หร่วนซิงหว่านกำลังจะกลับ ก็เห็นโจวอานอานเดินเข้ามา
คนนามสกุลโจวนี่ตายยากกันทุกคนเลยหรือไง?
โจวอานอานทำเป็นมองไม่เห็นเธอ เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆจี้หวยเจี้ยน “พี่หวยเจี้ยน ฉันโทรหาทำไมไม่รับสายล่ะ?”
ถึงจี้หวยเจี้ยนจะนิสัยดีแค่ไหน ก็ยังรู้สึกรำคาญการตามวอแวอย่างหน้าด้านๆของโจวอานอาน โดยเฉพาะสองสามวันมานี้ เขาพบว่าไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เธอก็จะตามไปที่นั่น
จี้หวยเจี้ยจึงพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณหนูโจว รบกวนไม่มาให้ผมเห็นหน้าอีกได้ไหมครับ”
สีหน้าของโจวอานอานบิดเบี้ยวในชั่ววินาที เธอถลึงตาใส่หร่วนซิงหว่านแล้วพูดว่า “ เป็นเพราะเธอใช่ไหม ก่อนกลับจากต่างประเทศพี่ยังดีๆกับฉันอยู่เลย เพราะนังผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้........”
“พอได้แล้ว!” จี้หวยเจี้ยนลุกขึ้น “โจวอานอาน คุณอย่ามาโวยวายอยู่ที่นี่ได้ไหม!”
“ฉันโวยวาย? พี่หวยเจี้ยน พ่อแม่ของเราทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันแล้ว ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องหมั้น แล้วฉันไม่สมควร........”
จี้หวยเจี้ยนตัดบทเธออย่างไร้ความปรานี “ผมไม่มีทางหมั้นกับคุณเด็ดขาด หวังว่าคุณหนูโจวจะรักศักดิ์ศรีตัวเองบ้าง ไม่อย่างนั้น ตระกูลโจวคงขายหน้าแย่”
ครั้งนี้ ไม่รอให้โจวอานอานได้ตอบกลับอะไร ก็มีเสียงไม่ทุกข์ไม่ร้อนของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลัง “ในเมื่อคุณชายจี้ตระหนักถึงเรื่องนี้ แล้วทำไมยังมายุ่งกับคนอื่นอยู่ล่ะครับ”
เมื่อหร่วนซิงหว่านได้ยินเสียงของโจวฉือเซิน ก็รู้สึกว่าหัวใจแทบจะเต้นออกมานอกอก ไม่รู้เขามาถึงที่นี่ตั้งแต่ตอนไหน และไม่รู้ว่าเขาได้ยินอะไรไปบ้าง
เมื่อโจวอานอานเห็นเขา ขนแหลมๆที่พองออกมาในตอนแรกก็พลันหดหายไปทันที เอ่ยพูดเสียงเล็กเสียงน้อยขึ้นมาว่า “พี่คะ”
โจวฉือเซินเหลือบมองเธอทีหนึ่ง แล้วหันมามองจี้หวยเจี้ยน
จี้หวยเจี้ยนเม้มริมฝีปาก พร้อมกับสบตาเขา
หลินหนานเว้นระยะห่างไกลๆเหมือนเคย ถึงอย่างนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงประกายไฟบนตัวของทั้งสองคน
จี้หวยเจี้ยนเอ่ยขึ้นมาว่า “ประธานโจวหย่ากับซิงหว่านแล้วไม่ใช่เหรอครับ มาโผล่ที่นี่ได้ยังไง หรือว่า ประธานโจวกำลังคิดอะไรอยู่”
โจวฉือเซินเงียบ ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม สายตาค่อยๆทอแววเย็นยะเยือก
หร่วนซิงหว่านไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องเข้าไปอยู่ในสงครามระหว่างสองคนนี้ทุกที มากไปกว่านั้นคือไม่รู้ว่าโจวฉือเซินมาโผล่ที่นี่ทำไม
เธอจึงเอ่ยพูดออกมาเบาๆว่า “จี้หวยเจี้ยน เราไปกันเถอะ”
จี้หวยเจี้ยนเก็บสายตากลับมา “อืม”
เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะกลับ โจวอานอานก็คิดจะตามไป แต่โจวฉือเซินก็เอ่ยพูดเสียงเย็นว่า “หยุด”
โจวอานอานหันกลับมา พูดอย่างใจร้อนว่า “พี่คะ.......”
