หร่วนซิงหว่านจ้องไปทางเธอ ก่อนจะพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า "ถ้าไม่มีคุณหลินเตรียมละครฉากใหญ่ไว้ให้ล่วงหน้า ฉันจะมีโอกาสแสดงได้ยังไงกันละคะ"
ใบหน้าของหลินจืออี้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ก่อนจะยิ้มเย้ยหยัน "เธออย่าลำพองใจเร็วไปนัก"
"ฉันไม่ได้ลำพองใจแน่นอนค่ะ อย่างไรสิ่งที่ฉันทำในตอนนี้ ก็ยังน้อยกว่าสิ่งที่คุณหลินทำเป็นหมื่นเท่า" หร่วนซิงหว่านพูดอย่างสงบ "ที่จริง ฉันมีเรื่องที่อยากจะถามคุณหลินมาโดยตลอด แต่ก็คิดว่าถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่เกินความจำเป็นไปหน่อย แต่ในเมื่อเราก็พูดกันมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจะถามคุณเลยแล้วกัน คุณหลินคงจะไม่ถือสาอะไร"
หลินจืออี้กอดอก ด้วยสีหน้าเฉยเมย ราวกับต้องการดู ว่าเธอจะพูดอะไรออกมา
หร่วนซิงหว่านพูด "เรื่องที่ฉันท้อง คุณเป็นคนบอกโจวอานอานเหรอ"
ปฏิกิริยาของหลินจืออี้สงบมาก "ฟังความหมายที่เธอพูด เธอก็น่าจะมั่นใจไปแล้วว่าฉันเป็นคนพูด อย่างนั้นไม่ว่าฉันจะตอบอะไร ก็เป็นการเถียงแก้ตัว ถ้าคุณหร่วนพูดอย่างนี้ ฉันก็รู้สึกสงสัยเรื่องหนึ่ง เรื่องตั้งครรภ์นี่ ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่อาจบอกใครได้หรือคะ มันก็ผ่านไปนานแล้ว นึกไม่ถึงว่าคุณหร่วนจะมาถามฉันอย่างนี้"
"เรื่องที่ฉันท้องไม่ใช่เรื่องที่ไม่อาจบอกใครได้ เพียงแต่ใจของใครบางคนก็ดำมืดและสกปรกเกินกว่าจะเห็นแสงของดวงอาทิตย์"
หร่วนซิงหว่านพูดทิ้งท้ายไว้แค่นี้ ก่อนจะหมุนกายเข้าไปในห้อง
หลินจืออี้สูดลมหายใจเข้าลึก ใบหน้าเธอดูเย็นชาขึ้นหลายส่วน
เมื่อเธอกลับมายังห้องของตัวเอง โทรศัพท์เธอพลันสั่น โชว์หมายเลขที่ไม่คุ้นเคย
หลินจืออี้กดตัดสายอย่างไม่อดทน ผ่านไปครู่หนึ่ง เบอร์นั่นก็โทรเข้ามาอีก
หลังจากเชื่อมต่อ เสียงของเวืนเฉี่ยนก็ดังมาตามสาย "คุณหลิน เวินเฉี่ยนนะคะ"
"มีอะไร"
เวินเฉี่ยนพูดอย่างระมัดระวัง "ฉันรู้ว่าคุณหลินเกลียดหร่วนซิงหว่านมาก ดังนั้นฉัน......"
หลินจืออี้พูดอย่างสงบ "เธอรู้?"
เมื่อถูกเธอถามกลับ เวินเฉี่ยนจึงหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่ออีก "เมื่อก่อนตอนที่ยังอยู่เซิ่งกวาง ถึงแม้คุณหลินจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่ฉันก็สัมผัสได้ แต่คุณหลินอย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันไม่ได้เอาสิ่งนี้มาแบล็กเมล์คุณ เพียงแค่ตอนนี้ในมือฉันมีบางอย่างอยู่ และคิดว่าคุณหลินเองก็น่าจะสนใจ"
"อ้อ?" หลินจืออี้นั่งอยู่บนโซฟา "คุณน่าจะเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้เกลียดหร่วนซิงหว่าน และเธอก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของฉัน ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องเกลียดเธอ คุณคงไม่ได้จะไปทำร้ายเธอ โดยใช้นามของฉันใช่ไหม"
เวินเฉี่ยนกัดริมฝีปาก "ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะคุณหลิน ฉันแค่คิดว่า คนอย่างหร่วนซิงหว่านไม่คู่ควรเลยสักนิด เธอไม่คู่ควรต่อโจวฉือเซิน เธอไม่คู่ควรที่จะอยู่ในตระกูลหลิน และยิ่งไม่คู่ควร......"
