ในสตูดิโอ โจวฉือเซินกำลังนั่งเคลียร์งานอยู่บนโซฟา
หร่วนซิงหว่านรินน้ำเสร็จ ถึงได้เดินมาหาเขา "ที่นี่กลายเป็นที่ทำงานหลังที่สองของประธานโจวไปแล้วเหรอ ไม่ย้ายมาที่นี่ซะเลยล่ะ"
โจวฉือเซินเลิกคิ้ว "ได้เหรอ?"
".....ไม่ได้"
โจวฉือเซินปิดเอกสารตรงหน้าลง แล้วเงยหน้ามองเธอ "คุณจะทำอีกนานแค่ไหน?"
หร่วนซิงหว่านเม้มริมฝีปาก "ไม่รู้"
ไม่แน่คืนนี้เธอออาจจะค้างที่นี่ อาจจะไม่ได้กลับไป
เมื่อโจวฉือเซินเห็นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม ก็พอจะเดาอะไรได้ จึงถามขึ้นมาว่า "ได้หัวข้อแล้ว?"
หร่วนซิงหว่านนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวข้างเขา ตอบอืมอย่างโรยแรง
"ได้หัวข้ออะไร"
หร่วนซิงหว่านมองมาที่เขา "ประธานโจวไม่รู้เหรอ?"
โจวฉือเซินกระตุกมุมปาก "หลินซื่อกรุ๊ปเป็นแค่ผู้รับจัดทำเท่านั้น ผมจะไปสนใจอย่างอื่นทำไม ถ้าผมรู้ก็คงตกเป็นขี้ปากชาวบ้านสิ แบบนั้นมันจะส่งผลเสียต่อคุณนะ"
ในเมื่อเวินเฉี่ยนบอกว่าเธอมาถึงขั้นนี้ได้ก็เพราะโจวฉือเซิน แบบนั้นก็แปลว่า คนอื่นก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ถึงปากจะไม่ได้พูดมันออกมาก็ตาม
ถ้าหากโจวฉือเซินรู้หัวข้อก่อนใคร ต่อให้เขาไม่ได้บอกอะไรเธอเลยก็ตาม ถึงอย่างนั้นก็ปิดปากนกปากกาไม่ได้อยู่ดี
หร่วนซิงหว่านเบ้ปาก คิดไม่ถึงเลยว่าตาหมาบ้านี่จะละเอียดอ่อนถึงขนาดนี้
โจวฉือเซินพาดแขนไว้บนโซฟา มือคลายเนกไทออก ราวกับกำลังรอฟังคำตอบของเธอ
หร่วนซิงหว่านเอ่ยพูดช้าๆว่า "สารภาพรัก"
โจวฉือเซินเลิกคิ้วขึน เหมือนจะยังไม่เข้าใจ
เธอพูดต่อว่า "หัวข้อแข่งขันร่วมกันในครั้งนี้"
"แล้วทำไมคุณดูกลุ้มใจขนาดนี้ล่ะ?" ไม่รอให้หร่วนซิงหว่านตอบ เขาก็เอ่ยขึ้นว่า "เพราะไม่เคยมีคนมาสารภาพด้วยเหรอ?"
หร่วนซิงหว่าน ".....?"
ตาหมาบ้านี้นี่พูดอะไรเลอะเทอะอีกแล้วเนี่ย
โจวฉือเซินขยับเล็กน้อย โน้มตัวเข้ามาหาเธอ นัยน์ตาดำขลับลึกล้ำจ้องมองมาที่เธอ พร้อมเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน " จะว่าไปคุณก็น่าจะเคยมีคนมาสารภาพรักด้วยหลายคนแล้วไม่ใช่หรือไง?"
หร่วนซิงหว่านถูกเขาจ้องจนรู้สึกร้อนตัว โต้กลับไปว่า "พูด.....พูดอย่างกับคุณไม่เคยมีคนมาสารภาพด้วยอย่างนั้นแหละ หรือว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว?"
พอพูดออกไป หร่วนซิงหว่านก็รู้สึกคิดผิด
นี่ไม่ใช่แค่เหมือนเด็กนักเรียนเถียงกัน แต่ยังเหมือนคนขี้หึงสองคนกำลังแข่งกันว่าใครหึงมากกว่ากัน
ใบหูของหร่วนซิงหว่านแดงซ่าน ไม่อยากสนใจเขาอีกต่อไป จึงลุกขึ้นเตรียมกลับไปที่ห้องทำงาน "ฉันต้องไปร่างแบบต่อ ถ้าประธานโจวไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปเถอะ"
โจวฉือเซินจับข้อมือของเธอเอาไว้ เอ่ยพูดช้าๆว่า "จะรีบไปไหน ตอนนี้ยังไม่มีแรงบันดาลใจไม่ใช่เหรอ"
"?"
