ร่างกายของจ้าวจิ้งสั่นสะท้าน "คุณ......คุณทำมากเกินไปแล้ว!"
หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นว่า "ประธานจ้าวกล่าวเกินจริงไปแล้วล่ะค่ะ ฉันนั่งในตำแหน่งผู้รับผิดชอบของหลินซื่อกรุ๊ป เป็นธรรมดาที่ฉันต้องคิดทุกอย่างเพื่อหลินซื่อ นอกจากนี้ฉันไม่ได้บังคับให้คุณเอาเงินยี่สิบล้านหยวนนี้ออกมา ฉันกำลังช่วยคุณยืมโจวซื่อกรุ๊ปอยู่ไม่ใช่หรือไง? อีกอย่างเรื่องนี้คุณเป็นคนคิดออกมาเอง ทำไมถึงบอกว่าฉันทำเกินไปละคะ"
หยางเจิ้นยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ โดยไม่ส่งเสียงใดเพราะกลัวว่าเขาจะมีส่วนร่วมในสงครามนี้
จ้าวจิ้งชี้นิ้วออกไปให้หร่วนซิงหว่าน กัดฟันด้วยความเกลียดชังไร้ความรู้สึกว่า "ในที่สุดผมก็เห็นในวันนี้ว่าอะไรคือความหน้าด้านหน้าทน นิสัยทุเรศแบบนี้ได้มาจากพ่อขี้พนันนั่นสินะ!"
ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา หร่วนซิงหว่านก็มักจะทำเพียงยิ้มออกมาจางๆ ไม่ได้โกรธ
หลังจากที่จ้าวจิ้งระบายอารมณ์ออกมา เขาก็พูดกับหยางเจิ้นว่า "ผมจะให้คนโอนเงินยี่สิบล้านให้เธอในนามของผม งานแถลงข่าวนั่นไม่ต้องจัด จัดบ้าจัดบออะไร!"
หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นอย่างไม่เร่งรีบว่า "จ้าวจิ้ง ขอโทษนะคะที่ต้องพูดแทรก แต่เงินนี้คุณสามารถโอนไปยังหลินซื่อกรุ๊ปได้โดยตรง โอนมาให้ฉันทำไม ใครไม่รู้อาจคิดว่าคุณกำลังพยายามติดสินบนฉัน"
จ้าวจิ้งส่งเสียงหึๆ ออกมาอย่างเย็นชาและจากไป
ประตูห้องทำงานถูกปิดลงดัง "ปัง"
หยางเจิ้นปาดเหงื่อของเขา "คุณหร่วน อย่าไปถือสาประธานจ้าวเลยครับ เขาแค่พูดตรงไปตรงมา ไม่มีเจตนาอย่างอื่นอย่างแน่นอน"
หร่วนซิงหว่านยิ้มขึ้น "ฉันจะไปสนใจอะไรเขาล่ะคะ ตอนนี้เงินของหลินซื่อมีไม่เพียงพอ เพียงแค่เขายอมโอนเงินยี่สิบล้านนี้เข้ามา ต่อให้เขาลากเก้าอี้มานั่งด่าฉันตรงนี้ทั้งวันก็ได้ คนที่ด่าทอรุนแรงกว่าเขามีตั้งมากมายไป ถ้ามัวแต่ไปสนใจทุกคนจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยางเจิ้นก็รู้สึกชื่นชมเธอ
หากว่าเป็นผู้หญิงคนอื่น จะทนได้กับเรื่องแบบนี้เหรอ คงจะหนีไปตั้งนานแล้ว
แต่เธอสามารถยอมรับการดูถูกเหล่านี้ได้อย่างใจเย็น และเจรจาข้อตกลงกับจ้าวจิ้งโดยไม่สนใจใดๆ
หยางเจิ้นกล่าวอีกครั้งว่า "คุณหร่วนตั้งใจจะใช้เงินยี่สิบล้านหยวนมาหมุนในบริษัทเหรอครับ?"
"ไม่อย่างนั้นล่ะ" เสียงของหร่วนซิงหว่านเย็นลงเล็กน้อย "เขามีเงินตั้งมากมาย ดังนั้นจึงกล้าที่จะทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้ บางเรื่องอาจใช้เงินจัดการได้ แต่บางเรื่องก็อาจจะต้องสูญเสียบางอย่างชดเชย"
หยางเจิ้นไม่ได้พูดอะไรออกมา
หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นอีกครั้งว่า "คุณจับตาดูเขาให้ดี รอให้แน่ใจว่าการเงินได้รับเงินจากเขาแล้วค่อยไป"
"แต่ทางด้านประธานจ้าว......"
