องตลอดเลยค่ะ"
โจวฉือเซินเดินไปที่สวนดอกไม้ไปพลาง พูดไปพลางว่า "ให้เธอลงมา"
คนรับใช้พยักหน้า "ค่ะ"
ภายในห้อง
ในขณะที่หร่วนซิงหว่านกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
……
หร่วนซิงหว่านเดินไปที่สวนอย่างไม่เต็มใจ หลังจากที่เห็นเงาร่างของโจวฉือเซิน เธอก็เดินเข้าไปอย่างช้าๆ แล้วพูดว่า "ประธานโจวเรียกหันมีธุระอะไรหรืออคะ?"
โจวฉือเซินนั่งอยู่หน้าสวนดอกไม้ หยิบแก้วขึ้นมาจิบกาแฟ แล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า "ออกมาเดินเล่นสักหน่อยไม่ดีเหรอ"
หลายวันมานี้ ทำไมหร่วนซิงหว่านจะไม่อยากออกมาเดินเล่นล่ะ เพียงแต่เธอรู้ดีว่านอกจากโจวจู้นเหนียนแล้ว คนในบ้านตระกูลโจวไม่มีใครจะไม่เกลียดเธอและให้เกียรติเธอเลยสักคน ดังนั้นนอกจากออกมาเข็นรถเล่นกับโจวจู้นเหนียนในตอนกลางเย็นแล้ว เธอแทบจะอยู่แต่ในห้องเท่านั้น
และเมื่อโจวฉือเซินอยู่ในบ้านตระกูลโจว ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่สามารถทำให้คนอื่นๆ ชอบได้ไปมากกว่าเธอเช่นกัน
แต่เขากลับสามารถทำตัวเมินเฉยได้ และทำตามอำเภอใจโดยไม่ต้องเกรงกลัวใคร แถมยังทำให้คนในตระกูลโจวไม่มีความสุขอีกด้วย
ในโลกนี้ คนที่สามารถทำให้คนอื่นเกลียดชังตัวเองและรู้สึกไม่สบายใจเพราะว่าการดำรงอยู่ของเขาได้ ก็คงจะมีแต่เขาคนเดียวเท่านั้น
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว หร่วนซิงหว่านก็รู้สึกเลื่อมใสโจวฉือเซินเป็นอย่างมาก
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง คนรับใช้ก็ถือจานผลไม้ขึ้นมาแล้วจานหนึ่ง
หร่วนซิงหว่านนั่งอยู่ตรงข้ามโจวฉือเซิน หลังจากที่คนรับใช้ออกไปแล้ว เธอจึงพูดว่า "ประธานโจวไม่ต้องไปที่บริษัทเหรอคะ?"
โจวฉือเซินวางแก้วกาแฟที่อยู่ในมือลง แล้วพูดว่า "พักผ่อนน่ะ"
"อ๋อ"
ไม่บ่อยนักที่จะได้ยินน้ำเสียงที่เป็นปกติอย่างนี้ของผู้ชายคนนี้ หร่วนซิงหว่านจึงยังมีความรู้สึกไม่คุ้นชินเล็กน้อย
เธอก้มศีรษะลงรับประทานผลไม้ชิ้นไปหนึ่งชิ้น แล้วจึงพูดว่า "ขอบคุณค่ะประธานโจว"
โจวฉือเซินลืมตาขึ้นเบาๆ วางแขนพิงหลังเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดอย่างเฉื่อยเนือยว่า "ขอบคุณผมทำไม"
"ขอบคุณที่วันนี้ประธานโจวให้ซานซานมาพบฉันได้ไงคะ"
ในช่วงเวลานี้เธอรู้สึกเบื่อหน่ายมากจริงๆ เมื่ออยู่ที่นี่ และไม่สามารถหาคนที่จะมาพูดเปิดใจกับเธอได้ หลังจากที่ได้คุยกับเพ้ยซานซานสักพักแล้ว เธอก็รู้สึกดีขึ้นมาก
โจวฉือเซินเอ่ยปากพูดอย่างไม่เมินเฉยว่า "งั้นเหรอ ผมนึกว่าคุณจะเรียกอีกชื่อหนึ่งเสียอีก"
หร่วนซิงหว่าน "......"