หลินจืออี้พูดต่อประโยค "ยิ่งไม่คู่ควรที่จะเป็นแชมป์การแข่งขันดีไซเนอร์เหรอ?"
เวินเฉี่ยนไม่ตอบอะไร ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือการยอมรับโดยดุษฎี
หลินจืออี้พูดอย่างไม่ใส่ใจ "แต่คนที่ได้แชมป์ในครั้งนี้ ไม่ใช่เธอนี่ ดูท่าว่าเธอคงจะไม่คู่ควรจริงๆ ไม่มีทั้งศักยภาพและความสามารถเลย"
"ฉันจะให้คุณหลินฟังเสียงบันทึก แล้วคุณจะเข้าใจทุกอย่างเอง"
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ หลังจากมีเสียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยดังขึ้น บทสนทนาระหว่างหลุยส์และหร่วนซิงหว่านที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาอยู่ในโรงแรมก็ลอยมาตามสาย
เมื่อฟังจบ หลืนจืออี้ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร
น้ำเสียงของเวินเฉี่ยนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย "งานแสดงแบรนด์พิเศษของแฟชั่นวีค เดิมทีแล้วน่าจะเป็นแชมป์ถึงจะมีคุณสมบัตินั้น แต่หลุยส์กลับนำโอกาสนี้ให้กับเธอ คุณหลินไม่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมไปหน่อยหรือคะ?"
หลินจืออี้พูด "แข่งขันไหมละ ถ้าใครเอาเรื่องนี้ไปคิดจริงจัง ก็จะคนแพ้ให้อีกคนหนึ่ง"
เธอพูด "ขอบคุณที่เตือนค่ะคุณหลิน ฉันรู้ว่าควรทำอย่างไร"
เมื่อได้ยินเสียงวางสายจากปลายสาย หลินจืออี้จึงวางโทรศัพท์ลง มองไปยังหน้าจอ ก่อนจะแสยะยิ้ม
เธอต้องการดูว่าหร่วนซิงหว่าน จะลำพองใจไปได้อีกนานแค่ไหน
อาจจะไม่ต้องรอให้เธอลงมือเอง หร่วนซิงหว่านก็คงได้รับกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้แล้ว
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากวางสาย เวินเฉี่ยนรู้สึกจมดิ่งอยู่พักหนึ่ง เธอไม่รู้ว่าจะติดต่อคนของตระกูลโจวได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น คราวก่อนตอนที่ประกาศว่าหร่วนซิงหว่านถูกตระกูลโจวรับเลี้ยง ก็ได้มีปัญหากับพวกเขาแล้ว
ถึงแม้เธอพ้นโทษแล้ว แต่เซ่หรงกลับถูกตระกูลโจวจับตามองอยู่ ถ้าตอนนี้เธอไปส่งถึงหน้าประตูด้วยตัวเอง ไม่แน่ว่าอาจจะถูกพวกเขาสงสัยว่าทำไปด้วยเหตุอะไร
เวินเฉี่ยนคิดอยู่นาน ก่อนจะนำเครื่องอัดเสียงออกมา นำเครื่องอัดเสียงมาทำสำเนาไว้สองสามอัน ยัดใส่เข้าไปในกล่อง ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งยังอีกสถานที่หนึ่ง และหยิบหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่เซ่หรงได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ แล้วเรียกคนส่งของ ให้ไปส่งที่ตระกูลโจว เธอเขียนบนกล่องไว้แล้ว ท่านใหญ่โจวต้องเป็นคนเปิดกล่องด้วยตัวเอง
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จ เวินเฉี่ยนก็ถอนหายใจ เมื่อเตรียมที่จะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ก็ได้รับสายโทรศัพท์
ในไม่ช้า เสียงที่ไม่พอใจของหลี่เฟิงก็มาจากโทรศัพท์ "ฉันรอเธอมาทั้งคืนแล้วนะ เมื่อไหร่จะมา?"
เวินเฉี่ยนขมวดคิ้วด้วยความขยะแขยง ก่อนจะตัดสายและบล็อกเบอร์ไป
หลังจากครุ่นคิด เธอจึงได้โทรหาเซ่หรงและครอบครัวของเธออีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีคนรับสาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...