"ถ้าเขาล่าช้าหรือผิดนัด บอกเขาได้เลยว่าเปลี่ยนเวลาแถลงข่าวเป็นตอนเย็นก็ไม่มีปัญหา"
หยางเจิ้นตอบกลับทันทีว่า "เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"
หร่วนซิงหว่านตอบรับและเอนหลังพิงเก้าอี้
หลังจากที่หยางเจิ้นออกไป หร่วนซิงหว่านก็ถอนหายใจมองไปยังปลายนิ้วที่สั่นเทาของเธอ หยิบแก้วน้ำที่อยู่ข้างๆ เงยหน้าขึ้นเพื่อดื่มน้ำที่เหลือในถ้วย
จ้าวจิ้งเป็นคนที่อยู่เหนือคนอื่น เขาไม่กลัวใครไม่เห็นใครในสายตา หากต้องการกดขี่เขาจะแสดงความขี้ขลาดออกมาไม่ได้แม้แต่น้อย
ขณะที่หร่วนซิงหว่านกำลังจะลุกขึ้นไปรินน้ำ โทรศัพท์สายของหลี่ตั๋วก็โทรเข้ามา "คุณหร่วน สืบได้ความแล้วครับ"
เพื่อตอบสนองต่อเงื่อนไขของจ้าวจิ้ง บริษัทที่ให้ความร่วมมือด้วยได้จัดเตรียมหญิงสาวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ไม่คาดคิด ว่าคนที่ติดต่อไว้จะไม่สบายขึ้นมา ดังนั้นจึงได้ติดต่อไปยังพนักงานฝึกหัดคนหนึ่งของบริษัท
เด็กฝึกงานไม่รู้ถึงพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของพวกเขาเลย และคิดว่ามันเป็นเพียงงานเลี้ยงบันเทิงธรรมดา หลังจากดื่มไวน์เข้าไปสองสามแก้ว จ้าวจิ้งก็แสดงธาตุแท้ออกมาและเริ่มตุกติก
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวต่อต้านค่อนข้างแรง จ้าวจิ้งจึงแอบวางยาเธอ จากนั้นก็เกิดเรื่องนั้นตามมา
หลังจากได้ฟัง หร่วนซิงหว่านก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และทุบมือลงบนโต๊ะเสียงดัง "ตอนนี้ผู้เสียหายอยู่ที่ไหน"
หลี่ตั๋วตอบว่า "อยู่บ้านเช่าของเธอ คุณหร่วนจะเดินทางมาเหรอครับ?"
"ส่งที่อยู่มา เดี๋ยวฉันไป"
หร่วนซิงหว่าน "......"
มันเกี่ยวกันตรงไหน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็ได้หยุดจอดลงหน้าประตูบ้านเช่า
หร่วนซิงหว่านขึ้นไปชั้นบน แต่กลับพบชายสองคนยืนอยู่ที่ประตูลิฟต์ เมื่อพวกเขาเห็นเธอ ทุกคนก็เหลือบมองกันแล้วหันไปทางอื่น
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า หลี่ตั๋วก็เดินออกมา "คุณหร่วน"
หร่วนซิงหว่านละสายตาของเธอกลับมาแล้วตอบรับเบาๆ
หลี่ตั๋วพาเธอเข้าไปข้างในและกระซิบว่า "ทั้งสองคนถูกส่งตัวมาโดยประธานจ้าว หากว่าหญิงสาวกล้าแจ้งตำรวจละก็ พวกเขาจะ......"
หร่วนซิงหว่านเม้มริมฝีปาก ท่าทางของเธอเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก
เสิ่นจื่อซีทำท่าถุยน้ำลาย "จ้าวจิ้ง เขาคิดว่าตัวเองจะกุมเรื่องต่างๆ ไว้ได้เหรอ"
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านเช่า หร่วนซิงหว่านเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูและอ้อนวอนอย่างขมขื่น "น้องฉิน ไหนๆ เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว เราต้องหาวิธีแก้ปัญหาใช่ไหม ตอนนี้เอาแต่กักขังตัวเองอยู่ในห้องไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ออกมาหาข้าวหาปลากินก่อนดีไหม?"
ไม่มีคำตอบใดเล็ดลอดออกมา
ชายคนนั้นพูดอีกครั้งว่า "ผมได้คุยกับทางบริษัทแล้ว ทางบริษัทจะให้คุณบรรจุทันทีและเพิ่มเงินเดือนให้ด้วย เอาตามที่คุณต้องการ คนเราชีวิตนี้ออกมาหางานทำก็เพื่อเลี้ยงปากท้องไม่ใช่เหรอ ส่วนด้านของประธานจ้าวก็บอกแล้วว่าเขาจะชดใช้ค่าเสียหายให้ คุณก็รู้ว่าประธานจ้าวเป็นคนมีฐานะและมาจากบริษัทใหญ่ ไม่ใช่คนที่พวกเราจะโต้แย้งได้ เท่านี้ถือว่าดีแล้ว หรือว่าคุณลองบอกข้อเสนอมา ผมจะไปคุยให้"
คำพูดของชายคนนี้ดูเหมือนหวังดีต่อเธอ หรือมองอีกอย่างหนึ่งคือหากเธอไม่เห็นค่า ก็ถือว่าเธอไม่รู้จักเจียมตัว
หร่วนซิงหว่านเดินไป หลี่ตั๋วแนะนำขึ้นว่า "คุณหร่วนครับ นี่คือคนรับผิดชอบของบริษัทผู้เสียหาย ผู้จัดการจาง"
ผู้จัดการจางหันศีรษะไปทางหร่วนซิงหว่าน มองจากศีรษะจรดเท้า "คุณเป็นใคร?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...