เขารู้อีกแล้วนะ
โจวฉือเซินเอ่ยขึ้นมาว่า "ถ้าคุณมีแรงบันดาลใจ คงไม่หงุดหงิดขนาดนี้หรอก"
หร่วนซิงหว่านสูดหายใจเข้าลึกๆ "อืม"
ก็ดูมีเหตุผลดี
ก็เพราะว่าไม่มีแรงบันดาลใจนี่แหละ ถึงอดหงุดหงิดขึ้นมาไม่ได้
โจวฉือเซินพูดต่อว่า "ผมรู้ว่าปัญหาของคุณมันอยู่ที่ตรงไหน"
ได้ยินแบบนั้น หร่วนซิงหว่านก็มองมาที่เขาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความสงสัย ราวกับกำลังรอคอยว่าจะมีงาช้างโผล่ออกมาจากปากของเขาอย่างไรอย่างนั้น
ในขณะที่เธอกำลังจดจ่อ โจวฉือเซินก็เอ่ยอย่างไม่รีบร้อนว่า "เป็นถึงนักออกแบบ แต่เข้าไม่ถึงหัวข้อที่ให้มา แล้วจะไปมีแรงบันดาลใจได้ยังไง ตอนนั้นที่คุณออกแบบ "รักแรก"ได้ ก็เพราะว่าเคยมีประสบการณ์ไม่ใช่เหรอ"
หร่วนซิงหว่านขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าทำไม ที่เขาพูดมาถึงได้ดูมีเหตุผลถึงขนาดนี้
โจวฉือเซินเอ่ยขึ้น "ดังนั้น ถ้าคุณอยากหาแรงบันดาลใจเจอล่ะก็ ต้องลองสารภาพรักจริงๆดูสักครั้ง ส่วนคู่สารภาพ ผมเป็นให้ก็ได้"
หร่วนซิงหว่าน "......."
เธอก็นึกว่าตาหมาบ้านี่กำลังพูดอะไรมีหลักการ ที่แท้ก็แค่มารอเธออยู่ที่นี่นี่เอง
เธอเดินเข้าไปข้างหน้าสองก้าว เปิดประตูออก ก็เห็นชายหนุ่มที่ยังอยู่ข้างนอก "ประธานโจวทำไมคุณ....."
โจวฉือเซินสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกง "นอนคนเดียวไม่หลับ"
หร่วนซิงหว่านหนังตากระตุก คิดว่าไม่ต่อปากต่อคำกับเขาจะดีกว่า
หร่วนซิงหว่านเดินผ่านโจวฉือเซิน จึงเห็นว่าบนโต๊ะกาแฟมีอาหารมากมายวางอยู่เต็มไปหมด ก่อนหน้านี้มัวแต่วาดโครงร่างเลยไม่ทันคิด ตอนนี้เพิ่งมานึกได้ว่า ตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย
หร่วนซิงหว่านเดินไปนั่งลงบนโซฟา เมื่อเห็นอาหารยังคงกรุ่นๆ ก็อดน้ำลายไหลไม่ได้
เธอกวาดสายตามองกล่องเก็บความร้อน จากนั้นก็พูดอย่างประหลาดใจว่า "มีซุปด้วยเหรอ?"
โจวฉือเซินนั่งลงข้างๆ "คุณชอบไม่ใช่เหรอ"
หร่วนซิงหว่านมองดูดีๆ ก็พบว่าข้างในเป็นซุปปลา แถมยังมีผักพลูคาวด้วย
เธอเอ่ยขึ้น "ป้าจางทำเหรอ?"
ขณะที่พูด หร่วนซิงหว่านก็ลองชิม หัวคิ้วพลันขมวดมุ่นเข้าหากัน
โจวฉือเซินเอ่ยขึ้น "เป็นอะไรไป?"
"รสชาตินี้....."
หร่วนซิงหว่านชิมอีกครั้ง จากนั้นก็มองมาที่โจวฉือเซินอย่างไม่แน่ใจ "คุณแน่ใจนะว่าป้าจางเป็นคนทำ?"
"ไม่อย่างนั้นจะเป็นใครล่ะ?"
"ฉันคิดว่าเหมือนน้าสวี่เป็นคนทำมากกว่า"
"งั้นเหรอ" โจวฉือเซินดึงช้อนในมือของเธอมาชิม "ผมคิดว่าก็คล้ายๆกันนั่นแหละ ซุปนี้ทำมาจากวัตถุดิบอย่างเดียวกัน ก็น่าจะรสชาติเหมือนกันหมดไม่ใช่เหรอ"
หร่วนซิงหว่านเอ่ยขึ้น "ถ้าให้วัตถุดิบอย่างเดียวกันกับคุณ คุณทำรสชาติแบบนี้ออกมาได้ไหมล่ะ"
โจวฉือเซิน "......."
แต่ที่ตาหมาบ้าพูดมาก็มีเหตุผลจริงๆนั่นแหละ เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่ที่คฤหาสน์ซิงหู เธอกับป้าจางเคยศึกษาสูตรทำอาหารจากน้าสวี่ ถ้าใส่ผักพลูคาวลงในซุปก็จะยิ่งเข้มข้นและซดได้ล่องคอ
บางทีเธออาจจะคิดมากไปเองก็ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...