โจวฉือเซินเงยหน้าขึ้นมามองเธอ “ฉันจะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ห้ามพูดจาไร้มารยาทกับหร่วนซิงหว่านอีก หัดระงับอารมณ์ให้เป็นบ้าง”
พูดจบ เขาก็เดินผ่านโจวอานอานออกไปจากร้าน
เมื่อออกมาข้างนอก หร่วนซิงหว่านก็เงียบอยู่สักพักจากนั้นถึงพูดขึ้นมาว่า “ฉันกลับก่อนนะ”
“ซิงหว่าน” จี้หวยเจี้ยนเรียกเธอเอาไว้ “ที่ผมพูดวันนี้ หวังว่าคุณจะเก็บไปพิจารณานะ”
หร่วนซิงหว่านยิ้มให้เขา “ขอบคุณจริงๆที่ตอนนี้ก็ยังยืนอยู่ข้างๆฉัน แต่ว่าสามปีที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย บางครั้งฉันเองก็คิด ว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้นมันจะดีสักแค่ไหนกันนะ”
ผ่านไปนาน จี้หวยเจี้ยนถึงได้พูดขึ้นมาว่า “ซิงหว่าน คุณชอบโจวฉือเซินหรือเปล่า”
“ห๊ะ?” หร่วนซิงหว่านนิ่งอึ้ง พร้อมทั้งเงียบไปนาน
จี้หวยเจี้ยนได้คำตอบแล้ว เขาจึงยิ้มออกมา จากนั้นก็ปล่อยวางทุกอย่าง “ผมรู้แล้ว ต่อไปนี้ผมจะไม่พูดอะไรแบบนั้นอีก ผมจะยืนอยู่ข้างๆคุณในฐานะเพื่อนเอง”
เป็นเวลานาน หร่วนซิงหว่านถึงได้พูดขึ้นมาว่า “ขอบคุณนะ”
……
หลังจากแยกกัน หร่วนซิงหว่านก็โบกแท็กซี่ไปที่บ้านของเพ้ยซานซาน
เธอส่งข้อความไปหาตั้งหลายข้อความ เพ่ยซานซานก็ไม่ตอบ คิดว่าน่าจะยังหลับอยู่
หร่วนซิงหว่านเอนพิงกระจกรถ เหม่อมองทิวทัศน์ข้างนอก
ตามมาด้วยเสียงปิดประตูดังปัง หร่วนซิงหว่านออกแรงผลักเขาออก ดวงตาทั้งสองข้างแดงช้ำ “โจวฉือเซิน คุณบ้าไปแล้วหรือไง!”
โจวฉือเซินเลียคราบเลือดบนริมฝีปาก แล้วมองมาที่เธอช้าๆ “ผมให้โอกาสคุณหลายครั้งแล้ว”
แต่เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก
“แล้วใครอยากได้โอกาสนั้นของคุณ โจวฉือเซิน เราหย่ากันแล้ว หย่ากันแล้วคุณเข้าใจไหม!คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันอย่างนี้ทั้งๆที่ฉันไม่ได้เต็มใจ!”
โจวฉือเซินขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “ก็คุณเป็นคนขอหย่า”
“แล้วลายเซ็นอีกคนบนใบหย่าเป็นของหมาตัวไหน?!”
โจวฉือเซินเอ่ยพูดทั้งๆที่สีหน้ายังไม่เปลี่ยนไป “ผมเสียใจ”
หร่วนซิงหว่านไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับมาแบบนี้ จึงนิ่งสนิทไปทันที น้ำตาเกาะอยู่บนขนตา ไม่ได้ไหลลงมาในทันที
น้ำเสียงไร้ความรู้สึกของเขาดังขึ้นมาอีกครั้ง “เรื่องแต่งงานจะจบลงเมื่อไหร่ ผมตัดสินใจได้แค่คนเดียว”
อารมณ์ของหร่วนซิงหว่านค่อยๆสงบลง “งั้นคุณคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ”
ริมฝีปากบางเฉียบของโจวฉือเซินเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ตอนนี้เองประตูก็ถูกเปิดออกมาอีกครั้ง”
ครั้งนี้เพ้ยซานซานตื่นเต็มตา เธออาศัยจังหวะที่โจวฉือเซินไม่ทันได้ตั้งตัว ลากหร่วนซิงหว่านเข้ามาในห้อง
จากนั้นก็ปิดประตูลงกลอน
เพ้ยซานซานมองมาที่หร่วนซิงหว่าน แล้วพูดเสียงเบาว่า “ซิงซิง แกไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ผมของหร่วนซิงหว่านยุ่งไปหมด ดวงตาก็แดงก่ำ แถมปากก็ทั้งบวมทั้งแตก
มองตรงไหนก็ไม่เหมือนคนไม่เป็นอะไร
หร่วนซิงหว่านส่ายหน้าเบาๆ เธออยากพูดอะไรออกมา แต่ก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...