ภายใต้การหารือเรื่องการด่าทอหร่วนซิงหว่าน การตอบโต้ของเขาก็สั้นๆ ได้ใจความ หวังร้ายอย่างชัดเจน อยากให้เสียหายเท่าไหร่ก็ทำให้เสียหายเท่านั้น
ไม่นาน กลุ่มคนที่เคยปรบมือโห่ร้องด้วยความยินดี จู่ๆ ก็เริ่มก่นด่าเว็บไซต์ของทางโจวซื่อกรุ๊ปขึ้นมาทันที
"คนคนนี้มันบ้ารึไงเนี่ย ทำตัวประหลาดจริงๆ "
"นี่มันข้อมูลปลอมรึเปล่า ไม่อย่างนั้นเว็บก็คงถูกแฮ็กแน่ๆ "
"พนักงานของโจวซื่อกรุ๊ปควรทำงานให้มันจริงจังกว่านี้นะ เข้ามามีส่วนร่วมในเวลาแบบนี้ พนักงานแบบนี้ยังไม่รีบไล่ออกไปอีก เซ็งจริงๆ เลย!"
"พวกหัวหน้าของโจวซื่อกรุ๊ปช่วยมาจัดการหน่อยได้มั้ย พนักงานคนนี้ทำตัวอย่างกับคนบ้า ผมด่าหร่วนซิงหว่าน ไม่ได้ด่าเขาสักหน่อย แล้วมันจะมาแหกปากใส่ผมทำไม"
ในตอนที่กลุ่มคนกำลังหมดคำจะพูดนั้น จู่ๆ คนระดับสูงที่ได้รับการรับรองจากทางการของโจวซื่อกรุ๊ปก็ได้ส่งข้อความเข้าไปในเวยป๋อ: [ขอบคุณแท็ก คุมไม่อยู่ค่ะ ตอนนี้คนที่เล่นบัญชีคือประธานโจว]
ทุกคน "......"
ทันใดนั้น พนักงานของเครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ปที่ออกมาแฉเมื่อก่อนหน้านี้ ก็ได้โพสต์ : [บอกกับพวกคุณไปแล้ว แต่ก็ไม่ยอมเชื่อ ว่าสามีเก่าของคุณRuanก็คือประธานโจว]
หลังจากที่เวยป๋อนี้ถูกโพสต์ออกไป ในเวลาไม่ถึงสามสิบวิ บรรดาคอมเม้นที่หัวเราะเยาะหร่วนซิงหว่านที่อยู่ใต้โพสต์ของเธอก็ถูกลบออกไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่ทุกคนกำลังคิดว่าประธานโจวจะใช้อำนาจต่อปากต่อคำต่อนั้น เวยป๋อของทางการโจวซื่อกรุ๊ปก็ได้โพสต์เวยป๋อออกมาอีกโพสต์หนึ่ง เพื่อเป็นการยืนยัน
[ว่าด้วยเรื่องของคุณหร่วนซิงหว่านที่ถูกใส่ร้ายหรือการสันนิษฐานในทางแย่ๆ นั้น ไม่เป็นความจริงเลย คุณหร่วนได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของประธานโจวแห่งโจวซื่อกรุ๊ปมาก่อน ถึงแม้ทั้งคู่จะต้องหย่าร้างกันจากความเข้าใจผิด แต่ทั้งคู่ก็ยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ในตอนนี้ ประธานโจวก็กำลังตามจีบคุณหร่วนอีกครั้ง ขอให้ทุกท่านโปรดแสดงความคิดเห็นด้วยสติ มิฉะนั้น โจวซื่อกรุ๊ปก็จะทำการฟ้องร้องคอมเมนต์ที่ไม่หวังดี ให้ดำเนินตามกระบวนการของทางกฎหมาย]
โจวซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ทนายที่ทางบริษัทจัดหามานั้น ต่างก็เป็นทนายระดับหัวกะทิทั้งนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาทำการฟ้องร้อง ก็จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และมันก็ไม่ใช่แค่การพูดอย่างส่งๆ แน่นอน
ทันใดนั้น การคอมเมนต์กันในโซเชียลก็หยุดลงทันที
เดิมทีพวกไอโอกับพวกนักการตลาดเหล่านั้นก็ทำงานเพื่อเงินอยู่แล้ว พอเห็นว่าเรื่องมันใหญ่โตแล้ว ก็ต้องเอาตัวเองเข้าไปเอี่ยวด้วยอยู่แล้ว
ในเวลาเดียวกัน เหลียงซือซือที่เห็นเว็บหลักของโจวซื่อกรุ๊ปออกมาแถลงการณ์แล้ว สีหน้าก็ซีดไปทันที แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาเหมือนกับคนที่ถูกดูดพลังออกไปจนหมด
ผ่านไปพักหนึ่ง จู่ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบคว้ามือถือมา แล้วกดโทรหาหลินจืออี้ด้วยมือที่สั่นเทา พร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นเคลือ "คะ......คุณหลิน คุณเห็นข้อมูลในโซเชียลรึยังคะ หร่วนซิงหว่านมะ......มันเป็น......"
"ฉันรู้"
แล้วเหลียงซือซือก็แตกตื่นขึ้นมาทันที "จบกัน ทีนี้คงจบสิ้นจริงๆ แล้ว!"