ด่านนี้ยังคงยากที่จะข้ามผ่านไปได้จริงๆ
เธอเรียกคืนความคิดเมื่อสักครู่นี้กลับไป ผู้ชายคนนี้ยังชอบกลั่นแกล้งคนอื่นเหมือนเดิมไม่มีผิดเลย
จากระยะไกล แสงอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านหมู่เมฆ แล้วสาดส่องลงมาเป็นเส้นๆ ทำให้ทั่วทั้งสวนดอกไม้ดูราวกับถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง
หร่วนซิงหว่านถูกแสงอาทิตย์ที่อบอุ่นนี้สาดส่องจนทำให้รู้สึกง่วงนอนเล็กน้อย และหาวขึ้นมาหนึ่งครั้ง
ในเวลานั้นเอง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องของเธอได้ถีบเธอเข้าแล้วหนึ่งที
หลังจากนั้นความมีชีวิตชีวาก็ดูเหมือนว่าจะก่อกวนเธอไม่หยุด
ด้วยเหตุนี้ หร่วนซิงหว่านก็เลยไม่มีอาการง่วงหงาวหาวนอนแล้ว เธอเอาแต่ลูบท้องไปมา แล้วริมฝีปากของเธอก็ค่อยๆ ฉีกยิ้มขึ้นมา
แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว กลับพบว่าโจวฉือเซินกำลังมองเธออยู่อย่างเงียบๆ ด้วยดวงตาสีดำเข้มและเงียบสงบของเขา
มือของเขาก็เคลื่อนไปตามการเคลื่อนไหวนั้นเช่นกัน
โจวฉือเซินกำลังรักษาท่าทางนี้เอาไว้อย่างน้อยสิบนาที
ในตอนแรกหร่วนซิงหว่านยังไม่ได้คิดว่าจะมีอะไร เธอคิดว่ายังไงซะเขาก็เป็นพ่อของเจ้าตัวเล็ก แม้ว่าแต่ไหนแต่ไรเขาจะไม่เคยพยายามทำหน้าที่พ่อและเขาก็อยากให้เจ้าตัวเล็กคนนี้ไม่ปรากฏตัวออกมาเลย แต่หร่วนซิงหว่านก็ไม่สามารถไล่เขาไปให้พ้นในเวลานี้ ในสถานการณ์แบบนี้ และในสถานที่แบบนี้ได้
เมื่อเวลาผ่านไปนาน หร่วนซิงหว่านก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเล็กน้อย
อย่าว่าแต่ระยะห่างของพวกเขาจะใกล้หรือไม่ใกล้กันเลย แค่ท่าทางนี้ของพวกเขา ก็คลุมเครือมากพออยู่แล้ว
เธอจึงอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกไปว่า "ประธานโจวคะ ฉัน...ฉันขาชาไปหมดแล้ว"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวฉือเซินยกเปลือกตาขึ้นมองดูเธอ "หือ?"
หร่วนซิงหว่านพูดว่า "ฉันอยากจะยืนขึ้นสักหน่อย"
ด้วยเหตุนี้โจวฉือเซินจึงถอยกลับมา แล้วลุกขึ้นและยื่นมือไปทางเธอ
หร่วนซิงหว่าน "?"
โจวฉือเซินพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดว่า "ไม่ใช่ว่าคุณขาชาหรอกเหรอ?"
หร่วนซิงหว่านจึงเข้าใจความหมายที่เขาอยากจะประคองเธอขึ้นมาได้ เธอลังเลอยู่ซักพักก่อนที่จะยื่นมือออกมา
หลังจากที่ยืนขึ้นมาแล้ว เธอก็พูดเบาๆ ว่า "ขอบคุณค่ะ"
แต่โจวฉือเซินกลับชักมือกลับแล้วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงโดยไม่สนใจเธอ
หร่วนซิงหว่านเพิ่งจะขยับแขนและขาได้แป๊บเดียว ก็เห็นหลินจืออี้เดินเข้ามาแล้ว ทักทายเธอด้วยรอยยิ้มว่า "คุณหร่วน"
ในขณะที่กำลังพูด เธอก็มองไปทางโจวฉือเซิน แล้วพูดว่า "ฉือเซินก็อยู่ด้วยเหรอคะ"
โจวฉือเซินทำเสียงตอบรับขึ้นมาอย่างเฉยเมยโดยไม่มีการแสดงออกอื่นใด
ส่วนหร่วนซิงหว่านกลับรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกดีใจมาก โชคดีที่เธอหาข้ออ้างที่จะลุกขึ้นมาได้ ไม่อย่างนั้นถ้าตอนที่หลินจืออี้มาเห็นฉากเมื่อสักครู่นี้เข้า มันคงจะเป็นอะไรที่.......
หร่วนซิงหว่านพยักหน้าเล็กน้อยไปทางหลินจืออี้ แล้วพูดว่า "คุณหลินฉันขอตัวก่อนนะคะ พวกคุณคุยกันเถอะ"
หลินจืออี้มองไปที่โจวฉือเซินหลังจากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า "คุณหร่วนกำลังตั้งครรภ์อยู่คงเดินไม่สะดวก ให้ฉันไปส่งคุณเถอะค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...