หลินจืออี้พูดด้วยน้ำเสียงที่แอบแฝงไปด้วยความรำคาญ "เธอจะร้อนรนไปทำไม ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ ขอแค่เธอรักษาสิ่งที่อยู่ในมือไว้ให้ได้ มันก็ไม่มีใครทำอะไรเธอได้ทั้งนั้นแหละ"
ตะ......แต่นั่นมันโจวซื่อกรุ๊ปเลยนะคะ บทละครเล็กๆ ของฉัน แค่แวบเดียวพวกเขาก็มองออกแล้ว" เหลียงซือซือลองถามไปดู "จะให้ฉันโพสต์ขอโทษตอนนี้เลยดีมั้ยคะ?"
"ถ้าเธอโพสต์ ไปตอนนี้ มันไม่เท่ากับว่าเธอละอายใจหรอกเหรอ หร่วนซิงหว่านยังไม่มีหลักฐานเลย ฉันละไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเธอจะกลัวอะไร"
เหลียงซือซือกัดริมฝีปากเอาไว้ "คุณหลินคะ แต่ว่าฉันกลัวว่า......พอไปมีเรื่องกับโจวซื่อกรุ๊ปแล้ว ไม่แน่ฉันอาจจะถูกฆ่าก็ได้"
หลินจืออี้ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ "พูดเป็นเล่นไป นี่เธอคิดจริงๆ เหรอว่า โจวฉือเซินมันจะมีอำนาจล้นฟ้าจริงๆ ?"
"แต่อำนาจที่ตระกูลโจวมีในเมืองหนานเฉิงนั้น มันก็......"
"อำนาจที่ตระกูลโจวของมันมี จะบอกว่าตระกูลหลินของฉันไม่มีรึไง?"
คำพูดของหลินจืออี้นั้น เป็นการกล่อมให้เหลียงซือซือใจเย็นลงอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เธอก็ไม่กล้าทำตัวมั่นใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว รอดูว่าทางสตูดิโอหร่วนซิงหว่านทำงานจะมีการเคลื่อนไหวยังไง ถ้าพวกเธอได้หลักฐาน เธอก็จะขอโทษทันที
แต่ทางสตูดิโอของหร่วนซิงหว่านนั้นกลับไม่ได้อาศัยความฮอตจากแถลงการณ์ที่เว็บหลักของโจวซื่อกรุ๊ปโปรโมทตัวเอง แต่กลับเก็บลงไป ไม่มีการตอบสนองอะไรเลย
ถึงแม้ว่าช่วงนี้อิตาบ้าจะใช้คำพูดที่แพรวพราวไปแล้วมากมายก็ตาม แต่หร่วนซิงหว่านก็ยังนึกไม่ถึงว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้
มันช่างเป็นการกระทำที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
ใครมันจะไปคิดว่าคนที่เป็นถึงประธานของโจวซื่อกรุ๊ปอย่างเขา จะเอาเว็บหลักของโจวซื่อกรุ๊ปไปโต้เถียงกับคนที่มาด่าเธอกันล่ะ
นอกจากปากที่จัดเหมือนเดิมแล้ว นอกนั้นก็ไม่มีการกระทำอะไรที่สมกับเป็นเขาเลย
แต่จากสงครามในครั้งนี้ ก็ทำลายภาพจำของโจวฉือเซินที่ทุกคนรู้จักจนหมด จนมีคนเสนอให้เขาเปิดสัมมนาว่าสามารถทำให้คนโกรธจนเลือดขึ้นหน้าโดยที่ไม่ใช้คำหยาบเลยสักคำได้ยังไง และพวกเขาก็ยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อเข้าไปดูเลย
ตอนที่กินข้าว เฟ้ยซานซานเห็นว่าจู่ๆ ก็ยิ้มออกมาอย่างน้อยๆ และอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาโบกๆ ตรงหน้าเธอ "นี่เธอคิดเรื่องอะไรอยู่เหรอ?"
หร่วนซิงหว่านรีบตั้งสติแล้วไอไปทีหนึ่ง พร้อมกับใบหูที่แดงขึ้นมาเล็กน้อย "ฉะ......ฉันก็กินข้าวไง จะไปคิดอะไรได้ล่ะ"
เฟ้ยซานซานเบ้ปากไปทีหนึ่ง เธอนั้นมองออกแต่ก็ทำเหมือนไม่รู้ "วันมะรืนก็เป็นวันสิ้นปีแล้ว เราจะฉลองกันยังไง มีแผนอะไรมั้ย"
หร่วนซิงหว่านตอบ "ก็อยู่บ้านกันนี่แหละ"
พูดจบ เธอก็นึกถึงเหตุการณ์ที่น่าอนาถในครั้งก่อน จึงรีบพูดเสริมไปอีกคำว่า "แค่เราสามคน ห้ามชวนคนอื่น! และห้ามบอกให้ใครรู้ด้วย!"
หร่วนเฉินพูดขึ้นว่า "ปิดหูตัวเองแล้วไปขโมยระฆัง"
หร่วนซิงหว่าน "?"
เฟ้ยซานซานพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "ถูกต้อง ยังไงวันส่งท้ายปีเก่าเธอก็ต้องมีงานสังสรรค์ ต่อให้ไม่พูด คนที่ควรมาก็คงจะมาอยู่แล้ว"
หร่วนซิงหว่าน "......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...